รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 11, 2011 11:00 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 2554

Summary:

1. น้ำท่วมส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บนิโภคลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี มาอยู่ที่ระดับ 62.8

2. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 7.25 สูงสุดเป็นประวัติการณ์

3. ส่งออกของจีนชะลอลงอยู่ที่ร้อยละ 15.9 ขณะที่นำเข้าขยายตัวเร่งขึ้น

Highlight:
1. น้ำท่วมส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บนิโภคลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี มาอยู่ที่ระดับ 62.8
  • นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเดือน ต.ค. 54 อยู่ที่ระดับ 62.8 ลดลงจากเดือน ก.ย. 54 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 72.2 เนื่องจาก (1) ผลกระทบจากอุทกภัย(2) ความกังวลปัญหาค่าครองชีพ และ (3) ความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก โดยดัชนีความเชื่อมั่นลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นดือนที่ 3 และต่าสุดในรอบ 10 ปี โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ปัญหาอุทกภัยสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวม และส่งผลให้คาดว่าในปี 54 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 1.5-2.5 อย่างไรก็ตาม กรณีเลวร้ายที่สุดหากเกิดน้ำท่วมทั้งหมดพื้นที่กรุงเทพมหานคร และนิคมอุตสาหกรรมสำคัญๆ ทั้งบางชันและลาดกระบังจะทำให้ GDP ในปี 54 ขยายตัวได้เพียงร้อยละ 0.5-1.0
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นที่ปรับตัวลดลงเป็นประวัติการณ์ดังกล่าวมีปัจจัยหลักมาจาก ผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่และรุนแรงที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. 54 โดยล่าสุดได้สร้างความเสียหายแก่ประชาชนกว่า 2.1 ล้านคน แรงงานในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยขาดรายได้ ตลอดจนภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมกว่า 7 แห่งได้รับความเสียหาย และจาเป็นต้องชะลอการผลิต ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้อง โดยคาดการณ์ว่าอุทกภัยครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายแก่ประเทศถึงกว่า 1.9 แสนล้านบาท และหรือส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 54 ขยายตัวชะลอลงจากคาดการณ์ ซึ่งคาดไว้ก่อนเหตุการณ์น้ำท่วม ณ เดือน มิ.ย. 54 ที่ร้อยละ 4.5 เหลือร้อยละ 2.7 (คาดการณ์ ณ วันที่ 1 พ.ย. 54 ประเมินโดยรวมผลกระทบของพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ภายใต้สมมติฐานน้ำท่วมร้อยละ 50 ของพื้นที่ ระยะเวลา 15 วัน)
2. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 7.25 สูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลอิตาลีปรับตัวเพิ่มขึ้น 48 Bps มาอยู่ที่ร้อยละ 7.25 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งสัญญาณการรับภาระต้นทุนการกู้ยืมเงินที่มากขึ้นของรัฐบาลอิตาลี ประเทศที่มีหนี้สาธารณะในระดับสูงที่ร้อยละ 120 ของ GDP สูงสุดเป็นอันดับที่สองของสหภาพยุโรป
  • สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นของพันธบัตรรัฐบาลมีสาเหตุสาคัญมาจากความไม่แน่นอนของการเมืองภายในประเทศ สืบเนื่องมาจากประชาชนไม่เห็นด้วยต่อการปรับลดงบประมาณรายจ่าย อันเป็นส่วนหนึ่งในเงื่อนไขการรับความช่วยเหลือจาก EU และ IMF ความไม่สงบทางการเมืองดังกล่าวประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของกรีซ ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าสหภาพยุโรปอาจยุติลงหรืออาจเป็นผลให้กรีซและอิตาลีถูกตัดออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่ทาให้นักลงทุนบางส่วนต้องการการประกันความเสี่ยงที่มากขึ้น และนักลงทุนอีกเป็นจานวนมากขายพันธบัตรอิตาลี โดยเฉพาะพันธบัตรระยะยาว บ่งชี้ว่านักลงทุนไม่มีความมั่นใจต่อสภาพเศรษฐกิจของอิตาลีแม้ในระยะยาว จึงเป็นผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 7.25 ดังกล่าว
3. ส่งออกของจีนชะลอลงอยู่ที่ร้อยละ 15.9 ขณะที่นาเข้าขยายตัวเร่งขึ้น
  • มูลค่าการส่งออกของจีนเดือน ต.ค. 54 ขยายตัวชะลอลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี มาอยู่ที่ร้อยละ 15.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า สอดคล้องกับการชะลอลงของเศรษฐกิจโลก โดยวิกฤตหนี้สาธารณะภายในสหภาพยุโรปซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสาคัญของจีน คิดเป็นร้อยละ 18.7 ของมูลค่าการส่งออกรวม ทาให้อุปสงค์ต่อสินค้าและการบริการของจีนลดลง ขณะที่มูลค่าการนาเข้าขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ที่ร้อยละ 28.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า สะท้อนความแข็งแกร่งของการบริโภคภาคเอกชนภายในประเทศ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจจีนพึ่งพาการส่งออกเป็นมูลค่าระดับสูง การขยายตัวชะลอต่อเนื่องของมูลค่าการส่งออกจีนจึงชะลอลงสะท้อนเศรษฐกิจคู่ค้าสาคัญเช่นสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่นที่เปราะบาง ขณะที่มูลค่าการนาเข้าขยายตัวเร่งขึ้นในเดือน ต.ค. 54 สะท้อนว่าเศรษฐกิจภายในของจีนยังคงมีความแข็งแกร่งท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจย่ำแย่ของโลก โดยจีนสามารถพึ่งพิงการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่เข้มแข็งเพื่อชดเชยการชะลอตัวของภาคการส่งออกได้ โดย ณ เดือน ก.ย. 54 สศค. ประมาณการเศรษฐกิจจีนปี 54 ขยายตัวชะลอลงร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ขณะที่ปี 55 เศรษฐกิจจะชะลอตัวต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ทั้งนี้ จีนเป็นคู่ค้าหลักอันดับที่ 1 ของไทยมีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 11.0 ของมูลค่าการส่งออกรวม การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาคการส่งออกของไทย ซึ่งภาคการส่งออกของไทยไปยังจีนได้รับผลกระทบแล้วตั้งแต่เดือน ส.ค. 54 ทาให้การส่งออกของไทยไปยังจีนขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 50.1 เทื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ชะลอตัวลงจากร้อยละ 83.8 ในเดือน ก.ค. 54

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ