รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 6 ธันวาคม 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 6, 2011 11:59 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 6 ธันวาคม 2554

Summary:

1. ผู้บริหารธปท.กำชับนายแบงก์ต้องลดดอกเบี้ยทั้งเงินกู้ และเงินฝาก

2. ททท.ลุยฟื้นท่องเที่ยวจีน — ญี่ปุ่น

3. บ. Credit Rating ของจีน คงความน่าเชื่อถือเงินหยวนไว้ที่ AA+

Highlight:
1. ผู้บริหารธปท.กำชับนายแบงก์ต้องลดดอกเบี้ยทั้งเงินกู้ และเงินฝาก
  • ผู้ว่าการ ธปท. เผยหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่า ธปท.กำลังติดตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและกู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าธนาคารพาณิชย์จะปรับลดลงได้เมื่อใด เนื่องจากดอกเบี้ยจะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน เช่น ดอกเบี้ยในตลาดเงิน สภาพคล่องภายในของธนาคาร ปริมาณเงินฝาก และปริมาณสินเชื่อ ทั้งนี้ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงเป็นขาขึ้น เนื่องจากยังคงมีแรงกดดันด้านราคาจากกิจกรรมในประเทศที่จะเร่งตัวขึ้นจากการฟื้นฟูหลังน้าลด รวมทั้งจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จากร้อยละ 3.50 ลงเหลือร้อยละ 3.25 เป็นจุดเริ่มต้นของการทานโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย (Expansion Monetary Policy) อีกครั้ง หลังล่าสุดได้ดำเนินนโยบายดังกล่าวในช่วงวิกฤติการเงินโลกในปี 2551 โดยคาดว่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนใหม่เพื่อซ่อมแซม ฟื้นฟูทรัพย์สิน และลดภาระดอกเบี้ยของผู้ประกอบการ ทาให้สามารถกลับมาดาเนินการผลิตได้เร็วขึ้น ทั้งนี้พบว่าหลัง กนง.ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ประเภท กู้ยืมข้ามคืน (Overnight) ได้ปรับลดจากร้อยละ 3.4 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.15
2. ททท.ลุยฟื้นท่องเที่ยวจีน — ญี่ปุ่น
  • รองผู้ว่าการตลาดเอเชียและแปซิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมวางแผนกลยุทธ์เข้าไปสนันสนุนบริษัทนำเที่ยวในลักษณะร่วมทุนเอเยนต์ทัวร์ร้อยละ 50 เพื่อเจาะตลาด 10 มณฑลของจีนด้วยการจัดเที่ยวบินเหมาลาบินตรงเข้าไทยตั้งแต่ พ.ค.55 เพื่อกระตุ้นการเดินทางในช่วงโลว์ซีซั่นและเปิดตลาดใหม่จากจีนซึ่งมีความต้องการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยแต่ยังไม่มีเที่ยวบิน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การร่วมลงทุนของบริษัทนาเที่ยวและ ททท. จะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของเที่ยวไทย โดยข้อมูลล่าสุดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือน ต.ค. 54 มีจานวน 1.41 ล้านคน ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.0 แต่หดตัวจากเดือนก่อนหน้าหลังหักผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) ร้อยละ -13.8 ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งส่งผลต่อจิตวิทยาของนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ดีช่วง 10 เดือนแรกปี 54 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศทั้งสิ้น 15.80 ล้านคน คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 25.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนภาคการท่องเที่ยวต่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการช่วยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย โดยการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วง 10 เดือนแรกปี 54 มาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีน (Share 7.0) เป็นหลักโดยขยายตัวสูงสุดร้อยละ 84.8 ในขณะที่ญี่ปุ่น(Share 6.2) มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 36.0 ตามลำดับ
3. บ. Credit Rating ของจีน คงความน่าเชื่อถือเงินหยวนไว้ที่ AA+
  • สำนักข่าวซินหัวเผย บ. ต้ากง โกลบอล ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของจีน ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินหยวนของจีนไว้ที่ระดับ AA+ และคงอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินต่างประเทศของจีนไว้ที่ AAA (แนวโน้มมีเสถียรภาพ) โดยระบุว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของจีนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้จีนเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศและวิกฤตหนี้ยุโรปก็ตาม
  • สศค.วิเคราะห์ว่า จีนยังคงมีเสถียรภาพทางเศรฐกิจในระดับสูง เมื่อพิจารณาจากปริมาณทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในจีนที่มีมากกว่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่ส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (Real GDP Growth) ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดย 3 ไตรมาสแรกปี 54 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 9.4 ต่อปี แม้ว่าจะยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและวิกฤตหนี้ยุโรป แต่จากมาตรการด้านการเงินแบบตึงตัวส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงอย่างต่อเนื่องจากระดับร้อยละ 6.3 ในไตรมาส 3 มาอยู่ที่ร้อยละ 5.5 เมื่อ ต.ค.54 อีกทั้งนโยบายการเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ (Domestic Consumption) เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงจากการพึ่งพาการส่งออก จะช่วยให้จีนยังคงเป็นประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ทั้งนี้ สศค.คาดการณ์ (ณ ก.ย.54) ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวในระดับเฉลี่ยร้อยละ 9.2 ในปี 54

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ