Macro Morning Focus ประจำวันที่ 14 ธันวาคม 2554
1. ธปท.ติดตามสถานการณ์หนี้ยุโรป เชื่อไม่กระทบเศรษฐกิจไทย
2. อธิบดีกรมการท่องเที่ยวคาดปีหน้านักท่องเที่ยวมาไทย 19.5 ล้านคน
3. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. ของญี่ปุ่นลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า ได้มีการติดตามสถานการณ์ปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มประเทศยุโรปอย่างใกล้ชิด ซึ่งก็พบว่าปัญหาดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนสูงและคาดว่าจะใช้เวลานานในการแก้ปัญหาซึ่งอาจไม่กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยมากนัก เพราะถ้าดูประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าที่ ธปท.ประเมินไว้ร้อยละ 4.8 ก็เป็นการประเมินบนการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปไม่สู้ดีนัก ในขณะนีก้ ยังไม่เห็นสัญญาณว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงไปกว่าที่ธปท.คาดการณ์ไว้
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2555 คาดว่าจะขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 5.0 เนื่องจากจะเป็นปีแห่งการฟื้นฟูประเทศ รวมถึงแรงกระตุ้นจากนโยบายต่างๆของรัฐบาล อย่างไรก็ดี ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองในปี หน้า คือ (1) ความเสี่ยงจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปและ (2) ทิศทางการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยในฐานะที่เป็ นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทยในปัจจุบัน ทั้งนี้ปัจจัยต่างๆเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดย สศค.ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกในปี 55 จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.2 ต่อปี
- อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาสร้างความเสียหายต่อแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคกลางเป็นอย่างมาก ซึ่งขณะนีอ้ ยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการฟื นฟูอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี ไม่ได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง แต่กลับมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึน้ จากปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 17 — 18 เนื่องจากยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะทะเลในภาคใต้และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในภาคเหนือ ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวไทยอย่างแพร่หลาย และคาดว่าในปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 19.5 ล้านคน
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากข้อมูลล่าสุด 12 วันแรกในเดือน ธ.ค. 54 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (มีสัดส่วนคิดเป็นประมาณร้อยละ 70 จากด่านทั้งหมด) ทั้งสิ้น 3.74 แสนคน กลับมาขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อนร้อยละ 10.5 จากเดือน พ.ย.54 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในภาพรวมหดตัวร้อยละ -17.9 นับเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 18 เดือน หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในเดือนพ.ค. 53 เป็นผลมาจากปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้หลายประเทศ (ซึ่งคิดเป็ นสัดส่วนประมาณร้อยละ 60 ของทั้งหมด)ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งส่งผลต่อจิตวิทยาของการเดินทางของนักท่องเที่ยวลดลง อย่างไรตามในช่วง 11 เดือนแรกปี 54 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศทั้งสิ้น 17.1 ล้านคนคิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 21.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าทั้งปี 54 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 19.1 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 20.1 สะท้อนภาคการท่องเที่ยวต่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการช่วยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย
- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น รายงานว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.54 ของญี่ปุ่นลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวท่ามกลางวิกฤติหนี้ยุโรปการแข็งค่าของเงินเยนและราคาหุ้นที่ร่วงลง โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนที่มีสมาชิก 2 คน หรือมากกว่าอยู่ที่ระดับ 38.1 ลดลงจากจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 38.6
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นที่ลดลงสะท้อนถึงความไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยล่าสุด อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 3 ปี 54 ขยายตัวร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี ก่อน เพิ่มขึน้ จากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.5 โดยปัจจัยหลักที่ช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจญี่ปุ่น (Contribution to GDP Growth) เติบโตคือ ภาคการบริโภคภาคเอกชนและภาคการส่งออก อย่างไรก็ตาม ภาคการบริโภคภายในประเทศเริ่มมีสัญญาณที่ไม่ดี สะท้อนจากรายได้เฉลี่ยที่แท้จริงของผู้บริโภคในเดือน ต.ค.54 หดตัวร้อยละ -2.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวมากขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ -0.7 รวมทั้งอัตราการว่างงานในเดือน ต.ค.54 อยู่ที่ร้อยละ 4.5 ของกำลังแรงงานรวม เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 4.1 นอกจากนี้ ในส่วนของภาคการผลิตที่เริ่มฟื้นตัวภายหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิ ก็ต้องเผชิญผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในประเทศไทยซึ่งเป็ นฐานการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญของญี่ปุ่น และส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกและเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ทั้งนี้ สศค. คาดว่า GDP ของญี่ปุ่นในปี 54 จะหดตัวร้อยละ -0.6 และในปี 55 ขยายตัวร้อยละ 2.5 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 54) ซึ่งจะมีการพิจารณาปรับประมาณการอีกครั้งในช่วงสิ้นเดือน ธ.ค.54
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th