รายงานภาวะเศรษฐกิจรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 26 - 30 ธันวาคม 2554

Executive Summary

• ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน พ.ย. 54 หดตัวร้อยละ -48.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
• ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือน พ.ย. หดตัวที่ร้อยละ -7.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตร หดตัวร้อยละ -1.5
• ปริมาณจำหน่ายปูนซิเมนต์ภายในประเทศเบื้องต้นในเดือน พ.ย. 54 หดตัวร้อยละ -0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. 54 อยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 8 เดือนที่ระดับ 64.5
• ในวันที่ 28 ธ.ค. 54 ธนาคารในยุโรปฝากเงินกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) กว่า 452 พันล้านยูโร
• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ในเดือน พ.ย. 54 หดตัวร้อยละ -2.6 จากเดือนก่อนหน้า (%mom_sa)
• อัตราการว่างงานญี่ปุ่น (ปรับผลทางฤดูกาล) ในเดือน พ.ย. 54 คงที่จากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 4.5 ของกำลังแรงงานรวม
• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเกาหลี ในเดือน พ.ย. 54 ขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

Indicators Forecast Previous Dec : Headline Inflation (% YoY) 4.1 4.2

• โดยเป็นผลมาจากสถานการณ์อุทกภัยที่คลี่คลายลง ส่งผลให้ราคาผักสด และไข่ไก่ปรับตัวลดลง ในขณะที่ราคาเนื้อหมูมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ราคาหมวดยานพาหนะและเชื่อเพลิงมีการปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน จากการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษเช่นเดิม หลังจากมีการยกเว้นการจัดเก็บในเดือน พ.ย.54 ทั้งนี้เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (%mom) อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวสูงขึ้นร้อยละ 0.1

• ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน พ.ย. หดตัวร้อย ละ -48.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -30.1 โดยปัจจัยหลักที่ทาให้ดัชนีฯ หดตัวต่อเนื่องและรุนแรง เนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมสาคัญ 7 แห่งใน จ.อยุธยาและปทุมธานีได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ อิล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ ขณะที่นิคมต่างๆ ดังกล่าว เพิ่งได้รับการแก้ไขในส่วนของการสูบน้าออกจากนิคมฯ แล้วเสร็จในช่วงต้น ธ.ค.54 และมีเพียงไม่กี่โรงงานที่เพิ่งเริ่มการผลิตใหม่ในช่วงกลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ในช่วง 11 เดือนแรกปี 54 ดัชนี MPI หดตัวที่ร้อยละ -7.9
• ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือน พ.ย. 54 หดตัวที่ร้อยละ -7.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 7.4 ตามการลดลงของผลผลิตในหมวดพืชผล และปศุสัตว์เป็นสาคัญ โดยเฉพาะข้าวนาปี และผลผลิตไก่เนื้อ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาน้าท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ราบลุ่มภาคกลาง และบางส่วนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเมื่อพิจารณาอัตราการขยายตัวในลักษณะต่อเดือนแล้วขจัดผลทางฤดูกาลออก พบว่าดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือนพ.ย. 54 หดตัวในอัตราเร่งร้อยละ -10.1 จากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรก ปี 54 ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวที่ร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวปีก่อน
• ดัชนีราคาสินค้าเกษตรในเดือน พ.ย. 54 หดตัวร้อยละ -1.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 5.4 ซึ่งเป็นการหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 24 เดือน ตามการลดลงของราคาผลผลิตสาคัญ โดยเฉพาะยางพารา และมันสาปะหลัง โดยมีสาเหตุหลักมาจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ลดลง ตามการชะลอตัวอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ประกอบกับผลผลิตที่เริ่มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากกผลกระทบจากโรคระบาดคลี่คลายลง ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรกปี 54 ดัชนีราคาสินค้าเกษตรขยายตัวที่ร้อยละ 14.1
• ปริมาณจาหน่ายปูนซิเมนต์ภายในประเทศเบื้องต้นในเดือน พ.ย. 54 หดตัวร้อยละ -0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 11.7 และเมื่อปรับผลทางฤดูกาล หดตัวร้อยละ -4.9 หดตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -8.1 โดยเป็นผลมาจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่เป็นสาคัญ ทาให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างต้องหยุดชะงักการก่อสร้าง รวมถึงการขาดแคลนวัสดุก่อสร้างที่มีอุปสรรคจากเส้นทางคมนาคมที่ถูกตัดขาดจากปัญหาน้าท่วม นอกจากนี้ ราคาวัสดุก่อสร้างมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน พ.ย.54 อยู่ที่ร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 7.2

• อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ธ.ค.54 คาดว่าจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 4.2 โดยเป็นผลมาจากสถานการณ์อุทกภัยที่คลี่คลายลง ส่งผลให้ราคาผักสด และไข่ไก่ปรับตัวลดลง ในขณะที่ราคาเนื้อหมูมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ราคาหมวดยานพาหนะและเชื่อเพลิงมีการปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน จากการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษเช่นเดิม หลังจากมีการยกเว้นการจัดเก็บในเดือน พ.ย.54 ทั้งนี้เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (%mom) อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวสูงขึ้นร้อยละ 0.1

Global Economic Indicators: This Week

• ธนาคารในยุโรปฝากเงินกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) กว่า 452 พันล้านยูโรในหนึ่งวัน (วันที่ 28 ธ.ค. 54) ซึ่งเป็นหนึ่งสัญญาณว่าธนาคารส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมปล่อยสภาพคล่องแม้จะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.54 อยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 8 เดือนที่ระดับ 64.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 55.2 จากความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นต่อภาวะการจ้างงาน ดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมือง (S&P/Case-Shiller 20yy) ในเดือน ต.ค.54 หดตัวร้อยละ -3.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีการทาสัญญาซื้อขายบ้าน (Pending Home Sales) เดือน พ.ย. 54 ขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 20 เดือนที่ร้อยละ 7.3 จากเดือนก่อนหน้า (%mom) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน บ่งชี้สัญญาณฟื้นตัวที่ดีของภาคอสังหาริมทรัพย์

• ธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารจีนตกลงสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตรา (YenYuan Settlement) (วันที่ 25 ธ.ค. 54) เพื่อเอื้อการค้าและการลงทุนระหว่างญี่ปุ่นและจีน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นประกาศเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลจีนในปีหน้าธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางอินเดียตกลงทา Swap line ระยะเวลา 3 ปี วงเงิน 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อภาคการเงินจากวิกฤตหนี้ในยุโรป ยอดค้าปลีกเดือน พ.ย. 54 หดตัวร้อยละ 2.1 จากเดือนก่อนหน้า (%mom) หรือหดตัวร้อยละ -2.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ย. 54 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ร้อยละ -0.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือหดตัวร้อยละ -0.6 จากเดือนก่อนหน้า (%mom_sa) โดยอัตราเงินเฟ้อไม่รวมอาหารและพลังงานหดตัวร้อยละ -1.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย.54 หดตัวร้อยละ -2.6 จากเดือนก่อนหน้า จากการหดตัวของผลผลิตรถยนต์และอิเล็คทรอนิกส์ อัตราการว่างงาน (ปรับผลทางฤดูกาล) เดือน พ.ย.54 คงที่จากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 4.5 ของกำลังแรงงานรวม ขณะที่ลดลงร้อยละ -0.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับจานวนการจ้างงานในเดือน พ.ย. 54 ที่เพิ่มขึ้น 80,000 ตำแหน่งงานหรือร้อยละ 0.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

• มูลค่าการนำเข้า เดือน ต.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 11.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าจากการนำเข้าสินค้าหมวดอิเล็กทรอนิกส์ที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 (สัดส่วนการนาเข้าร้อยละ 24.7 ของมูลค่าการนำเข้ารวม) ซึ่งหดตัวร้อยละ -19.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

• มูลค่าการส่งออก เดือน พ.ย. 54 ขยายตัวที่ร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวที่ร้อยละ 11.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามการชะลอลงของเศรษฐกิจคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะจากเศรษฐกิจยูโรโซนซึ่งยังคงประสบปัญหาหนี้สาธารณะเรื้อรัง ผนวกกับเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณชะลอลงชัดเจน ขณะที่มูลค่าการนำเข้า เดือน พ.ย. 54 ขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย. 54 ขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า หรือหดตัวที่ร้อยละ -0.4 จากเดือนก่อนหน้า (หลังขจัดปัจจัยทางฤดูกาลแล้ว) จากการผลิตในหมวดสินค้าทุน และการก่อสร้างหดตัวอย่างมีนัยสาคัญ ขณะที่การผลิตเพื่อการส่งออกชะลอลงชัดเจน สะท้อนเศรษฐกิจเกาหลีที่เริ่มส่งสัญญาณแผ่วลง ทั้งจากอุปสงค์ภายในและภายนอกประเทศ ทั้งนี้ คาดว่าภาคการส่งออกเกาหลีใต้รวมถึงประเทศอื่นๆในภูมิภาคจะชะลอลงต่อเนื่องในระยะต่อไป จาก (1) วิกฤตหนี้สาธารณะในสหภาพยุโรปที่ยังคงเรื้อรัง และ (2) เศรษฐกิจจีนที่เปรียบเสมือนกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สาคัญของภูมิภาคเริ่มชะลอลง ทั้งนี้สิ่งที่น่าจับตามองคือสถานการณ์การเมืองในคาบสมุทรเกาหลี หลังการเปลี่ยนแปลงผู้นาคนใหม่ของประเทศเกาหลีเหนือ โดยล่าสุดสถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือน สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกาหลีใต้ในเดือน ธ.ค. 54 ที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 99

• อัตราเงินเฟ้อ เดือน พ.ย. 54 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากราคาต้นทุนบ้าน การขนส่ง และอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น ร้อยละ 10.0 ร้อยละ 11.6 และร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามลาดับ

• ดัชนี SET ปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆ ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรปบ้าง ประกอบกับเริ่มเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 26 - 29 ธ.ค. 54 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 397 ล้านบาท ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรของไทยมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย โดยผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาวปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากอุปสงค์ในตลาดที่มีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลางปรับตัวสูงขึ้นจากการเทขายของนักลงทุน ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 26 - 29 ธ.ค. 54 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,909 ล้านบาท
• ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยปิดที่ระดับ 31.73 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 29 ธ.ค. 54 อ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ร้อยละ 1.50 จากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลหลักและค่าเงินในภูมิภาค โดยเฉพาะค่าเงินยูโร เงินริงกิตมาเลเซีย เงินวอนเกาหลีใต้ และค่าเงินสิงคโปร์ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ร้อยละ 1.4 จากการที่ค่าเงินคู่ค้าต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในอัตราที่ช้ากว่าการอ่อนค่าของค่าเงินบาทไทย
• ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ โดยราคาทองคา ณ วันที่ 29 ธ.ค. 54 ปิดที่ 1,546 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลดลงมากจากต้นสัปดาห์ที่ปิดที่ 1,605 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว นักลงทุนจึงหันกลับไปถือดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนน้อยกว่าทองคำ

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

---