Macro Morning Focus ประจำวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555
Summary:
1. เงินเฟ้อเดือน ม.ค. 55 ขยายตัว 3.38%
2. กสิกรไทยมองเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ผงกหัว
3. ว่างงานยูโรโซนเดือนธ.ค.54 พุ่งทำสถิติสูงสุด
Highlight:
1. เงินเฟ้อเดือน ม.ค. 55 ขยายตัว 3.38%
- กระทรวงพาณิชย์ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน ม.ค. 55 ว่า อยู่ที่ 113.21 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.38 จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ (Core CPI) เดือนม.ค. 55 อยู่ที่ 107.26 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.75 จากเดือนเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.25 เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 54
- สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ม.ค. 55 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าพบว่า เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.39 (%mom) โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ามันในประเทศตามการเพิ่มขึ้นของราคาน้ามันในตลาดโลก และการเพิ่มขึ้นของราคาค่าไฟฟ้า เนื่องจากมีการปรับลดเกณฑ์ค่าไฟฟรีจาก 90 หน่วยเหลือ 50 หน่วย ผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในประเทศ ในขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ ไข่และผักสด มีการปรับตัวลดลง ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 55 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.0 — 4.0 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ร้อยละ 2.3 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.8 — 2.8 คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค. 54
2. กสิกรไทยมองเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ผงกหัว
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่าทิศทางการหดตัวของเศรษฐกิจไทยน่าจะสิ้นสุดลงแล้วในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 54 และน่าจะกลับมาขยายตัวได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปี 55 เป็นต้นไป โดยเบื้องต้นคาดว่า GDP ในไตรมาสที่ 1 ปี 55 จะอยู่ที่ร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการใช้จ่ายในประเทศและการลงทุนภาครัฐจะเป็นตัวสนับสนุนเศรษฐกิจไทย ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงหนี้ยุโรปและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวจะเป็นปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย
- สศค. วิเคราะห์ว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือน ธ.ค. 54 มีสัญญาณคลี่คลายลงตามลาดับภายหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้าท่วมครั้งรุนแรงของประเทศ ได้แก่ (1) มูลค่าการส่งออกสินค้ามีมูลค่า 17.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ -2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -14.4 (2) ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ -25.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวถึงร้อยละ -47.2 โดยเป็นการหดตัวในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์เป็นสาคัญ (3) การใช้จ่ายภายในประเทศ สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัวร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ -1.0 ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในปี 55 คาดว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายเพิ่มรายได้ของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐที่จะมีบทบาทสาคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต ทั้งนี้ สศค. คาดว่า GDP ของไทยในปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 5.0 โดยมีช่วงคาดการณ์ร้อยละ 4.5 - 5.5 (คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค.54)
3. ว่างงานยูโรโซนเดือนธ.ค.54 พุ่งทำสถิติสูงสุด
- สำนักงานสถิติของสภาพยุโรป หรือยูโรแต็ท เปิดเผยว่า ตัวเลขการว่างงานของยูโรโซนพุ่งแตะระดับ 10.4% ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2542 ที่มีการรวมกลุ่มเงินยูโร และสูงกว่าปี 2553 ซึ่งอัตราการว่างงานอยู่ที่ 10.0% ส่วนอัตราการว่างงานของ 27 ชาติยุโรปอยู่ที่ 9.9%
- สศค.วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนปี 55 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนที่คาดว่าจะชะลอตัวตามการว่างงานที่สูงขึ้น ประกอบกับรายจ่ายรัฐบาลที่หดตัวลงตามนโยบายตัดลดงบประมาณรายจ่ายเพื่อลดการขาดดุลการคลังของรัฐบาลที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะ และการส่งออกที่ขยายตัวลดลงตามเศรษฐกิจโลก ซึ่งปัจจุบันอัตราการว่างงานในยูโรโซนยังทรงตัวในระดับสูงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ทั้งนี้ในเดือนธ.ค. มีประชากร 16.5 ล้านคนใน 17 ชาติยูโรที่ว่างงาน เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย. ถึง 2 หมื่นคน โดยสเปนมีอัตราการว่างงานสูงสุดที่ร้อยละ 22.9 (พ.ย.) กรีซเป็นอันดับสองร้อยละ 19.2 ซึ่งภาพรวมอัตราการว่างงานของสมาชิก 27 ประเทศของสหภาพยุโรปเดือนธ.ค.ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 9.9 คิดเป็นจานวนคนว่างงาน 23.8 ล้านคน และเมื่อพิจารณาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาสที่ 3 รายประเทศ พบว่ามีเพียงเศรษฐกิจเยอรมนี และฝรั่งเศสเท่านั้นที่ยังคงมีการขยายตัว (ร้อยละ 0.5 q/q และ 0.4 q/q) ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากวิกฤติหนี้สาธารณะที่เริ่มส่งผลกระทบถึงประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ขณะที่อัตราการขยายตัวของประเทศที่อยู่ในเขตรอยขอบ (โปรตุเกส ไอร์แลนด์ อิตาลี) ยังคงแสดงถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างต่อเนื่อง โดยมีการขยายตัวแบบติดลบ ทั้งนี้ สศค.คาดว่าเศรษฐกิจยูโรจะหดตัวร้อยละ -0.8 ในปี 55 (คาดการณ์ ณ ธ.ค. 54)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th