รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 27, 2012 16:26 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555

Summary:

1. สินเชื่อแบงก์เดือน ม.ค. 55 โตดี

2. คาด ราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล มีโอกาสแตะลิตรละ 50 บาท

3. IMF คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 55 ขยายตัวร้อยละ 5.5 หลังผ่านวิกฤตน้ำท่วม

Highlight:
1. สินเชื่อแบงก์เดือน ม.ค. 55 โตดี
  • นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ 9 แห่งเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเดือน ม.ค. 55 ที่ร้อยละ 14.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือขยายตัวร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 54 โดยธนาคารไทยพาณิชย์มีอัตราการเติบโตของสินเชื่อสูงที่สุดที่ร้อยละ 1.4 ตามมาด้วยธนาคารกรุงเทพ ที่ขยายตัวร้อยละ 1.3 ขณะที่ทางด้านเงินฝากพบว่า ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกสิกรไทยขยายตัวสูงที่สุดที่ร้อยละ 5.4 และ 3.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การเติบโตในระดับสูงของสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในเดือน ม.ค. 55 สะท้อนถึงบทบาทส้าคัญของสินเชื่อในการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจหลังประสบมหาอุทกภัยในไตรมาส 4 ปี 54 โดยเฉพาะผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีความต้องการใช้สินเชื่อมากเพื่อน้าไปซื้อเครื่องจักรใหม่ ตลอดจนบริหารสภาพคล่องของธุรกิจ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อการลงทุนภาคเอกชน และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในที่สุด ทั้งนี้ สศค. คาดว่า การลงทุนภาคเอกชนในปี 2555 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 10.3 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 9.3 - 11.3) ส่วนเศรษฐกิจไทยในปี 55 นั้นจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.0 (คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค. 54) และจะมีการปรับประมาณการใหม่อีกครั้งในเดือน มี.ค. 55
2. คาด ราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล มีโอกาสแตะลิตรละ 50 บาท
  • ผู้อ้านวยการส้านักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกของ สนพ. พบว่า ราคาน้ำมันมีโอกาสแตะระดับ 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากสถิติเดิมที่ 147 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในปี 2551 แม้ว่าจะไม่เกิดสงครามในตะวันออกกลาง แต่มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีทิศทางเพิ่มขึ้น เช่น การหยุดเดินระบบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของญี่ปุ่น, อัตราการว่างงานในสหรัฐฯลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจดีขึ้น ประกอบกับช่วงเข้าสู่ฤดูร้อนของสหรัฐฯ ที่ประชาชนจะขับรถเที่ยวท้าให้การใช้น้ำมันเบนซินมากขึ้น และปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซได้รับการช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่า ปัจจัยดังกล่าวจะท้าให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซล มีโอกาสถึงระดับ 50 บาทต่อลิตร
  • สศค.วิเคราะห์ว่า ในปี 2555 คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 35.0 (ราคาเฉลี่ยทั้งปี 54 อยู่ที่ 105.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล) โดยการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบโลกเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของความต้องการน้ำมันดิบต่อวัน อย่างไรก็ตาม ในเดือนม.ค.55 IEA ได้ประกาศลดการคาดการณ์ความต้องการน้ำมันดิบต่อวันมาอยู่ที่ 90.0 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเดือนก่อนหน้าที่คาดการณ์อยู่ที่ 90.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นผลจากความกังวลวิกฤติหนี้สาธารณะยุโรปที่คาดว่าอาจจะส่งผลกระทบไปยังระบบเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยส้าคัญที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน คือ ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศอิหร่านกับกลุ่มประเทศยุโรป โดยหากมีความรุนแรงมากขึ้น ย่อมส่งผลต่อการเพิ่มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ ทั้งนี้ สศค.คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปี 55 จะอยู่ที่ 116 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (ประมาณการ ณ เดือนธันวาคม 54)
3. IMF คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 55 ขยายตัวร้อยละ 5.5 หลังผ่านวิกฤตน้ำท่วม
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 55 และปี 56 จะขยายตัวเร่งขึ้นต่อเนื่องที่ร้อยละ 5.5 ต่อปีและร้อยละ 7.5 ตามล้าดับ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก หลังจากประสบวิกฤตการณ์น้ำท่วมในช่วงไตรมาส 4 ปี 54 นอกจากนี้นายโธมัส รัมบอฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ IMF กล่าวว่า มาตรการผ่อนคลายของธนาคารแห่งประเทศไทยถือเป็นมาตรการที่สนับสนุนเศรษฐกิจอย่างเหมาะสม แต่ควรมีการลดมาตรการการกระตุ้นทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทันทีที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เพื่อป้องกันไม่ให้แรงกดดันจากเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2555 จะสามารถขยายตัวในอัตราเร่งได้ โดยมีปัจจัยส้าคัญ มาจาก 1) นโยบายเพิ่มรายได้ของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ เช่น การปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำและเงินเดือนข้าราชการ โครงการรับจ้าน้าข้าวเปลือก 2) นโยบายต่างๆ ของภาครัฐในการบูรณะฟื้นฟูประเทศ 3) การลงทุนของภาครัฐเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต และ 4) การลงทุนของภาคเอกชนที่ต้องน้ำเข้าครื่องมือเครื่องจักรในภาคอุตสาหกรรมที่เสียหายจากเหตุการณ์อุทกภัย อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในปี 55 ก็ต้องเผชิญกับอุปสงค์ต่างประเทศที่คาดว่าจะชะลอลงเล็กน้อยตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักที่มีแนวโน้มชะลอลงและปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะในกลุ่มสหภาพยุโรปที่ยังคงเรื้อรัง ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 55 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.0 โดยมีช่วงคาดการณ์ร้อยละ 4.5 - 5.5 (คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค.54) และจะมีการปรับประมาณการใหม่อีกครั้งในเดือน มี.ค. 55

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ