รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 12 มีนาคม 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 12, 2012 11:52 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2555

Summary:

1. ยอดตั้งบริษัทใหม่ ก.พ.55 สูงสุดรอบ 100 ปี

2. รมว. พลังงานย้ำก๊าซหุงต้มจ่อขึ้น

3. จีนขาดดุลการค้าครั้งแรกในรอบ 1 ปี ในเดือน ก.พ.55 หลังยอดนำเข้าพุ่ง

Highlight:
1. ยอดตั้งบริษัทใหม่ ก.พ.55 สูงสุดรอบ 100 ปี
  • นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่าการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือน ก.พ.55 ทั่วประเทศมีจำนวน 5,747 ราย เป็นสถิติการจดทะเบียนสูงสุดในรอบ 100 ปี ตั้งแต่มีการรับจดทะเบียนโดยเพิ่มขึ้น 654 ราย หรือเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.ปีก่อน และเพิ่มขึ้น 660 ราย หรือเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นการจัดตั้งในกรุงเทพฯ 2,100 ราย ส่วนภูมิภาค 3,647 ราย มีเงินทุนจดทะเบียนรวม 29,760 ล้านบาท
  • สศค.วิเคราะห์ว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ที่มากขึ้นในเดือน กพ. ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่มีต่อระบบเศรษฐกิจไทยว่าได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วและมีสัญญาณการฟื้นตัวจากวิกฤติอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังจะมีเม็ดเงินจากพระราชกำหนด (พรก.) ให้กระทรวงการคลังกู้เงินจำนวน 3.5 แสนล้านบาทเพื่อลงทุนสำหรับการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สศค. คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 55 มีแนวโน้มจะกลับมาขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 5.0 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.5 —5.5 (คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค. 55) อย่างไรก็ดี สศค.จะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในเดือนมี.ค.55
2. รมว. พลังงานย้ำก๊าซหุงต้มจ่อขึ้น
  • รมว.พลังงาน กล่าวว่า การศึกษาการปรับโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจี และเอ็นจีวีรอบใหม่ ได้มอบหมายให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษาให้แล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ และราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนจะต้องปรับขึ้นแน่นอน เพราะขณะนี้ราคาตลาดโลกสูงกว่าในประเทศมากเกือบ 4 เท่า ราคาตลาดโลกประมาณ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ในประเทศ 333 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน จึงมีการลักลอบส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านสูงขึ้นโดยราคาประเทศเพื่อนบ้านแอลพีจีอยู่ที่ 40-50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ในประเทศราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนอยู่ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้จะทยอยปรับโดยคำนึงถึงเงินเฟ้อและช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างช้าที่สุดไม่ถึงฤดูหนาวปีนี้หรือเดือนกันยายน
  • สศค.วิเคราะห์ว่า ในอดีตที่ผ่านมาภาครัฐได้มีมาตรการช่วยเหลือราคาด้านพลังงาน โดยใช้การแทรกแซงราคา ซึ่งมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นตัวจักรสำคัญในการควบคุมราคาพลังงานตัวอย่างเช่น การตรึงราคาก๊าซ LPG ให้มีราคาคงที่ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งภาคครัวเรือนภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง ในอดีตอย่างไรก็ตามในช่วง 2 ปีหลัง การบริหารราคาด้านพลังงานเริ่มประสบปัญหา เนื่องจากราคาพลังงานได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ ดังนั้น ภาครัฐจึงจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างราคาด้านพลังงาน เพื่อลดภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเริ่มจากการปรับเพิ่มราคาก๊าซ LPG ภาคอุตสาหกรรมไตรมาสละ 3 บาทต่อกก. ต่อมาคือ การปรับราคาก๊าซ LPG และ NGV เดือนละ 0.5 และ 0.75 บาทต่อกก.ตามลำดับ และล่าสุดคือแผนการปรับราคา LPG ภาคครัวเรือน ทั้งนี้การปรับราคาดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ และอาจเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อในปี 55 โดยสศค.คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 55 อยู่ที่ร้อยละ 3.5 (คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค. 54)
3. จีนขาดดุลการค้าครั้งแรกในรอบ 1 ปี ในเดือน ก.พ. 55 หลังยอดนำเข้าพุ่ง
  • ในเดือน ก.พ. 55 กรมศุลกากรจีนรายงานว่า จีนขาดดุลการค้า 31.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดในรอบ 1 ปีเนื่องจากการนำเข้าขยายตัวเร่งกว่ากว่าการส่งออก โดยมูลค่าการส่งออกในเดือน ก.พ. 55 อยู่ที่ 114.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 146.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ปัจจุบัน ยอดขาดดุลการค้ารวมอยู่ที่ 4.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ้
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การขาดดุลการค้าของจีนในเดือน ก.พ. 55 มีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยทางฤดูกาลของจีนซึ่งเป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์ทำให้มีการนำเข้าสินค้าเร่งกว่าการเพิ่มขึ้นของการส่งออก เมื่อพิจารณาการนำเข้ารายสินค้า พบว่าจีนมีการนำเข้าสินค้าหมวดทองแดงเพิ่มขึ้น และหมวดน้ำมันดิบตามความต้องการน้ำมันสูงของเกษตรกรเพื่อนำไปใช้ในฤดูเพาะปลูก ประกอบกับรัฐบาลมีการนำเข้าเพื่อสำรองปริมาณน้ำมันดิบหากสถานการณ์ความขัดแย้งในอิหร่านรุนแรงขึ้น ทั้งนี้หากพิจารณารายตลาด พบว่าจีนมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ระดับ 11.0 พันล้านเหรีญสหรัฐ ขยายตัวเร่งขึ้นร้อยละ 43.4 ต่อปี อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลจีน คาดว่าดุลการค้าจีนในปี 2555 จะยังคงเกินดุล เนื่องจากรัฐบาลจะออกมาตรการสนับสนุนผู้ส่งออกด้วยการลดค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในอนาคต

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ