รายงานภาวะเศรษฐกิจรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 30 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 8, 2012 10:09 —กระทรวงการคลัง

Executive Summary

Indicators this week
  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ในเดือน เม.ย. 55 อยู่ที่ร้อยละ 2.5 ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวร้อยละ 2.1
  • วันที่ 2 พ.ค.55 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 3.00
  • สินเชื่อเดือนมี.ค.55 ขยายตัวร้อยละ 15.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่เงินฝากสถาบันการเงิน ขยายตัวที่ร้อยละ 13.2
  • ดุลบัญชีเดินสะพัด ในเดือน มี.ค.55 ขาดดุล -1,521.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ในเดือน เม.ย. 55 อยู่ที่ระดับ 67.5
  • GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 1 ปี 55 (ตัวเลขเบื้องต้น) ขยายตัวร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
  • GDP ไต้หวัน ไตรมาส 1 ปี 55 (ตัวเลขเบื้องต้น) ขยายตัวร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
  • อัตราการว่างงานสหภาพยุโรป เดือน มี.ค. 55 อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ที่ร้อยละ 10.9 ของกำลังแรงงานรวม
  • วันที่ 3 พ.ค. 55 ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเดือน พ.ค.55 ไว้ที่ร้อยละ 1.0 ต่อปี
  • วันที่ 1 พ.ค. 55 ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.75
Indicators next week
Indicators Forecast Previous Apr: Real VAT(%YoY) 12.5 11.3
  • ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงปลายปีคลี่คลายลง ส่งผลให้ประชาชนมีความมั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีความมั่นผู้บริโภคในเดือนเม.ย. 55 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนและเป็นการปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน
Economic Indicators: This Week
  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน เม.ย.55 อยู่ที่ร้อยละ 2.5 ลดลงจากเดือน มี.ค.55 ที่อยู่ที่ร้อยละ 3.5 โดยมีสาเหตุหลักจากฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าขยายตัวที่ร้อยละ 0.4 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสำเร็จรูป เนื้อสัตว์ ผักสด และน้ำประปา ในขณะที่ราคาเนื้อ เป็ด ไก่ มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวร้อยละ 2.1 ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า
  • ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างในเดือน เม.ย. 55 ขยายตัวร้อยละ 4.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 4.5 และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 โดยดัชนีที่ปรับเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย.55 ได้แก่ ดัชนีในหมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีตสูงขึ้นร้อยละ 18.8 จากคอนกรีตบล็อคก่อผนัง-มวลเบา-ปูพื้น เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก หมวดวัสดุก่อสร้างอื่นๆสูงขึ้นร้อยละ 9.9 ได้แก่ อิฐ ทราย ยางมะตอย และหมวดวัสดุฉาบผิว สูงขึ้นร้อยละ 4.9 จากสีรองพื้นปูน สีเคลือบน้ำมัน เป็นต้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันและแก๊สที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงกระทบต่อค่าขนส่งสินค้าและวัตถุดิบก่อสร้าง
  • สินเชื่อเดือนมี.ค. 55 ขยายตัวร้อยละ 15.5 เมื่อเทียบกับช่วง เดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 15.6 ทั้งนี้หากวิเคราะห์ตามผู้ให้สินเชื่อพบว่าทั้งสินเชื่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจและธนาคารพาณิชย์ขยายตัวเร่งขึ้น จากความต้องการสินเชื่อของทุกภาคส่วนเพื่อบูรณะซ่อมแซมและลงทุนใหม่หลังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม โดยหากวิเคราะห์ลงไปในรายละเอียดพบว่าทั้งสินเชื่อผู้บริโภคและสินเชื่อธุรกิจขยายตัวเร่งขึ้นชัดเจน ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากภาวะน้ำท่วมจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของสินเชื่อในระยะต่อไปทั้งนี้ ควรจับตามองปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์วิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน รวมถึงการชะลอลงของเศรษฐกิจจีน รวมถึงต้นทุนของภาคธุรกิจที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต
  • เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 10.6 โดยหากเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดปัจจัยทางฤดูกาลแล้ว พบว่า ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 2.2 สะท้อนจากการเร่งระดมเงินฝากต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อตามมาตรการของภาครัฐและการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการแข่งขันระหว่างธนาคารพาณิชย์เพื่อรักษาฐานลูกค้าทั้งนี้ ควรจับตามองการปรับกลยุทธ์การระดมเงินทุนของสถาบันการเงิน โดยมีการเร่งระดมเงินทุนผ่านเงินฝากแทนตั๋วแลกเงินมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อเกณฑ์การควบคุมการระดมทุนผ่านตั๋วแลกเงินของ กลต. ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.ค. 55
  • วันที่ 2 พ.ค. 55 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 3.00 จากการที่ กนง. ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่อนคลายลงในช่วงที่ผ่านมามีส่วนช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของภาคเอกชนทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างน่าพอใจและเร็วกว่าที่คาด อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศ ในขณะที่ภาวะเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่จัดการได้ จึงเห็นว่าระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 3.00 เป็นระดับที่เหมาะสมในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะปกติและสอดคล้องกับการรักษาเงินเฟ้อในกรอบเป้าหมาย
  • ดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือน มี.ค. 55 ขาดดุล -1,521.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงมากจากเดือนก่อนหน้าที่เกินดุล 1,091.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยดุลการค้าขาดดุล -1,401.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามการส่งออกที่ชะลอลงมากจากอุปสงค์ภายนอกที่ชะตัวลง โดยเฉพาะการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปที่หดตัวลงมาก ในขณะที่ดุลบริการ รายได้ปฐมภูมิ และรายได้ทุติยภูมิขาดดุลเพียงเล็กน้อย -120.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการไหลเข้าของเงินค่าสินไหมทดแทนจากเงินประกันมูลค่า 996 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้จะมีเงินไหลออกเป็นเงินค่าระวางสินค้าและค่าโดยสารเดินทางจากการนำเข้าสินค้าในระดับสูงก็ตาม ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วงไตรมาสแรกของปี 55 เกินดุล 550.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือน เม.ย.55 อยู่ที่ระดับ 67.5 จากเดือนก่อนที่อยู่ที่ ระดับ 66.5 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่5 ติดต่อกัน เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและธุรกิจหลังน้ำท่วมเริ่มปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ผู้บริโภคยังคาดหวังว่าภาวะเศรษฐกิจและรายได้ในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวันนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 55 อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังกังวลปัญหาค่าครองชีพที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ตามราคาน้ำมันในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก
  • ปริมาณจำหน่ายเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กรวมภายในประเทศในเดือนมี.ค.55 หดตัว -0.6 เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -7.3 และเมื่อขจัดผลทางฤดูการออกพบว่าขยายตัวร้อยละ2.8 ทั้งนี้ การปรับตัวดีขึ้นดังกล่าวสอดคล้องกับดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม MPI) ในเดือนมี.ค. 55 ที่กลับมาหดตัวลดลงร้อยละ -3.2 โดยเฉพาะในหมวดการผลิตโลหะขั้นมูลฐานที่กลับมาขยายตัวร้อยละ 0.4 ต่อเนื่องจากเดือนก่อนโดยปริมาณจำหน่ายเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ขยายตัวมาจากปริมาณการจำหน่ายเหล็กในหมวดภาคการก่อสร้าง ได้แก่ เหล็กเส้นกลม ที่กลับมาขยายตัวร้อยละ 9.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -12.7 ขณะที่เหล็กที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมซึ่งสะท้อนจากเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีขยายตัวร้อยละ 22.8 จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 13.5 ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่2 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ปริมาณจำหน่ายเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กรวมภายในประเทศในไตรมาสที่ 1 ปี 55 หดตัวร้อยละ -9.1 ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -15.8
Economic Indicators: Next Week
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ในเดือน เม.ย. คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ11.3 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงปลายปีคลี่คลายลง ส่งผลให้ประชาชนมีความมั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนเม.ย.55 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนและเป็นการปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน

Global Economic Indicators: This Week

USA: mixed signal
  • GDP ไตรมาส 1 ปี 55 (ตัวเลขเบื้องต้น) ขยายตัวร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า หรือหากขจัดผลทางฤดูกาลแล้วจะขยายตัวร้อยละ 0.5 จากไตรมาสก่อนหน้า ผลจากการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวดีร้อยละ 8.7 และ 1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนตามลำดับ ในขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวร้อยละ -2.1 จากการตัดงบประมาณทางการทหาร ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (ISM Mfg PMI) เดือน เม.ย. 55 อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ที่ 54.8 จุด จากคำสั่งซื้อสินค้าใหม่และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ในขณะที่ดัชนีฯ ภาคบริการ (ISM Non-Mfg PMI) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 53.5 จากคำสั่งซื้อสินค้าใหม่ที่ลดลงแต่ดัชนีฯ ที่ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้การขยายตัวของภาคบริการอย่างต่อเนื่อง
China: mixed signal
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (Mfg PMI) จัดทำโดย NBS เดือน เม.ย. 55 อยู่ที่ระดับ 53.3 สูงสุดในรอบ 13 เดือน จากการผลิตเพื่อเพิ่มเติมสินค้าในคลัง ขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศและสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว สอดคล้องกับดัชนีฯ จัดทำโดย HSBC เดือน เม.ย. 55 ปรับตัวดีขึ้นแต่ยังส่งสัญญาณหดตัวอยู่ระดับ 49.3 จากการชะลอของภาคการผลิตจากอุปสงค์ที่ลดลง
Euro Zone: worsening economic trend
  • อัตราเงินเฟ้อ (ตัวเลขเบื้องต้น) เดือน เม.ย.55 อยู่ที่ร้อยละ 2.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าพลังงานเชื้อเพลิง เช่นเดียวกับอัตราการว่างงาน เดือน มี.ค.55 อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ที่ร้อยละ 10.9 ของกำลังแรงงานรวม จากมาตรการรัดเข็มขัดของประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนภายในประเทศโดยตรง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (ตัวเลขเบื้องต้น) เดือน เม.ย.55 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 45.9 จุด จากระดับ 46.0 จุดในเดือนก่อน ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับ 50.0 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 บ่งชี้การหดตัวต่อเนื่องของภาคอุตสาหกรรมเนื่องจากภาคการผลิตในยูโรโซนยังคงเลิกจ้างแรงงานต่อเนื่องและยอดคำสั่งซื้อใหม่ยังคงหดตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่11 จากมาตรการรัดเข็มขัด เมื่อวันที่3 พ.ค. 55 ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเดือน พ.ค.55 ไว้ที่ร้อยละ 1.0 ต่อปี เพื่อคงต้นทุนการกู้ยืมให้อยู่ในระดับต่ำ
Japan: mixed signal
  • คำสั่งซื้อภาคก่อสร้าง เดือน มี.ค.55 หดตัวชะลอตัวลงร้อยละ -0.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ผลมาจากการก่อสร้างที่อยู่อาศัยHousing Starts เดือน มี.ค.55 ขยายตัวเร่งขึ้นถึงร้อยละ 5.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากหดตัวอย่างมากในช่วงเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในปีที่ผ่านมา
Indonesia: mixed signal
  • มูลค่าการส่งออก เดือน มี.ค.55 ขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 5.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าการนำเข้า เดือน มี.ค.55 ขยายตัวเร่งขึ้นเช่นกันมาอยู่ที่ร้อยละ 13.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ดุลการค้าเกินดุล 840 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้านอัตราเงินเฟ้อ เดือน เม.ย.55 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 4.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนจากราคาอาหารสดและอาหารปรุงสำเร็จที่เพิ่มขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย.55 ลดลงมาที่ระดับ 102.5 ต่ำสุดตั้งแต่เดือน พ.ย.53 จากความกังวลด้านราคาพลังงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและกระทบกำลังซื้อ
South Korea: mixed signal
  • อัตราเงินเฟ้อ เดือน เม.ย. 55 ลดลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ 2.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากราคาผักสดที่ปรับตัวลดลง มูลค่าการส่งออก เดือน เม.ย. 55 หดตัวเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ต้นปี 55 ที่ร้อยละ -4.7 จากการหดตัวของการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ขณะที่มูลค่าการนำเข้า เดือน เม.ย. 55 หดตัวร้อยละ -0.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ -1.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (ตัวเลขเบื้องต้น) เดือน เม.ย. 55 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 51.9 โดยเฉพาะจากดัชนีคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 54 บ่งชี้แนวโน้มการขยายตัวของภาคการผลิต
Australia: mixed signal
  • วันที่ 1 พ.ค. 55 ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.75 จากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 4.25 จากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง ผนวกกับเศรษฐกิจโดยรวมมีสัญญาณชะลอลง
Taiwan: mixed signal
  • Taiwan GDP ไตรมาส 1 ปี 55 (ตัวเลขเบื้องต้น) ขยายตัวชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ร้อยละ 0.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือขยายตัวร้อยละ 0.3 จากไตรมาสก่อนหน้า (หลังขจัดปัจจัยทางฤดูกาลแล้ว
India: mixed signal
  • มูลค่าการส่งออก เดือน มี.ค. 55 หดตัวร้อยละ -5.7 จากช่วงเดียวกันปีลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 4.3 จากการส่งออกไปยังสหรัฐฯและสหภาพยุโรปที่ลดลง ขณะที่มูลค่าการนำเข้า เดือน มี.ค. 55 ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 24.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการนำเข้าน้ำมันที่เร่งขึ้นมาก ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (HSBC Mfg PMI) เดือน เม.ย. 55 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 54.9 จากดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ ทั้งคำสั่งซื้อในประเทศ และคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนภาคการผลิตที่มีสัญญาณขยายตัวเร่งขึ้นในระยะต่อไป
Weekly Financial Indicators
  • ดัชนี SET ปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยอยู่ในระดับสูงแตะเกินระดับ 1,200 จุด และมีความผันผวนระหว่างวันสูง จากแรงซื้อของนักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์และนักลงทุนต่างชาติเป็นหลัก โดยข่าวและเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจของต่างประเทศในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนหน้าต่อเนื่องช่วงต้นสัปดาห์ที่ออกมาดีเกินคาดส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามามากในช่วงต้นสัปดาห์ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 30 เม.ย. - 3 พ.ค. 55 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,648 ล้านบาท ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรของไทยปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนจะกลับมาปรับตัวลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเฉพาะในพันธบัตรช่วงอายุน้อยกว่า 3 ปี โดยในช่วงปลายสัปดาห์นักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้นเพื่อรอดูสถานการณ์จากความไม่แนอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 30 เม.ย. - 3 พ.ค. 55 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5,183 ล้านบาท
  • ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยปิดที่ระดับ 30.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 3 พ.ค. 55 อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐร้อยละ -0.26 ซึ่งเป็นการอ่อนค่าที่น้อยกว่าค่าเงินยูโร ที่อ่อนค่ามากถึงร้อยละ -0.43 อย่างไรก็ตาม เงินสกุลคู่ค้าหลักโดยรวมแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐโดยเฉพาะค่าเงินเยน ริงกิตมาเลเซีย และวอนเกาหลี ส่งผลให้ ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าเล็กน้อยที่ร้อยละ -0.41
  • ราคาทองคำปรับตัวลดลง โดยราคาทองคำ ณ วันที่ 3 พ.ค. 55 ปิดที่ 1,635 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลดลงจากต้นสัปดาห์ที่ปิดที่ 1,664 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ