รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 14, 2012 12:09 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2555

Summary:

1. ธปท. คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 6.0

2. ชง กพช.เลื่อนปรับราคาพลังงาน

3. จีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลง 0.5% มีผล 18 พ.ค.

Highlight:
1. ธปท. คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 6.0
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจในปี 55 ว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 6.0 สูงขึ้นจากที่คาดไว้เมื่อเดือนม.ค.ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.9 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวจากปัญหาน้ำท่วมเร็วกว่าที่ประเมินไว้ สะท้อนจากการผลิตและการลงทุนฟื้นตัวมาตอบสนองอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศได้เร็วกว่าคาด สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนที่เร่งขึ้นมาเหนือระดับก่อนน้ำท่วมมาตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 55 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 5.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 5.0 — 6.0) ซึ่งจะกลับมาขยายตัวเป็นปกติจากปีก่อนที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1 ภายหลังสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายลง จากการฟื้นตัวขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่ได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนการใช้จ่าย เช่น มาตรการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ และโครงการจำนำข้าวเปลือก ในส่วนของการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้นตามความจำเป็นในการฟื้นฟูอาคารบ้านเรือนและเครื่องมือ

เครื่องจักรในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย อย่างไรก็ตาม จากเศรษฐกิจโลกที่ยังมีแนวโน้มอ่อนแอ โดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปที่ยังรุนแรง และแนวโน้มการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่เริ่มชะลอตัวลง จะส่งผลให้การส่งออกไทยขยายตัวชะลอลงจากปี 54 เล็กน้อย

2. ชง กพช.เลื่อนปรับราคาพลังงาน
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ได้มีการเสนอให้เลื่อนการปรับราคาพลังงานทั้งแอลพีจีรถยนต์ เอ็นจีวี และการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของเบนซินไป 3 เดือน เพื่อลดผลกระทบค่าครองชีพที่สูงขึ้นของประชาชนนอกจากนี้จะมีการรายงาน กพช.ถึงมติของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่เลื่อนการขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) เป็นเวลา 1 เดือนจากเดิม เริ่มเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม เป็นเริ่มจากเดือนมิถุนายน-สิงหาคมด้วย โดยทั้งหมดก็เพื่อลดผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน
  • สศค.วิเคราะห์ว่าจากกรอบนโยบายเดิมในการปรับราคาพลังงาน ได้มีการเสนอให้มีการปรับราคาก๊าซแอลพีจีภาคขนส่งและเอ็นจีวี จากราคา 18.13 บาท และ 8.50 บาทต่อกก. โดยปรับขึ้นเดือนละ 0.75 และ 0.5 บาท ประกอบกับมีการประกาศการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นทั้งนี้ การปรับราคาดังกล่าวเป็นการลดภาระของรัฐในการใช้เงินอุดหนุน เพื่อเป็นการสะท้อนราคาตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ราคาสินค้าจำเป็นหลายรายการได้มีการปรับเพิ่มขึ้น อาทิ ราคาน้ำมัน ราคาผักสด และราคาอาหารสำเร็จรูป โดยการเพิ่มขึ้นของราคาดังกล่าว มีสาเหตุหลักจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมประกอบกับสภาพอากาศแห้งแล้งซึ่งส่งผลต่อสินค้าเกษตรหลายประเภท สำหรับการพิจารณาเลื่อนปรับราคาดังกล่าว จะสามารถลดภาระค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นได้ในปัจจุบัน โดยหากเหตุการณ์คลี่คลาย ก็จะสามารถปรับโครงสร้างราคาดังกล่าวได้อีกครั้ง ทั้งนี้ สศค.คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 55 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.6 (ประมาณการ ณ เดือนมีนาคม)
3. จีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลง 0.5% มีผล 18 พ.ค.
  • ธนาคารกลางจีนประกาศว่าจะลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.นี้เป็นต้นไปการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองแบงก์พาณิชย์ครั้งล่าสุดนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะปล่อยสภาพคล่องเพิ่มเติมและเสริมสร้างตลาดให้แข็งแกร่ง ซึ่งการปรับลดครั้งนี้จะส่งผลให้สัดส่วน RRR ของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของจีนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 20% ขณะที่สถาบันการเงินขนาดกลางถึงขนาดเล็กจะอยู่ที่ระดับ 16.5%
  • สศค.วิเคราะห์ว่า การลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์จีนจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวในอัตราชะลอลง ซึ่งการเติบโตในอัตราที่ชะลอลงของเศรษฐกิจจีนดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงผ่านช่องทางการค้า และการลงทุนระหว่างไทย-จีนและทางอ้อมผ่านช่องทางการค้า และการลงทุนระหว่างจีน-ประเทศคู่ค้าจีน-ไทย ปัจจุบันจีนนับเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทย ในปี 54 ไทยส่งออกไปจีนมีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.0 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย ขณะที่ สัดส่วนการลงทุนโดยตรงของจีนมาลงทุนในไทยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.4 ของมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมด ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 55 เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มจะขยายตัวร้อยละ 8.0 และเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักของไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.8 โดยมีช่วงคาดการณ์ร้อยละ 3.3-4.3 (คาดการณ์ ณ เดือน มี.ค. 55)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ