Macro Morning Focus ประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2555
1. คมนาคม เตรียมปรับลดอัตราค่าโดยสารรถโดยสารสาธารณะ หลังราคาน้ามันดีเซลปรับตัวลดลง
2. สศช. คงประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปี 55 ร้อยละ 5.5 — 6 หลังไตรมาศ 1/55 ขยายตัวรัอยละ 0.3
3. วิตกเศรษฐกิจยูโรโซนส่งผลราคาทองคาตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 3.2 ดอลลาร์
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าได้สั่งการให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ประชุมพิจารณาแนวทางการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถโดยสารสาธารณะอย่างเร่งด่วนภายในสัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาการปรับลดราคาค่าโดยสารให้สอดคล้องกับราคาน้ามันที่ลดลง พร้อมกับให้ทาความเข้าใจกับผู้ประกอบการทุกราย ซึ่งปัจจุบันราคาน้ามันดีเซลปรับตัวลดลง ต่ากว่า 30 บาทต่อลิตร ประกอบกับรัฐบาลตรึงราคาก๊าซธรรมชาติต่อไปอีก 3 เดือน แม้ว่าก่อนหน้านี้มติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะปรับขึ้นค่าโดยสารไปแล้วก็ตาม
- สศค. วิเคราะห์ว่า กรมขนส่งทางบกได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะปรับขึ้น ค่าโดยสารประเภท รถโดยสารของ บขส. รถร่วม บขส. รถ 2 แถว และรถโดยสารมินิบัสไปแล้วเมื่อวันที่ 15 พ.ค.55 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในเดือน พ.ค. 55 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม ทาให้ทั้งปี 55 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 3.66 จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.6 อย่างไรก็ดีพบว่าราคาน้ามันดิบดูไบในเดือน พ.ค.55 ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากระดับ 116.3 ดอลล่าร์สหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 104.5 ดอลล่าร์สหรัฐ/บาร์เรลหรือคิดเป็นการปรับตัวลดลงร้อยละ 10.2 ซึ่งจะส่งผลดีต่อต้นทุนของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะให้ปรับลดลง และลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อในอนาคตลงได้
- เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 1 ปี 2555 ขยายตัวร้อยละ 0.3 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2554 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 การขยายตัวเศรษฐกิจไตรมาส 1 มีปัจจัยสาคัญจากการฟื้นตัวของภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการส่งออกปรับตัวดีขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยปี 55 จะกลับมาขยายตัวในระดับปกติจากปีก่อนที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1 ภายหลังสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายลง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากอุปสงค์ภายในประเทศและการฟื้นตัวของภาคการผลิตภาคอุตสาหกรรม การฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่ได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนการใช้จ่าย เช่น มาตรการเพิ่มเงินเดือนข้าราชการและโครงการรับจานาข้าว ในขณะที่แรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลายลงเนื่องจากราคาน้ามันมีแนวโน้มลดลงในช่วงครึ่งปีหลังของปี อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปที่อาจส่งผลกระทบการส่งออกของไทย ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 55 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.5 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 5.0-6.0 (คาดการณ์ ณ. มี.ค.55)
- ราคาทองคาตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 3.2 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 0.2 ปิดที่ 1,588.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นร้อยละ 0.35 เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 79.290 เยน จากระดับ 79.010 เยน ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงร้อยละ 0.11 แตะที่ 1.5832 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5815 ดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ก่อนที่การประชุมผู้นากลุ่มยูโรโซจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
- สศค.วิเคราะห์ว่า ราคาทองคาที่มีแนวโน้มลดลงและเป็นที่ต้องการน้อยลง นั้น มีปัจจัยสาคัญจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองในกรีซ (หลังจากที่กรีซประสบความล้มเหลวในการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งทาให้กรีซเตรียมจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ 17 มิ.ย.นี้) ซึ่งจะส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยกว่าการลงทุนในทองคา ทั้งนี้ สศค.จาเป็นต้องติดตามพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรป โดยมีความเป็นไปได้สูงที่พรรคฝ่ายซ้าย “ไซริซา” จะชนะการเลือกตั้ง และจะดาเนินนโยบายตามที่หาเสียง โดยผ่อนปรนการรัดเข็มขัดเพื่อเอาใจประชาชนกรีซ และยอมเป็นหนี้เสียเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทวีความเสี่ยงต่อระบบยูโรโซน (Euro zone-Shock) ตลอดจนความเสี่ยงต่อภาวะชะลอตัว/ถดถอยในภูมิภาคอื่นๆ (นอกเหนือจากในยุโรปเอง) ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ดังกล่าว จะส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยลดต่ากว่าประมาณการเดิมที่ สศค.คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 5-6 ในปี 55
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th