FPO WEEKLY CONSENSUS (14 พฤษภาคม 2555)

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 16, 2012 15:41 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าค่าเงินในสัปดาห์นี้จะปรับตัวอ่อนค่าลง เนื่องจากปัญหาการเมืองและหนี้สาธารณะในยุโรป จะทาให้นักลงทุนหันไปซื้อเงิน ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนไม่มีความมั่นใจ ทาให้นักลงทุนส่วนหนึ่งน่าจะมีการโยกย้ายเงินทุนไปประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง
  • นักวิเคราะห์มีความคิดเห็นไปในทิศทางที่ต่างกัน โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า Bond Yield อายุ 2 ปี และ 10 ปี มีแนวโน้มผลตอบแทน (YtM ,อัตรา ดอกเบี้ยระยะสั้นและระยะยาว) เพิ่มขึ้น เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดประมูลพันธบัตรธปท. ในสัปดาห์นี้ ในขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนให้ความเห็นว่า ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอาจมีแนวโน้มลดลง อันเนื่องมาจากการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากตราสารทุน มายังตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
  • นักวิเคราะห์บางส่วนให้ความเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลดลง เนื่องจากปัญหาวิกฤตการณ์หนี้สาธารณะในยุโรปที่เริ่มส่อเค้าบานปลายอีกครั้ง หลังการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และปัญหาการเมืองในประเทศกรีซหลังจาก พรรคขนาดใหญ่ 1-3 อันดับแรก ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ (หากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภาย ในวันจันทร์นี้ จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ตามรัฐธรรมนูญ) ทาให้ตลาดเกิดความกังวลในอนาคตของประเทศกรีซและหนี้สาธารณะของยุโรป และความกังวลว่าปัญหาจะลุกลามไปยังประเทศที่มีสัดส่วนของหนี้สาธารณะค่อนข้องสูงเช่น สเปน อิตาลี และ โปรตุเกส เป็นต้น ซึ่งท้ายที่สุด ตลาดวิตกว่าปัญหาอาจลุกลามไปถึงธนาคารใน ยุโรปซึ่งเป็นผู้ถือพันธบัตรรายใหญ่ ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บางส่วนให้ความเห็นว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากการปรับลด reserve ratio กับธนาคารพาณิชย์ของธนาคารกลางจีนลง 0.5 % ลงเหลือ 20 % ทาให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อสภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน กอปรกับหุ้นขนาดใหญ่ของไทยหลาย ตัวที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา น่าจะทาให้เกิดแรงซื้อเข้ามาในตลาดได้ในระยะสั้น
  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า การลงทุนของต่างชาติและการลงทุนของสถาบันจะลดลง จนกว่าการเมืองของประเทศกรีซจะมีข้อสรุปที่ชัดเจน
ความเห็น สศค.
  • สศค. มองว่าความกังวลของนักลงทุนต่อวิกฤตการณ์หนี้ในยุโรปจะเรื้อรังและกินเวลานาน เนื่องจากปัญหาวิกฤตในยุโรปได้กลายมาเป็นปัญหาการเมืองไปแล้ว และ จะเป็นตัวกดดันให้นักลงทุนมี risk appetite ที่ลดลง และมีการโยกย้ายเงินลงทุนออกจากตลาดตราสารทุนไปยังตลาดตราสารหนี้ โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้ประเทศที่ จัดว่ามีความมั่นคงสูงเช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ เป็นต้น โดย สศค. มองว่านักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิในตลาดทุน และจะมีการซื้อสุทธิในตลาด ตราสารหนี้เล็กน้อย หรืออาจมีการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นจานวนมากหากสถานการณ์พัฒนาไปในทางที่ไม่ดี

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ