ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญในเดือนเมษายน 2555
2. ค่าเงินยูโรต่อเงินเยนอ่อนตัวลงเหลือ 96 เยนต่อ 1 ยูโรเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี
3. ญี่ปุ่นและจีนจะเริ่มการซื้อขายเงินตราต่างประเทศระหว่างเงินสกุลเยนและหยวนโดยตรงตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555
-----------------------------------
1.1 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Output) เดือนเมษายน 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2
กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (Ministry of Economic Trade and Industry)ได้เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Output) ของเดือนเมษายน 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 95.8 (ปี 2548=100) ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือน เนื่องจากความต้องการในการฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวยังไม่ส่งผลดีต่อการผลิตมากนัก และการสนับสนุนของรัฐบาลในการซื้อรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีไม่มากทำส่งผลต่อการผลิต
1.2 ดัชนีราคาผู้บริโภค (Core Consumer Price Index)
กระทรวงมหาดไทยและการสื่อสารได้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคยกเว้นอาหารสด (CPI,ปี 2553=100) ประจำเดือนเมษายน 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 อยู่ที่ 100.2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 และราคาแก็สเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7
1.3 อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate)
อัตราการว่างงานเดือนเมษายน 2555 อยู่ที่ร้อยละ 4.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วที่มีอัตราว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 4.5 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
1.4 การใช้จ่ายบริโภคเดือนเมษายน 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ2.6
กระทรวงมหาดไทยและการสื่อสารได้เปิดเผยว่าการใช้จ่ายบริโภคประจำเดือนเมษายน 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 ค่าเงินยูโรและราคาหุ้นในตลาดการเงินโตเกียวลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเงินยูโรต่อเงินเยนอ่อนตัวลงอย่างมากเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนเท่ากับ 97 เยนต่อ 1 ยูโรในวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 และลดลงเหลือ 96 เยนต่อ 1 ยูโรในวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งเป็นการลดลงต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี สำหรับราคาหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวนั้นดัชนีหุ้น Nikkei 225 ลดลงต่ำกว่า 8,500 จุดในวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 ซึ่งเป็นการลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือนและลงลงเหลือ 8,488 จุดในวันที่ 1 มิถุนายน 2555 เนื่องจากความกังวลต่อค่าเงินเยนแข็งที่ตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุที่ค่าเงินยูโรต่อเงินเยนอ่อนตัวลงอย่างมากนั้นเนื่องมากจากปัญหาความไม่มั่นคงทางการคลังของประเทศแถบทวีปยุโรปและวิกฤติเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่นธนาคารขนาดใหญ่ของประเทศสเปนได้ขอความช่วยเหลือเพิ่มเงินทุนต่อรัฐบาลอย่างเป็นทางการทำให้หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลจะต้องแบกภาระด้านงบประมาณในการช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นและคาดว่าจะสถานะการคลังของรัฐบาลย่ำแย่มากขึ้น ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ความเชื่อมั่นในเงินสกุลยูโรนั้นต่ำลงและบรรดานักลงทุนเร่งขายเงินสกุลยูโรและหันมาซื้อเงินสกุลเยนที่มีความมั่นคงมากกว่าในขณะนี้
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2555 นาย Jun Azumi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศระหว่างเงินสกุลเยนและหยวนโดยตรง ในตลาดการเงินของญี่ปุ่นและเซี่ยงไฮ้ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2555 ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่การซื้อขายเงินตราระหว่างญี่ปุ่นและจีนจะกระทำโดยผ่านเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นมาตรฐานซึ่งจะทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนเงินเป็นจำนวน 2 ครั้ง โดยการซื้อขายเงินตราต่างประเทศโดยตรงระหว่างเงินสกุลเยนและหยวนจะทำให้ทั้ง 2 ประเทศสามารถลดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนเงินและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้ และคาดว่าจะส่งผลให้มีการค้าขายระหว่าง 2 ประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 3 แห่งของญี่ปุ่นคือ Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc., Mizuho Financial Group, Inc. และ Sumitomo Mitsui Financial Group, Inc. ได้ประกาศที่จะเข้าร่วมการซื้อขายดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันเดียวกัน
สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th