รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 3 กรกฎาคม 2555

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 3 กรกฎาคม 2555

1. พาณิชย์เผยเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.56

2. แบงก์งัดดอกเบี้ยสูงจูงใจรายย่อย

3. ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างสหรัฐพุ่งเกินคาดในพ.ค. บ่งชี้ตลาดที่อยู่อาศัยฟื้น

• ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ว่า ดัชนีเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.55เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.56 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่หากเทียบกับเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.16 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือนมิ.ย.เพิ่มร้อยละ 1.92 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน

• สศค.วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการปรับเพิ่มขึ้นจากดัชนีราคาสินค้าในหมวดไฟฟ้า พลังงาน น้าประปาและแสงสว่าง ในเดือน มิ.ย. 55 พบว่า เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.49 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะค่า ft ค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้นหน่วยละ 30 สตางค์เป็นสาคัญ และดัชนีราคาสินค้าในหมวดไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เดือน มิ.ย. 55 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.28 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ราคาน้ามันขายปลีกปรับตัวลดลงตามราคาน้ามันดิบโลก ส่วนราคาสินค้าอาหารและเครื่องดื่มค่อนข้างคงที่จากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ครึ่งปีแรก (ม.ค.55 — มิ.ย.55) อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.95 ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 55 อยู่ที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 3.0 - 4.0 ต่อปี) และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.3 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 1.8 - 2.8) (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย. 55)

• ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายเงินฝากและการลงทุน ธ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การแข่งขันเงินฝากที่รุนแรงในปีนี้ส่งผลให้ธนาคารขนาดใหญ่เริ่มสูญเสียลูกค้ารายย่อยบางส่วนไปให้กับกลุ่มธนาคารขนาดกลางที่มีการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์กึ่งประจาดอกเบี้ยสูง จึงจาเป็นต้องออกแคมเปญใหม่ๆเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี ธนาคารมีการเติบโตของเงินฝากแล้ว 1 แสนล้านบาท ทาให้รักษาฐานลูกค้าไว้ได้ ทั้งนี้เชื่อว่าในครึ่งปีหลังการแข่งขันดอกเบี้ยในตลาดน่าจะรุนแรงต่อเนื่อง จากการเลื่อนปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก

• สศค. วิเคราะห์ว่า เงินฝากสถาบันการเงินในปี 2555 ขยายตัวได้ในระดับสูง โดยล่าสุดในเดือน พ.ค. 2555 ยอดคงค้างเงินฝากของสถาบันการเงินอยู่ที่ระดับ 12.6 ล้านล้านบาทขยายตัวสูงที่ร้อยละ 13.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และหากเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดปัจจัยทางฤดูกาลแล้วพบว่าขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 1.0 สะท้อนจากการเร่งระดมเงินฝากต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่สูงขึ้นระหว่างธนาคารพาณิชย์เพื่อรักษาฐานลูกค้า นอกจากนั้นธนาคารพาณิชย์ยังได้ปรับกลยุทธ์การระดมเงินทุนโดยมีการเร่งระดมเงินทุนผ่านเงินฝากแทนตั๋วแลกเงินมากขึ้น ตามเกณฑ์การควบคุมการระดมทุนผ่านตั๋วแลกเงินของ กลต. ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.ค. 55

• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน มาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยกาลังฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากซบเซาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ค. มาอยู่ที่ 8.30 แสนล้านดอลลาร์

• สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มค่อนข้างดี สะท้อนจาก GDP ไตรมาส 1 ปี 55 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY)โดยการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวที่ร้อยละ 8.8 และ 1.7 YoY ตามลาดับ จากปัจจัยบวกสาคัญๆ ได้แก่ นโยบายการเงินที่เอื้ออานวยต่อการลงทุนโดยการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Fed Fund) ไว้ที่ระดับร้อยละ 0-0.25 ต่อปี ตลอดจนปัจจัยการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมผลิตและการจ้างงานที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดธุรกิจต่อเนื่องและธุรกิจสนับสนุนตามมา ทั้งการก่อสร้างที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดังกล่าว ตลอดจน การขนส่ง การค้า และภาคบริการ

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th