รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2555

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2555

1. คนแห่ออกรถป้ายแดงเกลี้ยงสต๊อคขนส่งเร่งเปิดประมูล

2. สศช. คงเป้า GDP ปี 55 อยู่ที่ร้อยละ 5.5-6.5

3. สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงาน GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 7.6 เป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปี

• รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวยอมรับว่า ขณะนีป้ายทะเบียนรถยนต์ใหม่ หรือป้ายแดงขาดตลาดซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล ส่งผลให้มีการซือ้ รถยนต์มากขึน้ รวมถึงค่ายรถยนต์ที่แข่งขันสูงและนำรถอีโคคาร์ออกจำหน่าย เป็นอีกแรงจูงใจให้คนซือ้ รถจำนวนมาก ทัง้ นี แต่ละปี ขบ.จะประมาณการจำนวนรถที่จะมาจดทะเบียนในแต่ละปี เพื่อผลิตป้ายให้พอดีกับรถ เพราะไม่ต้องการให้ป้ ยทะเบียนไปอยู่กับตัวแทนจำหน่าย หรือศูนย์จำหน่ายรถมากเกินไป โดยขณะนี้กระจายป้ายแดงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 1 แสนแผ่น ที่เหลือกระจายในปริมณฑลและต่างจังหวัดทั่วประเทศ 6 แสนแผ่น อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ ขบ. มีป้ายทะเบียนไม่เพียงพอ ได้ประสานตำรวจผ่อนผันการจับปรับ ให้เจ้าของรถยนต์ที่ยังไม่ได้ป้ายทะเบียนตัวจริง

• สศค.วิเคราะห์ว่า จากนโบบายรถคันแรกประกอบกับยอดสั่งซื้อรถที่ค้างมาจากช่วงน้ำท่วม ส่งผลให้มีการเร่งการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลเดือนล่าสุดในเดือนพ.ค.55 ยอดผลิตรถยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.0 แสนคัน คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 105.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรถที่ผลิตมากสุดคือรถกระบะและรถบรรทุก ส่วนยอดขายรถในประเทศในเดือนพ.ค.55 อยู่ที่ 1.2 แสนคันขยายตัวที่ร้อยละ 107.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนนอกจากนี้ข้อมูลอัตราการใช้กำลังการผลิต (CAPU) ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในเดือนพ.ค.55 ที่อยู่ที่ร้อยละ 115.1 ยังบ่งชี้ถึงการเร่งการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งในปี 55 อุตสาหกรรมรถยนต์มีเป้าการผลิตอยู่ที่ 2.2 ล้านคัน โดย ณ ปัจจุบันในช่วง 5 เดือนแรก สามารถผลิตได้แล้ว 8.4 แสนคัน

• เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา จะทำให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลาย ซึ่งรัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายและภาคธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ทำให้ สศช.ยังคงประมาณการเศรษฐกิจปี 55 ไว้ตามเดิม ซึ่งคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 5.5-6.5 และการส่งออกขยายตัวร้อยละ 12.0

• สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 55 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราร้อยละ 5.7 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 5.2-6.2) ซึ่งเป็ นการฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็วจากปี ก่อนหน้าที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1 ภายหลังสถานการณ์ อุทกภัยคลี่คลายลง โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มกลับมาทำการผลิตเพื่อตอบสนองอุปสงค์ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้มากขึ้น โดยเฉพาะอุปสงค์ในประเทศ ที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนการใช้จ่าย อาทิ มาตรการปรับเพิ่มรายได้แรงงานรายวันและเงินเดือนข้าราชการโครงการจำนำข้าวเปลือกและมาตรการในส่วนของแผนการบริหารจัดการน้ำในระยะยาวของภาครัฐวงเงินลงทุนรวม 3.5 แสนล้านบาท ที่คาดว่าจะเริ่มทยอยลงทุนได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 55 ในขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าคาดว่าจะชะลอลงที่ร้อยละ 12.8 ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากความเสี่ยงจากวิกฤติหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเริ่มลุกลามเข้าสู่ภาคเศรษฐกิจจริงและภาคสถาบันการเงินของประเทศสมาชิกหลัก

• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงาน GDP ของจีนในไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 7.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ชะลอลงจากที่เพิ่มขึน้ ร้อยละ 8.1 ในไตรมาสแรกเนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

• สศค. วิเคราะห์ว่าการปรับลด GDP ของจีนในไตรมาส 2 สอดคล้องกับที่หลายภาคส่วนมีการคาดการณ์เศรษฐกิจจีนไว้ก่อนหน้านี้ เช่น IMF โดยเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง มีผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยสาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวลงของกลุ่มเศรษฐกิจสหภาพยุโรปเนื่องจากวิกฤตหนี้ของสหภาพยุโรปเอง ส่งผลให้อุปสงค์ของกลุ่มเศรษฐกิจดังกล่าวลดลง ทำให้มีการนำเข้าสินค้าจากจีนลดลงตามไปด้วย โดยจีนมีการส่งออกไปยังกลุ่มเศรษฐกิจดังกล่าวในสัดส่วนที่สูง (ร้อยละ 13.88 ในปี ที่ผ่านมา) ทั้งนี้สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดสินค้าส่งออกที่ภาคธุรกิจจีนเล็งว่าจะเป็ นตลาดทดแทนผลกระทบจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการขาดดุลการค้าของสหรัฐอเมริกามากยิ่งขึ้นจากที่ขาดดุลอยู่แล้วราวร้อยละ 10 ทั้งนี้ สศค.คาดว่าเศรษฐกิจจีน ปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 7.9 ชะลอลงจากปี 54 ที่ขยายตัวร้อยละ 9.2

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th