รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2555

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2555

1. ธปท. คาด GDP โตยั่งยืน แนะทุกฝ่ายร่วมสร้างสมดุล 3 ด้าน “เสถียรภาพ-ขีดความสามารถในการแข่งขัน-คุณภาพชีวิตประชาชน"

2. สรท. คาดส่งออกปี 55 เติบโตเพียงร้อยละ 5.9

3. ธุรกิจรายใหญ่ของอิตาลีเรียกร้องการจัดตั้งสหภาพธนาคาร ขณะที่ผู้นำของกรีซเห็นชอบมาตรการรัดเข็ดขัด

• ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมนาเรื่อง “GDP ปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยแค่ไหน” ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ถือเป็นเครื่องขี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นภายในประเทศที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่การเติบโตของ GDP อาจไม่สะท้อนความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจได้ ถ้าขาดองค์ประกอบอื่นๆ อีก 3 ด้านคือ ความสมดุลหรือความมีเสถียรภาพ การเติบโตอย่างมีพัฒนาการเพื่อนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาว และการเติบโตต้องมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน โดยการกระจายโอกาสในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานให้กับประชาชนอย่างทั่งถึง

• สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 55 คาดว่า จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.7 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 5.2-6.2) สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยในปี 55 ฟื้นตัวจากฐานต่าในปีก่อนหน้าที่ประสบภาวะวิกฤติน้ำท่วม สาหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีและเสถียรภาพภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 55 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี ขณะที่เสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะขาดดุลที่ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.4 ของ GDP อย่างไรก็ดี ยังคงต้องจับตามองใน 2 ประเด็น คือ ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปที่เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกที่หดตัวในเดือน มิ.ย. 55 และทิศทางการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอินเดีย ทั้งนี้ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยจาเป็นจะต้องพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและคุณภาพของบุคลากรให้มีความพร้อมสาหรับการแข่งขันในตลาด AEC และดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลกในระยะยาว รวมถึงการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนต่อไป

• ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า การส่งออกไปตลาดหลักเกือบทุกตลาดของไทยหดตัวจากผลกระทบของปัญหาเศรษฐกิจยูโรโซน โดยมีสาเหตุจากกาลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ระบบธนาคารใน EU มีปัญหา รวมถึงผู้นำเข้าสินค้าที่เริ่มมีปัญหาด้านกระแสเงินสดและการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อเปิด LC จากปัญหาประเทศคู่ค้าชาระค่าสินค้าล่าช้า ทั้งนี้ สรท. คาดว่าการส่งออกในทุกตลาดหลักในไตรมาสที่ 3 ปี 55 จะหดตัวร้อยละ -2.7 และการส่งออกเฉลี่ยทั้งปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 5.9 ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 12

• สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกสินค้าในไตรมาสที่ 2 ปี 55 มีสัญญาณชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่แผ่วลง โดยพบว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าในไตรมาสที่ 2 ปี 55 อยู่ที่ 57.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีอัตราการเติบโตที่ทรงตัว (ขยายตัวร้อยละ 0.0 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน) ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 55 หดตัวร้อยละ -2.0 ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 54 ขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 23.6 สะท้อนถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจยูโรโซนที่หดตัวลงและส่งผลต่อการผลิตและจำหน่ายสินค้าในหลายประเทศซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทย และเมื่อพิจารณาตลาดส่งออกสำคัญของไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 55 พบว่า การส่งออกสินค้าของไทยไปยังจีนและสหรัฐฯ สามารถขยายตัวร้อยละ 7.5 และ 3.0 ตามลำดับ ขณะที่การส่งออกไปสหภาพยุโรปที่เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับ 4 ของไทยและมีสัดส่วนร้อยละ 9.4 ของการส่งออกรวมในปี 54 หดตัวร้อยละ -12.3 อย่างไรก็ดี ประเทศไทยได้มีการกระจายตลาดส่งออกอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความแน่นอน ทั้งนี้ สศค. คาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าในปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 12.8 โดยมีช่วงคาดการณ์ร้อยละ 11.8-13.8 (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย. 55)

• กลุ่มล็อบบี้ด้านธุรกิจรายใหญ่สุดของอิตาลีเรียกร้องให้มีการเร่งดำเนินการตามมติของที่ประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป ที่มีการเห็นพ้องในเดือนที่ผ่านมา เพื่อสร้างระบบสหภาพธนาคารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ผู้นำทางการเมืองของกรีซเห็นด้วยกับมาตรการรัดเข็มขัดเป็นส่วนใหญ่ ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มทรอยกา และกำลังพิจารณาการปรับลดเงินบำนาญและค่าจ้างลดลง เพื่อหาทางลดงบรายจ่ายลง 1.5 พันล้านยูโร

• สศค. วิเคราะห์ว่า ที่ประชุมผู้นายุโรปออกมาตรการแก้ปัญหาวิกฤตยูโรโซนหลักๆ 3 ประการคือ (1) ให้กลไกรักษาเสถียรภาพการเงิน (ESM) ปล่อยกู้แก่สถาบันการเงินในแต่ละประเทศได้โดยตรง (2)ให้ ESM สามารถเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อช่วยลดดอกเบี้ยของรัฐบาลบางประเทศที่ตลาดการเงินขาดความเชื่อมั่น และ (3) อนุมัติงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.2 แสนล้านยูโร ขณะที่กรีซต้องลดงบรายได้ 1.5 หมื่นล้านยูโรสำหรับปี 56 และ 57 เพื่อทาตามเงื่อนไขของทรอยกา ในการปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการช่วยเหลือล่าสุด โดยผู้นาของกรีซกาลังหารือเกี่ยวกับแนวโน้มการปลดผู้ที่ทำงานแบบสัญญาจ้างในภาครัฐ กำหนดเพดานเงินบำนาญ ลดสวัสดิการ ปรับลดการยกเว้นภาษี และลดเงินเดือนข้าราชการ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนในปี 55 จะหดตัวร้อยละ -0.9 (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย. 55)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th