Macro Morning Focus ประจำวันที่ 10 สิงหาคม 2555
Summary:
1. ธปท. ยืนยันเงินทุนไหลเข้าไทยสอดคล้องกับตลาดในภูมิภาคเอเชีย
2. Fitch คงอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีที่ระดับ AAA และแนวโน้ม “มีเสถียรภาพ”
3. อัตราเงินเฟ้อของจีน เดือน ก.ค. 55 ต่ำสุดในรอบ 30 เดือน
Highlight:
1. ธปท. ยืนยันเงินทุนไหลเข้าไทยสอดคล้องกับตลาดในภูมิภาคเอเชีย
- ผู้อำนวยการอาวุโส สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เงินทุนเคลื่อนย้ายที่ไหลเข้ามายังเป็นปกติ โดยส่วนใหญ่เป็นเงินที่เข้ามาลงทุนในตลาดพันธบตั รของไทย โดยทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทขึ้น ก้บการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปเป็นหลัก ทั้งนี้การไหลเข้ามาของเงินทุนจากต่างประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและยูโรปรับตัวแข็งขึ้นบ้าง จากทิศทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะเศรษฐกิจเยอรมนีที่ขยายตัวได้ดี แต่ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ โดยแนวโน้มเศรษฐกิจของยุโรปยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งนี้ยังต้องติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่ามีความต่อเนื่องหรือไม่ หรือจำเป็นต้องใช้มาตรการกระต้นุ เศรษฐกิจเพิ่มเตมิ โดยเฉพาะมาตรการ QE
- สศค. วิเคราะห์ว่า การที่เงินทุนเคลื่อนย้ายจากต่างชาติไหลเข้ามาสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชียนั้นเป็นผลจากเศรษฐกิจสหรัฐฯและสหภาพยุโรปเริ่มแสดงสัญญาณดีขึ้นทำให้นักลงทุนมองหาตลาดที่ให้ผลตอบแทนที่สูงขึน้ (Risk Appetite) เป็นผลให้ต่างชาติต้องการเข้ามาลงทุนในตลาดในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งไทยด้วยสะท้อนจากตัวเลขดัชนีผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Government Bond Index —Emerging Market: GBI EM) ที่ปรัปตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี อีกทั้งตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียยังคงมีความผันผวนสูงตามความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยจะเห็นได้จากยอดขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยนักลงทุนต่างชาติในไตรมาส 2 ปี 55 อยู่ที่ -19,228 ล้านบาท จากยอดซือ้สุทธิมูลค่า 82,741 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 55 ดังนัน้ นักลงทุนจึงปรับพอร์ทการลงทนุ มายังหลักทรัพย์ที่มีผลตอบแทนคงที่ (Fixed income securities)อาทิพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้รัฐวิสาหกิจและเอกชน ทั้งนี้ยังคงต้องจับตามองสถานการณ์ในตลาดการเงินโลก โดยเฉพาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางยุโรป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการไหลของเงินทุนในระยะต่อไป
2. Fitch คงอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีที่ระดับ AAA และแนวโน้ม “มีเสถียรภาพ”
- บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch คงอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีที่ระดับ AAA และแนวโน้ม (Outlook) มีเสถียรภาพ (Stable) จากความแข็งแกร่งทางการเงิน และเศรษฐกิจที่มีความเติบโตได้ดีในช่วง2 ปีผ่านมาแม้ประเทศอื่นๆ ในยูโรโซนต้องประสบกับปัญหาหนี้ในขณะที่เศรษฐกิจโลกยังมีความเปราะบางอยู่มากก็ตาม
- สศค. วิเคราะห์ว่า ถึงแม้ว่าเยอรมนีจะได้รับอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดจากการจัดอันดับของหลายสถาบันเศรษฐกิจเยอรมนียังต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เยอรมนีถูกปรับลดแนวโน้มเศรษฐกิจและ/หรืออันดับความน่าเชื่อถือในระยะต่อไป โดยภาคการผลิตของเยอรมนียังคงหดตัวสะท้อนจาก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.55 หดตัวร้อยละ -0.9 จากช่วงเดียวกันปี ก่อน ขณะที่มูลค่าการส่งออกขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 1.5 อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเดือน ก.ค.55 ยังลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี นอกจากนี้ แม้อัตราการว่างงานจะอยู่ในระดับต่ำที่สุดในยูโรโซนที่ร้อยละ 7.9 แต่จำนวนคนว่างงานในเดือน ก.ค.55 มีแนวโน้มสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ทั้งนี้ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับความน่าเชื่อถือเยอรมนี คือ ความเสี่ยงของเศรษฐกิจกรีซและการที่กรีซอาจต้องออกจากยูโรโซน ซึ่งอาจกระทบฐานะทางการคลังของเยอรมนีได้ เนื่องจากเยอรมนีเป็นประเทศหลักในการให้เงนิ ช่วยเหลือแก่กรีซ ทั้งนี้หนี้สาธารณะต่อ GDP ของเยอรมนีอยู่ที่ร้อยละ 81.6 ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 55 แต่อาจเพิ่มสูงขึน้ อีก หากรัฐบาลเยอรมนีต้องให้เงินช่วยเหลือแก่ประเทศที่มีปัญหาผ่าน EFSF/ESM เพิ่มเติม อนึ่ง ในเดือน ก.ค.55 Moody’s ได้ปรับแนวโน้มของพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีตลอดจนของเนเธอร์แลนด์และลักเซมเบิร์ก จากแนวโน้มมีเสถียรภาพ (Stable) เป็นเชิงลบ (Negative) จากความไม่แน่นอนของวิกฤตหนี้ยุโรปที่เพิ่มสูง
3. อัตราเงินเฟ้อของจีน เดือน ก.ค.55 ต่ำสุดในรอบ 30 เดือน
- จีนประกาศอัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.ค.55 อยู่ที่ร้อยละ 1.8 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนซึ่งถือเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำที่สุดในรอบ 30 เดือนนับตั้งแต่เดือน ม.ค.53 จากราคาอาหารที่ขยายตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ 2.4 โดยเฉพาะราคาเนื้อหมูและเนื้อวัวหดตัวร้อยละ -18.7 และ -6.1 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ และค่าขนส่งโทรคมนาคมที่หดตัวร้อยละ -0.9 เป็นสำคญั
- สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงนี้ บ่งชี้สภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศของจีนที่ส่งสัญญาณการชะลอตัวชัดเจน ทั้งในภาคการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่สัดส่วนร้อยละ 34.0 และ 46.0 ของ GDP(สัดส่วนปี 53) สะท้อนจากยอดค้าปลีกเดือน ก.ค.55 ที่ขยายตัวร้อยละ 1 3.1 ถือเป็นการขยายตัวที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.ค. 55 ก็ขยายตัวในอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปี เช่นกันที่ร้อยละ 9.2 ทั้งนี้เศรษฐกิจจีนที่ส่งสัญญาณชะลอตัว อาจเป็นการเพิ่มแรงกดดันแก่ธนาคารกลางจีนให้ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพิ่มเติม อาทิ การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือลดสัดส่วนเงินสดสำรองของธนาคารพาณิชย์ (Required Reserves Ratio: RRR) เป็นต้น เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งจะช่วยบรรเทาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th