Macro Morning Focus ประจำวันที่ 30 สิงหาคม 2555
Summary:
1. ผู้ว่าการแบงก์ชาติส่งสัญญาณพร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรับมือเศรษฐกิจโลกชะงัก
2. พาณิชย์เผยส่งออกเดือน ก.ค. 55 ติดลบร้อยละ -4.46
3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกาหลีใต้ลดลงมาอยู่ในระดับต่าสุดในรอบ 7 เดือน
Highlight:
1. ผู้ว่าการแบงก์ชาติส่งสัญญาณพร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรับมือเศรษฐกิจโลกชะงัก
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในหัวข้อ “ความท้าทายตลาดการเงินไทยในตลาดทุนโลก” ว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของทยต่อจากนี้มีความไม่แน่นอนสูง แต่ ธปท. ในฐานะผู้ดาเนินนโยบายจะดูแลอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสม เพื่อรองรับผลกระทบจากวิกฤตยูโร ประกอบกับใช้เป็นเครื่องมือ ในการกระตุ้นดูแลระบบเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกลไลตลาด อย่างไรก็ตาม ธปท. เชื่อว่าเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานของไทยสามารถรองรับปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ ได้
- สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 3.0 ซึ่งอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 1.9 แต่ก็ยังคงอยู่ภายในกรอบอัตราเงินเฟ้อเป้าหมาย ที่ร้อยละ 0.5 - 3.0 ในระยะต่อไปไทยต้องเผชิญความเสี่ยงจากเศรษฐกิจคู่ค้าสาคัญที่เริ่มชะลอตัวลง เช่น ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 55 เศรษฐกิจยุโรปหดตัวร้อยละ -0.2 ทาให้นโยบายการเงินต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณากาหนดนโยบายการเงินของประเทศได้อีก 3 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี 55 โดยครั้งต่อไป กนง. จะประชุมในวันที่ 5 ก.ย. 55 ทั้งนี้ สศค. ประเมินอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 55 อยู่ที่ร้อยละ 3.25 (ช่วงร้อยละ 2.75 — 3.75)
2. พาณิชย์เผยส่งออกเดือน ก.ค. 55 ติดลบร้อยละ -4.46
- กระทรวงพาณิชย์ เผยภาวะการค้าต่างประเทศของไทยในเดือน ก.ค.55 การส่งออกมีมูลค่า 19,544 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลงร้อยละ -4.46 ส่วนการนาเข้ามีมูลค่า 21,290 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.73 ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1,746 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ การส่งออกในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.55) ขยายตัวลดลง ร้อยละ -0.40 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนาเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.50 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ ขาดดุลการค้าช่วง 7 เดือนแรก ขาดดุลรวมทั้งสิ้น 12,086 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกที่หดตัวลงในเดือนก.ค.นั้น มีสาเหตุหลักมาจากวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป ส่งผลให้กาลังซื้อของกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปลดลง เนื่องจากการส่งออกสู่สหภาพยุโรปมีสัดส่วนร้อยละ 9.7 โดยอัตราการเติบโตของการส่งออกไปยุโรปนั้นหดตัวลดลงร้อยละ -21.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะเดียวกัน ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปยังลุกลามไปยังตลาดส่งออกที่สาคัญของไทยมากขึ้น โดยการส่งออกไปประเทศจีนซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.3 หดตัวลงร้อยละ -7.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสาเหตุจากสองประเทศคู่ค้าหลักดังกล่าว ส่งผลอย่างมากต่อภาพรวมของการส่งออกของไทยที่ลดลงร้อยละ -4.46
3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกาหลีใต้ลดลงมาอยู่ในระดับต่าสุดในรอบ 7 เดือน
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกาหลีใต้เดือนสิงหาคมลดลงมาอยู่ในระดับที่ต่าสุดในรอบ 7 เดือน จากผลของวิกฤติหนี้ยุโรปและการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนส่งผลลบต่อภาคการส่งออก โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเกาหลีใต้เดือนสิงหาคมลดลงมาอยู่ที่ระดับ 99 จากระดับ 100 ในเดือนก.ค. โดยดัชนีที่ต่ากว่า 100 ชี้ว่าจานวนผู้ที่มองใน่แง่ลบมีมากกว่าผู้ที่มองในแง่บวก
- สศค. วิเคราะห์ว่า การลดลงอย่างต่อเนื่องของดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคนี้สะท้อนให้เห็นถึงการหดตัวของสภาวะเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปัจจุบัน รวมทั้ง ตัวเลขมูลค่าการส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือนก.ค.55 ซึ่งหดตัวมาอยู่ร้อยละ -8.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ มูลค่าการส่งออกของจีนในเดือนก.ค. ขยายตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากร้อยละ 11.3 ในเดือนมิ.ย.ทาให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ร้อยละ 3 จาก 3.25 ในเดือนมิ.ย. เพื่อกระตุ้นการลงทุน ทั้งนี้ สศค. คาดว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปี 55 จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.3 (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย.55)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th