เอกสารแนบ
"เศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 มีสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากเครื่องชี้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แม้ราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา"
1. การบริโภคภาคเอกชนในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 มีสัญญาณการฟื้นตัวจากวิกฤตอุทกภัยสะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ขยายตัวร้อยละ 19.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 6.0 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก พบว่าขยายตัวร้อยละ 13.2 จากเดือนมกราคม 2555 สะท้อนการบริโภคที่กลับมาขยายตัวได้ดี นอกจากนี้ การบริโภคสินค้าคงทนสะท้อนได้จากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 หดตัวในอัตราลดลงที่ร้อยละ -4.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -9.8 แต่เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังหักผลทางฤดูกาลออก (m-o-m SA) พบว่า ขยายตัวร้อยละ 6.4 ต่อเดือน เนื่องจากกำลังการผลิตของค่ายรถยนต์ต่างๆ เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติทำให้สามารถส่งมอบรถยนต์ให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น สำหรับยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 กับมาขยายตัวร้อยละ 6.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -7.1 และเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังหักผลทางฤดูกาลออก (m-o-m SA) พบว่าขยายตัวร้อยละ 21.0 ต่อเดือน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในรายละเอียดพบว่า ยอดขายรถจักรยานยนต์ในส่วนของภูมิภาค (สัดส่วนร้อยละ 80.0 ของยอดขายรถจักรยานยนต์รวม) ขยายตัวร้อยละ 4.0 จากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -9.1 ในขณะที่ยอดขายรถจักรยานยนต์ใน กทม. (สัดส่วนร้อยละ 20.0 ของยอดขายรถจักรยานยนต์รวม) ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 16.1 จากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 1.4 ตามสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ระดับ 65.5 จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 64.0 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญเห็นชอบ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การเงิน 2 ฉบับ คือ พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 วงเงินกู้มูลค่ารวมกันไม่เกิน 3.5 แสนล้านบาท และ พ.ร.ก. ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2555 ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้เสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลดีขึ้น สามารถดำเนินมาตรการป้องกันน้ำท่วม และฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมตามที่วางแผน และช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้สามารถขยายตัวตามที่มีการประเมินไว้ได้
2. การลงทุนภาคเอกชนในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 มีสัญญาณการฟื้นตัวเช่นกัน โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร โดยปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ขยายตัวร้อยละ 33.4 ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 29.1 และเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังหักผลทางฤดูกาลออก (m-o-m SA) พบว่า ขยายตัวร้อยละ 6.4 ต่อเดือน โดยได้รับปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณจำหน่ายรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ที่ขยายตัวร้อยละ 36.2 จากความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น สำหรับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนในหมวดการก่อสร้าง วัดจากยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.5 เมื่อเทียบกับกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 7.1 โดยเป็นผลมาจากสถานการณ์ที่เข้าสู่ปกติภายหลังปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ประกอบกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเริ่มกลับมาก่อสร้างได้ปกติ นอกจากนี้ ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวมในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ขยายตัวร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวดีขึ้นเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -16.0 และเมื่อขจัดผลทางฤดูการออกขยายตัวร้อยละ 27.3 ต่อเดือน โดยได้รับปัจจัยหลักมาจากความเชื่อมั่นของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น และการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ประกอบกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมที่เริ่มกลับมาดีอีกครั้ง
3. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจด้านการคลังในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 พบว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลและการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยผลการจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักการจัดสรรให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 เท่ากับ 139.0 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวดีขึ้นเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -4.5 สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 มีจำนวน 259.1 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 67.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -36.0 โดยมีรายจ่ายปีงบประมาณปัจจุบันจำนวน 244.1 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 75.0 ซึ่งแบ่งออกเป็น (1) รายจ่ายประจำจำนวน 235.1 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 91.5 และ (2) รายจ่ายลงทุนจำนวน 9.0 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -46.4 และ (3) รายจ่ายเหลื่อมปีจำนวน 15.0 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ การใช้จ่ายงบประมาณที่ขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากพระราชบัญญติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 มีผลบังคับใช้ ทำให้โครงการต่างๆ มีการเร่งเบิกจ่าย อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายงบประมาณที่สูงกว่ารายได้รัฐบาลทำให้ดุลการคลังในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ขาดดุลจำนวน -131.2 พันล้านบาท สะท้อนนโยบายการคลังที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
4. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจด้านการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 มีสัญญาณฟื้นตัวเช่นกัน โดยเครื่องชี้ด้านการผลิตเบื้องต้น พบว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากเดือนมกราคม 2555 โดยเฉพาะการผลิตภาคยานยนต์ สะท้อนจากยอดจำหน่ายรถยนต์ รถบรรทุก และรถจักรยานยนต์ ที่กระเตื้องขึ้นต่อเนื่อง เครื่องชี้ภาคการเกษตรวัดจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรที่กลับมาขยายตัวในอัตราเร่งขึ้น โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ขยายตัวร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -0.5 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตในหมวดพืชผล และปศุสัตว์เป็นสำคัญ โดยเฉพาะยางพารา อ้อยโรงงาน และผลผลิตสุกร เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 หดตัวร้อยละ -16.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -12.2 ตามการลดลงของราคาผลผลิตสินคาเกษตรสำคัญ โดยเฉพาะยางพารา และมันสำปะหลัง โดยมีสาเหตุหลักปัจจัยฐานที่สูงในช่วงต้นปี 2554 ที่ราคาสินค้าเกษตรขยายตัวในอัตราเร่งจากราคายางพารา และมันสำปะหลัง และอุปสงค์ในตลาดโลกที่ลดลง ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการที่สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยว พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.84 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 7.7 และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังหักผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่าหดตัวร้อยละ -5.0 ต่อเดือน ส่วนหนึ่งเนื่องจากเหตุการณ์การรอบวางระเบิดที่กรุงเทพ และปัญหาหมอกควันในเขตพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยเป็นการหดตัวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศจากภูมิภาคอาเซียนและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่กลุ่มยุโรป อเมริกา และโอเชียเนียยังคงขยายตัวได้ดีในระดับร้อยละ 5.2 14.6 และ 15.8 ตามลำดับ
5. เสถียรภาพเศรษฐกิจยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 อยู่ที่ร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เท่ากับเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 3.4 และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าขยายตัวร้อยละ 0.4 โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ อาหารสำเร็จรูป ข้าว ไข่ และผักสดเป็นสำคัญ ขณะที่สินค้าในหมวดเนื้อสัตว์มีการปรับราคาลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.7 ลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 2.8 สำหรับอัตราการว่างงานล่าสุดในเดือนมกราคม 2555 อยู่ที่ร้อยละ 0.8 ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งคิดเป็นจำนวนคนว่างงานเท่ากับ 3.15 แสนคน ซึ่งมีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 1.43 แสนคน จากเดือนก่อนหน้าที่มีผู้ว่างงาน 1.72 แสนคน ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 อยู่ที่ร้อยละ 40.3 ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60.0 ทั้งนี้ เสถียรภาพภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2555 อยู่ในระดับ 180.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 3.4 เท่า
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง