Macro Morning Focus ประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2555
1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. 55 อยู่ที่ 67.5
2. งบ ธปท.ขาดทุนสิ้นมี.ค.55 วงเงิน 4.7 แสนล้านบาท คาดจนถึงปัจจุบันขาดทุนกว่า 5 แสนล้านบาท
3. ADB ลดคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียปี 55-56 จากเหตุเศรษฐกิจโลกซบเซาและอุปสงค์อ่อนแอ
Highlight:
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลการสำรวจความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมในเดือน ก.ย. 55 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 67.5 ลดลงจากระดับ 68.4 ในเดือน ส.ค. 55 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ระดับ 68.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 94.8
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลง สอดคล้องกับทิศทางของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอลงจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย โดยล่าสุด มูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือน ส.ค. 55 หดตัวร้อยละ -6.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -4.5 ซึ่งนับเป็นการหดตัวต่อเดือนเป็นเดือนที่ 3 ส่งผลให้ มูลค่าการส่งออกสินค้าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 55 หดตัวร้อยละ -1.3 ขณะที่ในช่วงเดียวกันของปี 54 มูลค่าการส่งออกขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 26.4 นอกจากนี้ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในปี 55 ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากแรงกดดันของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวเพี่มขึ้น โดยข้อมูลล่าสุด อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ก.ย. 55 อยู่ที่ร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 2.7 โดยมีสาเหตุหลักมาจากดัชนีราคาในหมวดสินค้าเชื้อเพลิงและหมวดไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 จากผลของการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (FT) ในอัตรา 18 สตางค์ต่อหน่วย ในรอบเดือน ก.ย. - ธ.ค. 55 เป็นสำคัญ
- ดร.วีรพงษ รามางกูร ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า งบ ธปท.ขาดทุน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 วงเงิน 4.7 แสนล้านบาท และจนถึงปัจจุบัน คาดว่าขาดทุนกว่า 5 แสนล้านบาทแล้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นการขาดทุนจริงไม่ใช่ขาดทุนทางบัญชีอย่างที่กล่าวกัน โดยการขาดทุน มาจากสาเหตุ 1.การจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรในการดูดซับสภาพคล่อง ที่ในตลาดเงินมีกว่า 5 ล้านล้านบาท และ 2. มาจากการขายบาทซื้อดอลลาร์ จากเงินทุนไหลเข้า เพื่อแทรกแซงไม่ให้ค่าเงินบาทแข็ง จนกระทบกับการส่งออก ดร.วีรพงษ์ กล่าวว่า การที่ธปท.บอกว่างบ ธปท.ขาดดุลได้ตราบใดที่นักลงทุนยังมีความเชื่อมั่น จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงิน"นั้น เป็นความเข้าใจที่ผิดพลาดได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่านักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่นที่จุดใด หากปล่อยให้งบธปท.ขาดทุนต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งกว่าจะรู้ได้ก็สายไปแล้ว
- สศค. วิเคราะห์ว่า การขาดดุลของธปท. มาจากการแทรกแซงค่าเงินบาทที่มีการแข็งตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในอนาคตการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนจะมีความท้าทายยิ่งขึ้นจากนโยบายธนาคารกลางสหรัฐที่ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม (QE3) และหลังจากนั้นไม่นาน ธนาคารแห่งชาติญี่ปุ่นก็ได้ประกาศนโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมโดยขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์เป็น 80 ล้านล้านเยน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายเงินออกนอกประเทศ สศค. คาดว่า ค่าเงินบาทในปี 55 จะอยู่ที่ 31.1 บาทต่อ USD (30.6-31.6) (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 55)
- ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศกำลังพัฒนา 45 ประเทศในเอเชีย (ได้แก่ 45 ประเทศในเอเชียกลาง เอเชียตะวันออก เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแปซิฟิก ซึ่งไม่รวมญี่ปุ่น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์) ในปี 55 และ 56 เป็น ร้อยละ 6.1 และ 6.7 ตามลำดับ โดยเป็นผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา และอุปสงค์ในประเทศของจีนและอินเดียที่อ่อนแอลง
- สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับลดการคาดการณ์ GDP ของ ADB สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียที่ขยายตัวในอัตราชะลอลงจากผลของเศรษฐกิจโลกที่หดตัวจากผลกระทบของปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรป รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงมีสัญญาณการฟื้นตัวที่เปราะบาง เช่น เศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มเติบโตในอัตราชะลอลงจากผลของอุปสงค์สินค้าส่งออกของจีนที่ลดลง โดยเฉพาะอุปสงค์ภายนอกประเทศของยูโรโซนที่เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 3 ของจีน โดยล่าสุด GDP ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 55 ขยายตัวร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับช่วงแดียวกันของปีก่อน ขณะที่เศรษฐกิจอินเดียซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียก็ต้องเผชิญดุลการค้าขาดดุลอย่างต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลให้ GDP ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 55 ขยายตัวร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับช่วงแดียวกันของปีก่อน สำหรับประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบผ่านทางภาคการส่งออก โดยล่าสุด มูลค่าการส่งออกสินค้าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 55 หดตัวร้อยละ -1.3 ขณะที่ในช่วงเดียวกันของปี 54 ขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 26.4 ซึ่งส่งผลให้ GDP ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 55 ขยายตัวร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับช่วงแดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ สศค. คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 55 และ 56 จะขยายตัวร้อยละ 5.5 (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 5.3-5.8)และร้อยละ 5.2 (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 4.7-5.7) ตามลำดับ (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 55)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th