รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 18 เมษายน 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 18, 2013 11:34 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 18 เมษายน 2556

Summary:

1. ก.พาณิชย์เตรียมประเมินสถานการณ์ส่งออกอีกครั้งหลังพบค่าเงินบาทแข็ง

2. อุตสาหกรรมยานยนต์คงเป้าส่งออกรถยนต์ปี 56 ที่ 1.1 ล้านคัน

3. IMF ไม่ได้กังวลเรื่องการชะลอตัวอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจจีน

Highlight:

1. ก.พาณิชย์เตรียมประเมินสถานการณ์ส่งออกอีกครั้งหลังพบค่าเงินบาทแข็ง
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกของไทยในขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวลงจากผลของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นตั้งแต่ต้นปี ประมาณร้อยละ 4-5 จากตัวเลขการส่งออกในเดือน ก.พ. ที่ ติดลบร้อยละ 5.8 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน และเมื่อเฉลี่ยรวมกัน 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ขยายตัวเพียง ร้อยละ 4.1 นอกจากนี้ เริ่มพบสัญญาณว่าชะลอตัวลงในเดือนมี.ค. โดยเฉพาะการส่งออกภาคเกษตร ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าการส่งออกของปี 56 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8-9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีก่อน มทั้งนี้ หากเงินบาทได้รับการดูแล จะทำให้เป้าหมายส่งออกปีนี้เติบโตได้ตามเป้า แต่ถ้าหากเงินบาทยังคงแข็งค่ามาก ก็ยากที่จะประเมินสถานการณ์การส่งออกได้ ซึ่งในขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกทั้ง 53 สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อได้ข้อมูลครบทุกสำนักงานฯ แล้ว จะนำข้อมูลมาประเมินกันอีกครั้งหนึ่ง ก่อนสรุปสถานการณ์ส่งออก ต่อไป
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกสินค้าและบริการยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของการขยายตัวเศรษฐกิจในปีนี้ ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบบางส่วนจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและยังคงมีความเสี่ยงจากความเปราะบางทางเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนโดยเฉพาะในส่วนของประเทศไซปรัสที่ยังคงมีปัญหา แต่ประเมินว่าการส่งออกจะได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม โดย สศค. คาดว่า เศรษฐกิจโลกในปี 56 จะขยายตัวร้อยละ 3.8 ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 3.3 ในขณะที่คาดว่าปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการของไทยจะขยายตัวร้อยละ 5.7 โดยมูลค่าการส่งออกขยายตัวดีที่ร้อยละ 9.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 8.0 -10.0) และคาดการณ์เศรษฐกิจไทย (ณ เดือนมี.ค. 56) ในปี 56 จะขยายตัวได้ร้อยละ 5.3
2. อุตสาหกรรมยานยนต์คงเป้าส่งออกรถยนต์ปี 56 ที่ 1.1 ล้านคัน
  • ปี 55 อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีการส่งออกมูลค่ารวม 7.51 แสนล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนหน้าร้อยละ 32 ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป (ซีบียู) สูงสุด 4.9 แสนล้านบาท จากจำนวนส่งออก 1.02 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนั้นก็เป็นส่งออกในรูปแบบชิ้นส่วนประกอบ อะไหล่ และเครื่องยนต์ รวมถึงรายได้จากอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ 2.96 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 56 ผู้ผลิตตั้งเป้าเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว คือ 1.1 ล้านคัน แต่การส่งออกกำลังพบกับความท้าทายครั้งสำคัญ คือ ค่าเงินบาทที่แข็งตัวอย่างต่อเนื่อง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วง 2 เดือนแรกประเทศไทยส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนมูลค่ารวม 115,875.2 ล้านบาท ประกอบด้วย (1) การส่งออกรถยนต์จำนวน 181,224 คัน เป็นเงิน 81,093.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ (2) ชิ้นส่วนยานยนต์จำนวน 19,687.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปี 56 ถึงปัจจุบันจะแข็งค่าขึ้นประมาณร้อยละ 1.8 แต่เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นสำคัญ (Import content) จึงน่าจะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทไม่มากนัก นอกจากนี้ อุปสงค์รถยนต์จากภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสืบเนื่องจากมาตรการรถยนต์คันแรกน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 56 อุตสาหกรรมยานยนต์สามารถจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศได้จำนวน 255,727 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
3. IMF ไม่ได้กังวลเรื่องการชะลอตัวอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจจีน
  • IMF เผยว่า ไม่ได้กังวลเรื่องการชะลอตัวอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจจีน เนื่องจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนยังอยู่ในระดับที่ดี และเศรษฐกิจจีนใหญ่สุดเป็นอันดับสองของโลก แต่ควรจะมีการครอบคลุมการเติบโตอย่างรวดเร็วของสินเชื่อโดยเฉพาะในสินเชื่อนอกระบบ ซึ่งต้องได้รับการดูแลจากทางการจีนอย่างเคร่งครัด
  • สศค. วิเคราะห์ว่า กรณีที่เศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง โดยมีการเติบโตลงจากไตรมาสที่ 4 ปี 2555 ที่ขยายตัวร้อยละ 7.9 เหลือเพียงร้อยละ 7.7 ในไตรมาสแรกปี 2556 ว่าไม่ใช่สถานการณ์ที่น่ากังวลเนื่องจากมองว่าส่วนหนึ่งเป็นความตั้งใจของรัฐบาลจีนเองที่ต้องการดูแลภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศไม่ให้มีความร้อนแรงเกินไปจากการขยายตัวที่ค่อนข้างสูงในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการเติบโตของจีดีพีในระดับร้อยละ 7.0 ก็ถือว่าเป็นอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ เครื่องชี้ทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับดี โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (NBS) เดือน มี.ค. 56 ปรับเพิ่มจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ระดับ 50.9 จุด สอดคล้องกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (HSBC) ในเดือนเดียวกันซึ่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.6 จุด โดยดัชนีดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่เหนือระดับ 50 จุดต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตในจีนได้ส่งสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจน ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวที่ร้อยละ 8.2 ในปี 2556 (คาดการณ์ ณ เดือน มี.ค. 56)

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ