Macro Morning Focus ประจำวันที่ 18 มีนาคม 2557
Summary:
1. ธนาคารกรุงเทพ คาดเศรษฐกิจไทยปี 57 จะขยายตัวร้อยละ 3.0
2. ลงทุนปี 57 สะดุด คาดเศรษฐกิจซึมถึงปี 59
3. นักลงทุนโลกหวั่นจีนชะลอตัว
Highlight:
1. ธนาคารกรุงเทพ คาดเศรษฐกิจไทยปี 57 จะขยายตัวร้อยละ 3.0
- นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวในงานมันนี่ ทอล์คหัวข้อเศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจไทย ปี 57 ว่าเศรษฐกิจในปี 57 มีโอกาสที่จะเติบโตร้อยละ 3 หรือมากกว่านั้น หากความขัดแย้งทางการเมืองคลี่คลายลง เนื่องจากการส่งออกที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นแล้วทั้งสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น ยกเว้นจีนที่คาดว่าเศรษฐกิจจะค่อนข้างทรงตัว
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 57 คาดว่าจะยังได้รับปัจจัยบวกจาก 1. แนวโน้มเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของการส่งออกสินค้าและบริการ 2. แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และ 3. เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งทั้งเสถียรภาพภายในและภายนอกประเทศ อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงที่สำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของไทยในปี 57 ได้แก่ 1. ความขัดแย้งทางการเมืองที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุปสงค์ในประเทศผ่านการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และ 2. สถานการณ์ภัยแล้งที่จะส่งผลต่อกระทบการผลิต โดยเฉพาะการผลิตภาคการเกษตร ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 57 จะขยายตัวได้ร้อยละ 4.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.5 - 4.5 ประมาณการ ณ เดือน ธ.ค. 56 ) และหากประเมินผลกระทบทางเมืองพบว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในอัตราชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.1
2. ลงทุนปี 57 สะดุด คาดเศรษฐกิจซึมถึงปี 59
- รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ต.ค.56 ที่ผ่านมาคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอว่างลง ส่งผลให้ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (เดือน ต.ค.56 - ก.พ. 57) มีเม็ดเงินลงทุนที่รออนุมัติสูงถึง 5 แสนล้านบาท ซึ่งหากยังไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดั่งกล่าวภายในครึ่งปีแรก อาจจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการลงทุนขนาดใหญ่ไป
- สศค. วิเคราะห์ว่า การลงทุนของไทยของเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวตั้งแต่ปลายปีก่อน สะท้อนได้จากการลงทุนรวมในไตรมาส 4 ปี 56 หดตัวร้อยละ -11.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้การลงทุนทั้งปี 56 หดตัวร้อยละ -13.1 ส่วนหนึ่งเปนผลมาจากการหมดมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับปัญหาความไม่สงบทางเมืองที่ยืดเยื้อมาถึงปัจจุบันที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และทำให้การลงทุนของไทยมีแนวโน้มลดลง โดยข้อมูลการลงทุน 2 เดือนแรกของปี 57 พบว่า มีจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 188 โครงการ มูลค่าการลงทุน 63 หมื่นล้านบาท คิดเป็นการลดลงร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี มีนักลงทุนอีกหลายกลุ่มรวมทั้งโครงการขนาดใหญ่ได้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนบ้างเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่ายังมีกลุ่มนักลงทุนที่ยังเดินหน้าขยายการลงทุนในประเทศไทย
3. สิงคโปร์จัดงานใหญ่ "สงกรานต์ 2014"
- ประเทศสิงคโปร์จัดงานใหญ่ "สงกรานต์ 2014" โดยถือว่าเป็นงานฉลองเทศกาลสงกรานต์นอกประเทศไทยและเป็นการจัดงานสงกรานต์ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย. นี้ บริเวณ The Padang ทั้งนี้ จะเป็นการจัดงานนอกสถานที่ที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปร่วมมีประสบการณ์สนุกๆ กับเทศกาลสงกรานต์ที่จัดขึ้นนอกประเทศไทย เป็นโอกาสให้ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีที่สนุกสนานของประเทศไทยที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างประเทศ สำหรับไฮไลท์ภายในการจัดงานทั้ง 2 วันนี้ มีทั้งกิจกรรมทางวัฒนธรรมและทางบันเทิงต่างๆ ทั้งในส่วนของงานมหกรรมดนตรีซึ่งมีศิลปินประเทศไทยร่วมแสดง ตลาดอาหารและขนมไทย การจัดเวทีชกมวยไทยกลางแจ้ง และงานเทศกาลสงกรานต์
- สศค.วิเคราะห์ว่า สิงคโปร์เป็นประเทศขนาดเล็กที่เป็นเส้นทางผ่านหลักของการเดินเรือระหว่างประเทศ ทางด้านการท่องเที่ยวนั้น สิงคโปร์มีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวน้อย โดยทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวส่วนมากจะเป็นสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ย่านการช้อปปิ้งและอาหาร การจัดงานสงกรานต์ 2014 ที่สิงคโปร์จึงมีทั้งข้อดีและข้อเสียทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับทั้งสิงคโปร์และไทยซึ่งเป็นประเทศหลักที่มีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ โดยในแง่ดีนั้น การจัดงานเทศกาลสงกรานต์นอกประเทศไทยอาจมองว่าเป็นการส่งออกและเผยแผ่วัฒนธรรมไทยให้กับชาวสิงคโปร์ สิงคโปร์เองก็มีกิจกรรมท่องเที่ยวการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาประเทศไทย ในแง่สูญเสียสำหรับส่วนของไทยเองจะเป็นเรื่องรายได้การท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการเดินทางเข้าร่วมเทศกาลสงกรานต์ในไทยของชาวสิงคโปร์ซึ่งอาจจะเป็นเพียงบางส่วนของนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์นิยมเดินทางระยะใกล้และไปประเทศที่คุ้มค่าเงิน และไทยเองก็มีข้อได้เปรียบเรื่องระยะทางและปัจจุบันก็มีจำนวนเที่ยวบินจากสายการบินทุนต่ำมากขึ้น
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257