Executive Summary
- มูลค่าการส่งออกในเดือน พ.ค. 57 หดตัวร้อยละ -2.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่มูลค่าการนำเข้าหดตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ -9.3
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน พ.ค. 57 หดตัว ร้อยละ -4.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน พ.ค. 57 หดตัว ร้อยละ -44.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือน พ.ค. 57 หดตัวร้อยละ -31.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 1 ปี 57 (ตัวเลขสมบูรณ์) ขยายตัว ร้อยละ 1.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมจีน จัดทำโดย HSBC เดือน มิ.ย. 57 อยู่ที่ระดับ 50.8 จุด
- ยอดค้าปลีกญี่ปุ น เดือน พ.ค. 57 หดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -0.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวมสหภาพยุโรป เดือน มิ.ย. 57 ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ระดับ 52.8
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรป เดือน มิ.ย. 57 ทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าที่ระดับ -7.4
- มูลค่าการส่งออกฮ่องกง เดือน พ.ค. 57 กลับมาขยายตัว เป็นบวกที่ร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
Indicator next week
Indicators Forecast Previous Jun : Headline Inflation (%yoy) 2.7 2.6โดยราคาสินค้าหมวดอาหารสำเร็จรูปคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าตามการเพิ่มขึ้นของราคาต้นทุนวัตถุดิบอาหารจากภาวะภัยแล้ง ประกอบกับราคาสินค้าในหมวดไฟฟ้า เชื้อเพลิง น้ำประปาและแสงสว่างคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 0.2 (mom)
Indicators Forecast Previous Jun : Motorcycle sale (%yoy) -15.0 -17.8ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรายได้ภาคครัวเรือนที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะรายได้เกษตรกรที่หดตัวลงทั่วทุกภาคของประเทศ ตามราคาสินค้าเกษตรสำคัญ อาทิ ข้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวัง การใช้จ่ายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าคงทนประเภทรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เป็นต้น
- การส่งออกในเดือน พ.ค. 57 มีมูลค่า 19,401.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือหดตัวร้อยละ -2.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.9 และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังหักผลทางฤดูกาลออกแล้ว พบว่าหดตัวร้อยละ -2.6 จากการหดตัวของสินค้าอุตสาหกรรมที่ร้อยละ -2.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวที่ร้อยละ 1.8 ตามการหดตัวของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและยานยนต์ที่หดตัวร้อยละ -3.6 และ -6.8 ตามลำดับ ในขณะที่สินค้าเกษตรกรรมและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์กลับมาขยายตัวเป็นบวกอีกครั้งที่ร้อยละ 0.5 และ 6.4 ตามลำดับ ทั้งนี้ ราคาสินค้าส่งออกหดตัวที่ร้อยละ -1.1 และปริมาณการส่งออกหดตัวเช่นเดียวกันที่ร้อยละ -1.1 ส่งผลให้มูลค่า การส่งออกในช่วง 5 เดือนแรกของปี 57 หดตัวที่ร้อยละ -1.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- การนำเข้าในเดือน พ.ค. 57 มีมูลค่า 20,210.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ -9.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -14.5 ตามการหดตัวเกือบทุกหมวดสินค้าหลัก โดยเฉพาะสินค้าทุนที่หดตัวร้อยละ -14.8 และสินค้าวัตถุดิบที่หดตัวร้อยละ -11.3 รวมถึงสินค้ายานยนต์ที่หดตัวในระดับสูงที่ร้อยละ -25.8 ในขณะที่สินค้าเชื้อเพลิงกลับมาขยายตัวเป็นบวกอีกครั้งที่ร้อยละ 3.3 หลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ -9.7 ทั้งนี้ ราคาสินค้านำเข้าหดตัวร้อยละ -0.3 และปริมาณการนำเข้าหดตัวเช่นเดียวกันที่ร้อยละ -9.0 จากการที่มูลค่าการส่งออกต่ำกว่ามูลค่าการนำเข้า ทำให้ดุลการค้าในเดือน พ.ค. 57 ขาดดุล -0.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน พ.ค. 57 หดตัวร้อยละ -4.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยลบจากอุตสาหกรรมเครื่องประดับ ยานยนต์ และอาหาร โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์จากการลดลงของตลาดภายในประเทศเป็นสำคัญ ประกอบกับปัจจัยฐานของปีก่อนที่การเร่งผลิตตามโครงการรถยนต์คันแรก และอุตสาหกรรมเครื่องประดับหดตัวเนื่องจากการปรับลดลงของราคาทองคำ ในขณะที่อุตสาหกรรมอาหารลดลงจากปัญหาโรคระบาดในกุ้งและความผันผวนของราคาปลาทูน่า ในส่วนของอุตสาหกรรมที่ส่งผลดีต่อดัชนีในเดือนนี้ คือ อุตสาหกรรมวิทยุโทรทัศน์ที่ได้รับอานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงระบบทีวีจากระบบธรรมดาเป็นระบบดิจิทอล นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอื่นที่ขยายตัวได้ คือ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเลียม เป็นต้น ทั้งนี้เมื่อพิจารณาแบบเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าและขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว (%mom_sa) พบว่า หดตัวเช่นเดียวกันที่ร้อยละ -1.3
- ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน พ.ค. 57 อยู่ที่ 39,330 คัน หรือหดตัวร้อยละ -44.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -34.4 ส่วนหนึ่งจากฐานการคำนวณในครึ่งปีแรกของปี 2556 ที่สูงกว่าแนวโน้มปกติ จากการผลิตเพื่อส่งมอบตามนโยบายรถคันแรก ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัว ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกปี 57 ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งหดตัวร้อยละ -50.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
- ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือน พ.ค. 57 อยู่ที่ 40,351 คัน หรือหดตัวร้อยละ -31.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -32.3 ตามการลดลงของยอดขายรถกระบะขนาด 1 ตัน ที่หดตัวร้อยละ -33.6 ชะลอลงจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -35.0 ตามการชะลอตัวของการลงทุนภายในประเทศเนื่องจากมีการเร่งการลงทุนไปแล้วในปีก่อน ประกอบกับปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการลงทุนออกไปก่อน ทั้งนี้ในช่วง 5 เดือนแรกปี 57 ปริมาณ การจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์หดตัวที่ร้อยละ -34.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน มิ.ย. 57 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 2.6 โดยราคาสินค้าหมวดอาหารสำเร็จรูปคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าตามการเพิ่มขึ้นของราคาต้นทุนวัตถุดิบอาหารจากภาวะภัยแล้ง ประกอบกับราคาสินค้าในหมวดไฟฟ้า เชื้อเพลิง น้ำประปาและแสงสว่างคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 0.2 (mom)
- ปริมาณการจำหน่ายจักรยานยนต์ ในเดือน มิ.ย.57 คาดว่าจะหดตัวที่ร้อยละ -15.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อย -17.8 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรายได้ภาคครัวเรือนที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะรายได้เกษตรกรที่หดตัวลงทั่วทุกภาคของประเทศ ตามราคาสินค้าเกษตรสำคัญ อาทิ ข้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวัง การใช้จ่ายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าคงทนประเภทรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เป็นต้น
Global Economic Indicators: This Week
GDP ไตรมาส 1 ปี 57 (ตัวเลขสมบูรณ์) ขยายตัวร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือหดตัวร้อยละ -0.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ต่ำกว่าตัวเลขที่ประกาศก่อนหน้านี้ผลจากการบริโภคและลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวลงมากจากสภาวะอากาศหนาวเย็นผิดปกติ โดยขยายตัวเพียงร้อยละ 2.0 และ 3.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ ยอดขายบ้านมือสอง เดือนพ.ค. 57 อยู่ที่ 472,000 หลัง คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 4.9 จากเดือนก่อนหน้า หรือหดตัวร้อยละ -8.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ราคากลางบ้านมือสอง เดือน พ.ค. 57 อยู่ที่ 213,400 ดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับระดับก่อนวิกฤติซับไพรม์ หรือขยายตัวร้อยละ 5.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ยอดค้าปลีก เดือน พ.ค. 57 หดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -0.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ผลจากยอดขายสินค้าในหมวดยานยนต์และเครื่องจักรที่หดตัวเป็นสำคัญ อัตราเงินเฟ้อ เดือน พ.ค. 57 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 34 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรืออยู่ที่ร้อยละ 0.4 จากเดือนก่อนหน้า (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) จากราคาสินค้าหมวดอาหารและคมนาคมขนส่งที่เร่งขึ้นเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยฐานต่ำในปีก่อนหน้า อัตราว่างงาน เดือน พ.ค. 57 ปรับลดลงต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ของกำลังแรงงานรวม สะท้อนตลาดการจ้างงานภายในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่องและมีเสถียรภาพมากขึ้นเป็นสำคัญ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (ตัวเลขเบื้องต้น) จัดทำโดย HSBC เดือน มิ.ย. 57 อยู่ที่ระดับ 50.8 จุด ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 7 เดือน และเพิ่มขึ้นอยู่เหนือระดับ 50.0 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 49.4 จุด ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนสภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่มีสัญญาณกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย. 57 (ตัวเลขเบื้องต้น) ทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าที่ระดับ -7.4 ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบค่าเฉลี่ยของดัชนีดังกล่าวนับตั้งปี 43 ที่ระดับ -13.3 สะท้อนความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อการบริโภคภาคเอกชน นอกจากนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม เดือน มิ.ย. 57 (ตัวเลขเบื้องต้น) ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ระดับ 52.8 โดยดัชนีฯ ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ อยู่ที่ระดับ 51.9 และระดับ 52.8 ตามลำดับ สะท้อนภาคการผลิตที่ส่งสัญญาณชะลอลง โดยยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของภาคการผลิตในเยอรมนี ขณะที่ ภาคการผลิตในประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ โดยเฉพาะฝรั่งเศสส่งสัญญาณการหดตัวที่เร่งตัวขึ้น
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ค. 57 หดตัวตัวร้อยละ -2.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 5.3 จากการผลิตสินค้าในหมวดเครื่องหนังและเวชสำอางที่หดตัวเร่งขึ้นร้อยละ -36.1 และ -11.9 อัตราเงินเฟ้อ เดือน พ.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ 2.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 2.5 จากค่าใช้จ่ายในหมวดขนส่งที่ยังคงขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 6.9
อัตราเงินเฟ้อ เดือน พ.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 3.4 จากราคาอาหารที่ขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 3.3
มูลค่าการนำเข้า เดือน เม.ย. 57 ขยายตัวร้อยละ 3.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงมากจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 10.6 ผลจากการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่หดตัวร้อยละ -3.1 ดุลการค้าเดือน เม.ย. 57 ขาดดุล -765.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อัตราเงินเฟ้อ เดือน มิ.ย. 57 อยู่ที่ร้อยละ 5.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 4.7 จากราคาสินค้าทุกหมวดขยายตัวเร่งขึ้น
มูลค่าการส่งออก เดือน พ.ค. 57 กลับมาขยายตัวเป็นบวกที่ร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากการส่งออกไปยังคู่ค้าสำคัญในเอเชียที่ขยายตัวได้ดี อาทิ การส่งออกไปญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย ไต้หวัน และจีนขยายตัวร้อยละ 11.9 9.5 7.6 และ 3.5 ตามลำดับ สอดคล้องกับมูลค่าการนำเข้า เดือน พ.ค. 57 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.7 เร่งขึ้นจากเดือนก่อน อนึ่งการส่งออกที่มีมูลค่าน้อยกว่าการนำเข้าทำให้ดุลการค้า เดือน พ.ค. 57 ขาดดุล 42 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ด้านอัตราเงินเฟ้อ เดือน พ.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากราคาอาหารและค่าใช้จ่ายด้านคมนาคมที่เพิ่มขึ้น
ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ค. 57 อยู่ระดับ 109.6 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือขยายตัวร้อยละ 5.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากภาคการผลิต (สัดส่วนร้อยละ 93 ของภาคอุตสาหกรรมรวม) ขยายตัวดีขึ้นมาก อัตราว่างงาน เดือน พ.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ 4.0 ของกำลังแรงงานรวม ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 อยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี จากผู้ว่างงานอายุ 15-24 ปีที่มีจำนวนลดลงเป็นสำคัญ ทำให้มีจำนวนผู้ว่างงานทั้งสิ้น 4.6 แสนคน
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ค. 57 กลับมาหดตัวร้อยละ -2.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากผลผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและผลผลิตไฟฟ้าที่หดตัว
Weekly Financial Indicators
- ดัชนี SET ปรับตัวสูงขึ้นและแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนในช่วงปลายสัปดาห์ โดยดัชนีฯ ณ วันที่ 26 มิ.ย. 57 ปิดที่ 1,477.48 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเบาบางลงจากสัปดาห์ก่อนมาอยู่ที่ 36,640 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันในประเทศ จากการทำ Window Dressing ก่อนสิ้นครึ่งแรกของปี ขณะที่มีแรงขายจากนักลงทุนประเภทอื่นทั้งหมด ส่วนหนึ่งจากความกังวลในประเด็นที่ EU ประกาศระงับการเยือนและลงนามความร่วมมือกับไทยเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 57 ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 23 - 26 มิ.ย. 57 นักลงทุนต่างชาติขายหลักทรัพย์สุทธิ 1,805.16 ล้านบาท ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย ประมาณ 1-4 bps โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 23 - 26 มิ.ย. 57 นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรสุทธิ 2,602.4 ล้านบาท (ไม่รวมพันธบัตร ธปท.)
- ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย โดย ณ วันที่ 26 มิ.ย. 57 ค่าเงินบาทปิดที่ระดับ 32.48 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงร้อยละ 0.25 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน เป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินริงกิตมาเลเซีย แต่สวนทางกับค่าเงินสกุลสำคัญอื่นๆ ที่มีทิศทางอ่อนค่าลง ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามากกว่าค่าเงินสกุลอื่นๆ ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงร้อยละ 0.21 จากสัปดาห์ก่อน
- ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ และลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ โดยราคาทองคำ ณ วันที่ 26 มิ.ย. 57 ปิดที่ 1,317.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ใกล้เคียงกับต้นสัปดาห์ที่ปิดที่ 1,317.79 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3253 : www.fpo.go.th