รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2557

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2557

1. ชี้ส่งออกปีนี้โตต่ำร้อยละ 3

2. กฟภ.เผยยอดใช้ไฟฟ้า 5 เดือนปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ1.69 สะท้อนเศรษฐกิจเริ่มฟื้น

3. ดัชนีผลประกอบการโลจิสติกส์ของจีนในเดือน มิ.ย. 57 แตะที่ร้อยละ 56.7

• กระทรวงพาณิชย์ ปรับคาดการณ์การส่งออกของไทยใน ปี 2557 จะขยายตัวได้ร้อยละ 3.5 จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 5.0 ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ต่างประเมินว่าแม้ปรับประมาณการใหม่ แต่เป็นตัวเลขที่สูงเกินไป ภาคส่งออกของไทยในปีนี้ไม่น่าจะขยายตัวเกินร้อยละ 3.0 โดยประเมินอยู่ภายใต้สมมติฐานอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกขยายตัวร้อยละ 3.6 ถึง 3.7 ตามการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ราคาสินค้าวัตถุดิบอุตสาหกรรมโลกลดลงร้อยละ 2.5 และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 31.5 บาทต่อดอลลาร์
• สศค. วิเคราะห์ว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 57 มีการปรับตัวลดลงที่ร้อยละ -1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการส่งออกสินค้าในหมวดเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรได้รับผลกระทบจากปัญหาอุปทานในกุ้งและอาหารทะเลแช่แข็ง ประกอบกับราคายางพารายังมีทิศทางลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สินค้าหมวดยานยนต์หดตัว - 0.1 ซึ่งเกิดจากอุปสงค์ในตลาดส่งออกยานยนต์หลักของไทยอย่างออสเตรเลียและอินโดนีเซียมีการปรับตัวลดลง ในมิติของประเทศคู่ค้า การส่งออกไปยังจีนและอาเซียนปรับตัวลดลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอลงโดยหดตัวร้อยละ 5.6 และ 3.5 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม สศค. จะมีการปรับประมาณการการส่งออกในเดือน ก.ค นี้

• นายชาญชัย บัณฑิตเสาวภาคย์ รองผู้ว่าการควบคุมระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (พีอีเอ) กล่าวว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น หลังการเมืองคลี่คลายประกอบกับกิจกรรมฟุตบอลโลกและอากาศร้อนเดือนเม.ย. และ พ.ค. ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าเริ่มขยับสูงขึ้น โดยในเดือน มิ.ย. อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ซึ่งช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค. - พ.ค. 57) ขยายตัวร้อยละ1.69 สำหรับการใช้ไฟฟ้าใน 5 อันดับแรกของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่พบว่า มีเพียงอุตสาหกรรมยานยนต์การใช้ไฟฟ้าหดตัวร้อยละ 4.83 ส่วนยอดใช้ภาคอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวร้อยละ1.46 อุตสาหกรรมเหล็ก ความต้องการไฟฟ้าขยายตัวร้อยละ 3.25 อุตสาหกรรมสิ่งทอ ขยายตัวร้อยละ 0.08 และอุตสาหกรรมซีเมนต์ ยอดใช้เพิ่มร้อยละ 5.36
• สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดการใช้ไฟฟ้าโดยรวมที่สูงขึ้น เป็นผลมาจากอุปสงค์ในประเทศเป็นสำคัญทั้งจากภาคการผลิตและการบริโภค ในส่วนของภาคการผลิตนั้น โดยส่วนใหญ่อุตสาหกรรมต่างๆมีการผลิตที่ขยายตัวมากขึ้น ทั้งผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก สิ่งทอ และปูนซีเมนต์ สะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในสาขาการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก และสิ่งทอในเดือน พ.ค. ที่ขยายตัวร้อยละ 12.6 13.1 และ 2.9 ตามลำดับ ถึงแม้ว่ายอดการใช้ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่หดตัวลงร้อยละ -4.83 นั้นเป็นผลมาจากฐานที่สูงในปีที่แล้วของนโยบายรถคันแรกที่ได้สิ้นสุดลง ซึ่งการผลิตที่เพิ่มขึ้นนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ผลิตต่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจโดยรวมได้เพิ่มขึ้น ในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ระดับ 65.3 สูงที่สุดตั้งแต่ต้นปี ซึ่งส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยที่มากขึ้นตาม ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ว่า การบริโภคภาคเอกชนในปี 57 จะขยายตัวได้ร้อยละ 2.3 (คาดการณ์ ณ มี.ค 57) อย่างไรก็ตามในเดือน ก.ค ก็จะมีการปรับประมาณการการบริโภคภาคเอกชนตามทิศทางเศรษฐกิจล่าสุดอีกครั้ง

• สมาพันธ์โลจิสติกส์และการจัดซื้อของจีนเปิดเผยว่า ดัชนีผลประกอบการโลจิสติกส์ หรือแอลพีไอ ของประเทศแตะที่ร้อยละ 56.7 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 จาก เดือน พ.ค. ข้อมูลดังกล่าวระบุว่า อุตสาหกรรมการขนส่งและโกดังเก็บสินค้าฟื้นตัวขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าทั้งบริษัทต้นน้ำและปลายน้ำมีผลประกอบการในตลาดที่คึกคัก ขณะที่รองผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลโลจิสติกส์จีน "นายเหอ ฮุ่ย" กล่าวว่า การฟื้นตัวของภาคโลจิสติกส์แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังอยู่ในสถานะที่ดีและมีเสถียรภาพ
• สศค.วิเคราะห์ว่า จากการที่ดัชนีผลประกอบการโลจิสติกส์ของจีนในเดือน มิ.ย.อยู่ที่ร้อยละ 56.7 โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 1.5 ได้สะท้อนถึงการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือน มิ.ย. 57 อยู่ที่ระดับ 50.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน รวมทั้งเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์จากต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากการส่งออกสินค้าในเดือน พ.ค. 57 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 7.0 เพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย. ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 0.7 โดยเครื่องชี้ดังกล่าวจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 57 นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์ของจีนก็ยังคาดว่า GDP ในช่วงครึ่งปีหลังของจีนจะอยู่ที่ร้อยละ 7.6 ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257