รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2557

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 11, 2014 11:35 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2557

Summary:

1. ก. มหาดไทยออกประกาศเพิ่มช่องทางขอวีซ่า ด่านตม.เพิ่มอีก 10 ด่าน กระตุ้นท่องเที่ยว-ศก.

2. ก. พลังงานเตรียมกิจกรรมพลังงานชุมชนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

3. เงินเฟ้อจีนลดลงต่ำสุดรอบ 5 ปี

1. ก. มหาดไทยออกประกาศเพิ่มช่องทางขอวีซ่า ด่านตม.เพิ่มอีก 10 ด่าน กระตุ้นท่องเที่ยว-ศก.
  • รมว.มหาดไทย กล่าวว่ากระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศกระทรวง เรื่อง กำหนดช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองในการขอรับการตรวจลงตรา (ฉบับที่ 3 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้มีประกาศกำหนดช่องทางอนุญาตการขอวีซ่า (VISA ON ARRIVAL) ไปแล้ว จำนวน 32 แห่ง และเพื่อเป็นการสนับสนุนการค้า การท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจบริเวณชายแดน ทางกระทรวงมหาดไทยจึงออกได้ประการเพิ่มเติม ด่านตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มเติมอีกจำนวน 10 แห่ง ประกอบด้วยด่านตรวจคนเข้าเมืองภาคอีสาน 5 ด่าน ภาคใต้ 4 ด่านและภาคเหนือ 1 ด่าน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ข้อมูลล่าสุด 10 เดือนแรกปี 57 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีจำนวน 19.7 ล้านคน คิดเป็นการหดตัวตัวร้อยละ -8.7 ต่อปี ซึ่งแบ่งเป็นด่านกรุงเทพฯ ที่หดตัวร้อยละ -15.6 ต่อปี ขณะที่ด่านอื่นๆในภาพรวมสามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 4.9 ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวมากกว่า 100% ในท่าอากาศยานภูเก็ตและสมุย อย่างไรก็ตาม 8 วันแรกของเดือน ธ.ค. 57 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ3.6 แสนคน ขยายตัวร้อยละ 9.8 ต่อปี สะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ภายในไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 17.5 ของนัดท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนและไต้หวันของรัฐบาล ตั้งแต่ 9 ส.ค. - 8 พ.ย. 57 ได้ช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมา ทั้งนี้ สศค.คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 57 จะอยู่ที่ช่วง 24.7 - 25.0 ล้านคน หรือหดตัวที่ ร้อยละ (-7.0)- (-3.8) ต่อปี ในขณะที่ในปี 58 จะสามารถกลับมาขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 16.0 - 20.0 ต่อปี
2. ก. พลังงานเตรียมกิจกรรมพลังงานชุมชนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
  • รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในปี 58 กระทรวงพลังงานได้เตรียมกิจกรรมพลังงานชุมชนเพื่อพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และตอบสนองต่อการพัฒนาพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานในระดับชุมชนทั่ว ประเทศ โดยจะร่วมกับสำนักงานพลังงานจังหวัด องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และอาสาสมัครพลังงาชุมชน (อสพน.) จัดทำแผนพลังงานชุมชนที่ต้องสอดคล้องกับศักยภาพของชุมชนแต่ละแห่ง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า พลังงานมีความสำคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยล่าสุดประเทศไทยใช้พลังงานเฉลี่ยที่ 1,981 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 ต่อปี ซึ่งเป็นการใช้ก๊าซธรรมชาติมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 45 ของการใช้พลังงานรวม รองลงมา ได้แก่ น้ำมันและถ่านหินที่มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 35.8 และ 11.6 ของการใช้พลังงานรวม ทั้งนี้ พลังงานที่ใช้ภายในประเทศคิดเป็นร้อยละ 64.0 ของจัดหาแหล่งพลังงานเชิงพาณิชย์ของประเทศ ซึ่งไทยจัดหาแหล่งพลังงานเชิงพาณิชย์จากภายในประเทศคิดเป็นร้อยละ 47.0 ของแหล่งพลังงานเชิงพาณิชย์ ขณะที่นำเข้าจากต่างประเทศคิดเป็นร้อยละ 59.0 ของแหล่งพลังงานเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ หากพิจารณาถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งสะท้อนจากมูลค่าการใช้พลังงานรวมต่อ GDP พบว่า ไทยใช้พลังงานสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกถึง 2.2 เท่า และหากเปรียบเทียบเฉพาะประเทศสมาชิกอาเซียน พบว่า ประเทศไทยใช้พลังงานสูงอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากลาวและเวียดนาม ดังนั้น กิจกรรมที่กระทรวงพลังงานจัดขึ้นจะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของประเทศในอนาคต
3. เงินเฟ้อจีนลดลงต่ำสุดรอบ 5 ปี
  • ไฟแนนเชียล ไทมส์ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคจีนของเดือน พ.ย. 57 ขยายตัวร้อยละ 1.4 ต่อปี ซึ่งขยายตัวต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับจากเดือน พ.ย. 52 และลดลงจากตัวเลขของเดือน ต.ค. 57 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.6 ต่อปี ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตซึ่งคำนวณจากราคาสินค้าหน้าโรงงาน ลดลงเหลือร้อยละ 2.7 ต่อปี ต่ำสุดนับจาก มิ.ย. 56 ผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก เช่น เหล็ก ซีเมนต์และเคมีภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ลดลง ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงนับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการเติบโตที่ชะลอตัว และเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลจีนให้เพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงทำให้รัฐบาลจีนมีพื้นที่ในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากอ้างอิงในเดือน พ.ย. 57 ทั้งนี้ สศค.คาดว่าในปี 57 เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวที่ร้อยละ 7.3 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ7.1 - 7.5 ต่อปี )ขยายตัวชะลอลงจากปี56 ที่ขยายตัวร้อยละ 7.7 ต่อปี จากความเสี่ยงของการดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อปรับสมดุลของระบบเศรษฐกิจจีนในปี 57 ขณะที่ในปี 58 คาดว่า จะขยายตัวร้อยละ 7.2 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 6.7 - 7.7 ) ชะลอลงต่อเนื่องจากปี 57 อันเป็นผลจากการดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจดังกล่าว ที่คาดว่าจะส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงถึงทรงตัวต่อเนื่องจากปี 57 จากกำลังซื้อที่ลดลงจากการชะลอลงของภาคเศรษฐกิจสำคัญ

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ