รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2557

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 16, 2014 10:43 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2557

Summary:

1. 3 สมาคมฯ แนะดึงกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายดูแลเสถียรภาพราคาหลังลอยตัวรับ AEC

2. ธนิตเผยนายจ้างร้อยละ 18.5 ไม่จ่ายโบนัส

3. สิงคโปร์เตรียมขยายอายุการจ้างงานถึง 67 ปี

1. 3 สมาคมฯ แนะดึงกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายดูแลเสถียรภาพราคาหลังลอยตัวรับ AEC
  • นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย มองว่า การปรับหรือลอยตัวราคาน้ำตาลในประเทศให้เป็นไปตามกลไกตลาดเป็นแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาการลักลอบส่งออกเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งกระทบต่อปริมาณน้ำตาลภายในประเทศมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากราคาน้ำตาลของไทยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า หลังจากมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์การลอยตัวราคาน้ำตาลได้ เนื่องจากราคาน้ำตาลทรายในไทยที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านจะทำให้เกิดการลักลอบส่งออกไปขายดังที่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นแล้วในอดีต ทั้งนี้ การปรับลอยตัวราคาน้ำตาลทรายให้เป็นไปตามกลไกตลาดอาจส่งกระทบต่อค่าครองชีพให้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยโดยเฉพาะในหมวดอาหารสำเร็จรูป ซึ่งมีสัดส่วนน้ำหนักร้อยละ 1.77 ของตะกร้าเงินเฟ้อปีฐาน 54 ขณะเดียวกัน ราคาน้ำตาลที่สูงขึ้นจะมีส่วนช่วยให้รายได้เกษตรกรภายในประเทศเพิ่มขึ้นได้เมื่อเทียบกับในช่วงที่มีการกำหนดราคาเพดานน้ำตาลทราย ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดเดือน พ.ย. 57 พบว่าราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกอยู่ที่ 349.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน คิดเป็นการหดตัวร้อยละ -10.5 ตามอุปทานอ้อยในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าคาดว่าราคาน้ำตาลทรายจะปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ สศค. ได้ประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจ 15 ประเทศคู่ค้าหลักในปี 58 ว่าจะเติบโตอยู่ที่ 3.84 เพิ่มขึ้นจากปี 57 ที่คาดว่าเติบโตร้อยละ 3.70 (คาดการณ์ ณ ต.ค. 57)
2. ธนิตเผยนายจ้างร้อยละ 18.5 ไม่จ่ายโบนัสนายธนิต
  • โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวถึง "ทิศทางเศรษฐกิจไทยและความเชื่อมั่นการจ้างงานปี 58" ว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบการในช่วง 19 พ.ย. ถึง 11 ธ.ค. 57 พบว่า ในภาพรวมซึ่งสะท้อนจากภาพรวมผลประกอบการปีนี้ ไม่แตกต่างจากปีก่อนมากนัก โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 34.9 ระบุว่า ผลประกอบการใกล้เคียงกับปี 56 ส่วนแนวโน้มการจ่ายโบนัสประจำปี 57 พบว่า ผู้ประกอบการที่ไม่จ่ายโบนัส มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 18.5 ในขณะที่แนวโน้มด้านการจ้างงานส่วนใหญ่ร้อยละ 54.8 จะจ้างเท่าเดิม ขณะที่ร้อยละ 28.3 จะมีการจ้างงานมากขึ้น และร้อยละ 17 มีแนวโน้มที่จะลดจำนวนแรงงานลง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การจ่ายโบนัสนอกจากจะเป็นการสะท้อนถึงผลประกอบการหรือผลดำเนินงานของธุรกิจแล้ว ยังเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานเพื่อให้สร้างผลงานที่ดีขึ้น ซึ่งจากการที่นายจ้างร้อยละ 18.5 ของผู้ประกอบการไม่จ่ายโบนัสสะท้อนถึงผลประกอบการไม่ดีเท่าที่ควร แต่อย่างไรก็ดี อีกประมาณกว่าร้อยละ 80 ก็ยังมีการจ่ายโบนัสอยู่ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าภาคธุรกิจของไทยยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ในปี 57 สถาบันเสริมสร้างขีดความสามารถมนุษย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ทำการสำรวจการจ่ายโบนัสในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทยพบว่า อุตสาหกรรม 5 อันดับแรกที่มีการจ่ายโบนัสสูงสุด ได้แก่ กลุ่มอะไหล่ยนต์ เครื่องจักร ยานยนต์ ปูนซีเมนต์ และเคมี ส่วนด้านการจ้างงานล่าสุด ข้อมูลเดือน พ.ย. 57 อยู่ที่ 38.2 ล้านคน หรือคิดเป็นการหดตัวร้อยละ -0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อัตราการว่างงานเดือน พ.ย. 57 อยู่ที่ร้อยละ 0.5 ของกำลังแรงงานรวม หรือคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงาน 2.10 แสนคน
3. สิงคโปร์เตรียมขยายอายุการจ้างงานถึง 67 ปี
  • นายตัน ชวนจิน รัฐมนตรีแรงงานของสิงคโปร์ กล่าวว่าสิงคโปร์จะประกาศใช้กฎหมายใหม่ขยายอายุการจ้างงานใหม่แรงงานสูงอายุเป็น 67 ปี ภายในปี 60 ซึ่งการปรับเปลี่ยนอายุการจ้างงานใหม่ จะทำให้ลูกจ้างสูงอายุที่มีอายุจนถึง 67 ปีมีทางเลือกในการทำงานต่อไป ขณะนี้ทางการกำลังหารือกับสหภาพแรงงานและบรรดานายจ้างเพื่อให้ทุกฝ่ายพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ พร้อมทั้งทางการจะให้สิ่งจูงใจแก่บริษัทที่ว่าจ้างพนักงานจนถึงอายุ 67 ปี
  • สศค. วิเคราะห์ว่า จากอัตราการจ้างงานพนักงานสูงอายุที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จากร้อยละ 57 ในปี 52 เป็นร้อยละ 65 ในปี 56 ถือเป็นการปรับตัวที่สำคัญของระบบการจ้างงาน อันสืบเนื่องมาจากสังคมผู้สูงอายุที่เริ่มมีบทบาทมากขึ้น ประกอบกับอัตราการว่างงานของสิงคโปร์อยู่ในระดับต่ำ โดยในไตรมาสที่ 3/57 อัตราการว่างงานของสิงคโปร์อยู่ที่ร้อยละ 2.0 ดังนั้นการเพิ่มอายุการจ้างงานจะช่วยเพิ่มแรงงานในระบบเศรษฐกิจ และจะส่งผลให้ประชากรผู้สูงอายุมีรายได้และกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องต่อไป นอกจากนี้ นโยบายส่งเสริมการมีบุตรของรัฐบาลที่เกิดขึ้นช่วงปี 56 จะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานได้มากขึ้นอีกด้วย

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ