รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 5, 2015 10:45 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558

Summary:

1. รมว.พณ.ไทย-เมียนมาร่วมเปิดมหกรรมการค้าชายแดนจังหวัดตาก

2. ก.พาณิชย์ตั้งเป้าเพิ่มยอดการค้าไทย-ลาวให้ได้เกิน 8 พันล้านดอลลาร์ฯในปี 60

3. ยอดขายรถในสหรัฐเดือน ม.ค. 58 สูงสุดนับตั้งแต่ปี 49

1. รมว.พณ.ไทย-เมียนมาร่วมเปิดมหกรรมการค้าชายแดนจังหวัดตาก
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เมียนมาร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดงานแสดงสินค้ามหกรรมการค้าชายแดนจังหวัดตาก ณ สนามกีฬากลาง เทศบาลนครแม่สอด จังหวัดตาก
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันการค้าชายแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านได้มีบทบาทเพิ่มขึ้น โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2557 มูลค่าการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา เท่ากับ 901.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 จากปีก่อน หรือคิดเป็นร้อยละ 6.6 ของมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับโลก สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเมียนมาเท่ากับ 193.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 จากปีก่อน หรือคิดเป็นร้อยละ 21.5 ของมูลค่าการค้าชายแดนรวม ทั้งนี้ จังหวัดตากเป็นจังหวัดที่มีมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับเมียนมาสูงสุดที่ 57.0 พันล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 29.5 ของมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับเมียนมา โดยไทยส่งออกสินค้าผ่านด่าน จังหวัดตากไปยังเมียนมามูลค่า 54.3 พันล้านบาท ขณะที่นำเข้าสินค้ามูลค่า 2.7 พันล้านบาท ซึ่งทำให้ไทยเกินดุลการค้าเมียนมามูลค่า 51.6 พันล้านบาท ดังนั้น การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทยและเมียนมามาร่วมเปิดมหกรรมการค้าชายแดนจังหวัดตากจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าระหว่างไทยและเมียนมา นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการกำหนดให้อำเภอแม่สอด จังหวัดตากเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะมีส่วนในการส่งเสริมให้เกิดการค้า และการลงทุนในจังหวัดตากที่สามารรองรับการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและเมียนมาที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
2. ก. พาณิชย์ตั้งเป้าเพิ่มยอดการค้าไทย-ลาวให้ได้เกิน 8 พันล้านดอลลาร์ฯในปี 60
  • รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้งที่ 6 ในวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 58 เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน รวมทั้งพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคระหว่างกัน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ข้อมูลล่าสุดในปี 57 การส่งออกของไทยไปยัง สปป.ลาว มีมูลค่าการส่งออก 4,032.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.8 ของการส่งออกทั้งหมด โดยสินค้าที่มีการส่งออกมากที่สุดได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์จากพลาสติก เป็นต้น ทั้งนี้ สปป.ลาว จัดอยู่ในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งถือเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากมีดินแดนที่ติดต่อกับประเทศไทยทั้งทางบกและทางน้ำซึ่งสะดวกต่อการขนส่งสินค้า โดยกลุ่มประเทศ CLMV มีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 9.1 ของสัดส่วนการส่งออกอย่างไรก็ดี การเชื่อมโยงเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคที่กำลังก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 58 โดยส่งเสริมการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการศุลกากร คมนาคมขนส่งสินค้าและผู้โดยสารข้ามแดนและผ่านแดน รวมทั้งระบบโลจิสติกส์ เพื่อสนับสนุนความคล่องตัวทางการค้า จะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยในอนาคต
3.ยอดขายรถในสหรัฐเดือน ม.ค. 58 สูงสุดนับตั้งแต่ปี 49
  • บริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรมรถยนต์ "ออโตดาต้า" รายงานว่า ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถปิ๊คอัพขนาดเล็กในสหรัฐในเดือน ม.ค. 58 อยู่ที่ 1.15 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 ต่อปี นับเป็นยอดขายรถรายเดือนที่ดีที่สุดของประเทศ นับตั้งแต่ปี 49 หลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ความต้องการซื้อรถขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ระดับ 49.10 ต่อบาร์เรลจะส่งผลดีต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันอันดับหนึ่งของโลก โดย สศค. คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐในปี 58 จะฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติต่อเนื่องจากปี 57 ทั้งการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตั้งแต่ในช่วงประมาณกลางปี ส่วนหนึ่งจากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับที่ต่ำ ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ ณ เดือน ม.ค. 58 ว่า เศรษฐกิจสหรัฐในปี 58 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.8 ต่อปี จาก 2.4 ต่อปี ในปี 57

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ