รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2558

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2558

1. หอการค้าเผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดในรอบ 10 เดือน

2. ธนาคารกลางเวียดนามตัดสินใจปรับลดค่าเงินด่องเป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่ต้นปี 58

3. ผลสำรวจหน้าคูหาเลือกตั้งชี้พรรคอนุรักษ์นิยมมีคะแนนนำในการเลือกตั้งทั่วไป UK

• นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจโดยรวม เดือน เม.ย. 58 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนที่ระดับ 66.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 67.1 และเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และ โดยมีปัจจัยมาจาก 1) สศค. ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 58 2) การส่งออกของไทยในเดือน มี.ค. 58 ยังหดตัวร้อยละ -4.45 3) ราคาพืชผลทางการเกษตรยังอยู่ในระดับต่ำ 4) ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น 5) เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ขณะที่การตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 เหลือร้อยละ 1.5 ต่อปีเป็นปัจจัยบวกต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค
• สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีฯ ดังกล่าวที่ปรับตัวลดลง สะท้อนการบริโภคภาคเอกชนในเดือน เม.ย. 58 ที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ปี 58 สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ในไตรมาส 1 ปี 58 ที่ยังคงหดตัวร้อยละ -12.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้ด้านการบริโภคภาคเอกชนตัวอื่นๆ เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว อาทิ ยอดขายรถจักรยานยนต์ ในไตรมาส 1 ปี 58 กลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 10.9 หลังจากที่หดตัวถึงร้อยละ -7.8 ในไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับต่ำ (ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวม ณ มี.ค. 58) อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการบริโภคภาคเอกชนต่อไป

• ธนาคารกลางเวียดนามปรับลดค่าเงินด่องลงร้อยละ 1.0 มีผลตั้งแต่ 7 พ.ค. 58 เป็นต้นไป ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 21,673 ด่องต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่ 21,458 ด่องต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เงินด่องสามารถเคลื่อนไหวในกรอบได้สูงกว่าและต่ำกว่าค่ากลางไม่เกินร้อยละ 1.0
• สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับลดค่าเงินด่องครั้งนี้เป็นการปรับลดครั้งที่ 2 ตั้งแต่ต้นปี 58 โดยครั้งแรกปรับลดเมื่อ 7 ม.ค. 58 ทั้งนี้ การปรับลดค่าเงินด่องนี้มีจุดประสงค์เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าส่งออกของเวียดนาม เนื่องจากเวียดนามเป็นเศรษฐกิจแบบเปิด โดยมีอัตราการเปิดประเทศ (Degree of Openness) ถึงร้อยละ 179.5 ของ GDP โดยภาคการส่งออกของเวียดนามมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 87.5 ของเศรษฐกิจรวม ดังนั้นค่าเงินด่องที่อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะเอื้อให้การส่งออกยังคงสามารถเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนามได้ต่อเนื่อง หลังจากที่ตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสที่ 1 ปี 58 ขยายตัวร้อยละ 6.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากร้อยละ 7.0 ในไตรมาสก่อนหน้า โดยมูลค่าส่งออกยังเป็นเครื่องยนต์หลักที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยขยายตัวร้อยละ 9.0 ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปี 58 จะขยายตัวร้อยละ 5.7 (คาดการณ์ ณ เม.ย. 58)

• ผลการสำรวจหน้าคูหาเลือกตั้ง (Exit Poll) ชี้พรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งมีนายเดวิด แคเมรอนเป็นหัวหน้าพรรค น่าจะชนะการเลือกตั้งทั่วไป UK ด้วยคะแนน 316 ที่นั่ง จาก 650 ที่นั่ง คิดเป็นร้อยละ 48 ของจำนวนสมาชิกสภาทั้งหมด ขณะที่พรรคแรงงานคาดว่าจะได้ 239 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพรรคอนุรักษ์นิยมไม่ได้คะแนนเสียงส่วนมากในสภา จึงต้องเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเสรีประชาธิปไตยเช่นเดียวกับในปี 53
• สศค. วิเคราะห์ว่า ผลการเลือกตั้งทั่วไปของ UK ในครั้งนี้น่าจะเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาด อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลผสมอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินในระยะสั้น สำหรับผลในระยะยาว คาดว่านโยบายหลักจะไม่เปลี่ยนแปลงจากในช่วงรัฐบาลก่อนเท่าใดนัก อย่างไรก็ตาม พรรคอนุรักษ์นิยมมีนโยบายที่จะจัดให้มีการทำประชามติว่าสหราชอาณาจักรจะยังคงอยู่ในสภาพยุโรป (EU) หรือไม่ในปี 60 จึงทำให้เกิดความเสี่ยงว่า UK อาจออกจาก EU ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ EU และเศรษฐกิจของ UK ทั้งในด้านการค้า การลงทุน และความเชื่อมโยงของระบบการเงิน ทั้งนี้ UK เป็นผู้นำเข้าสุทธิจาก EU โดยในปี 57 มูลค่าการส่งออกจาก UK ไปยัง EU คิดเป็นร้อยละ 47 ของมูลค่าส่งออกรวมของ UK ขณะที่ UK นำเข้าจาก EU คิดเป็นร้อยละ 52.9 ของมูลค่านำเข้ารวมของ UK

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257