รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 7 กันยายน 2558

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 7, 2015 14:09 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 7 กันยายน 2558

Summary:

1. พลังงานบี้ลดค่าโดยสารจับตากบง.ชะลอขึ้นเอ็นจีวี

2. พาณิชย์แนะเจาะตลาดอิหร่าน หลังกลุ่มประเทศ P5+1 เลิกคว่ำบาตร

3. ยอดแท่นขุดเจาะสหรัฐฯ สิ้นสุดการฟื้นตัว

1. พลังงานบี้ลดค่าโดยสารจับตากบง.ชะลอขึ้นเอ็นจีวี
  • พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่าจะมีการปรับลดราคาค่าโดยสารหลังราคาน้ำมันปรับลดต่อเนื่อง เตรียมเปิดโต๊ะประชุม กบง. พิจารณาลดราคาแอลพีจีเดือน ก.ย. 58 และชะลอขึ้นราคาเอ็นจีวี ด้านพาณิชย์ ฟุ้งสินค้าหลายรายการลดราคาลงแล้วทั้งน้ำมันพืชปาล์ม-ถั่วเหลือง นมผงเด็ก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ผงซักฟอก และ เนื้อหมู
  • สศค. วิเคราะห์ว่า หากดูจากข้อมูลจากอัตราเงินเฟ้อพบว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีดัชนีราคาหมวดราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.42 สวนทางกับราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวลดลงโดยมีสาเหตุมาจากการปรับเพิ่มราคาพลังงานหลายประเภทในช่วงปลายปี 57 และต้นปี 58 ทำให้ราคาค่าโดยสารมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอาทิราคาค่าโดยสารแท็กซี่ที่มีการปรับขึ้นในช่วงต้นปีจากความกดดันด้านต้นทุนค่าก๊าซอ็นจีวีที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี รถโดยสารประจำทางชั้น 1 ที่เดินทางระหว่างจังหวัดที่มีต้นทุนจากการใช้น้ำมันเป็นหลักก็ได้มีการปรับราคาลงแล้วในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ภาพรวมของภาวะเงินเฟ้อในช่วง 8 เดือนแรก ของปีพบว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงติดลบจากราคาน้ำมันเป็นสำคัญ ส่วนราคาสินค้าหมวดอื่นๆมีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่สูงนักจากการที่อุปสงค์ในประเทศมีการชะลอตัว โดย สศค.คาดว่าในช่วง 4 เดือนสุดท้ายอัตราเงินเฟ้ออาจจะกลับมาเป็นบวกได้จากราคาน้ำมันที่ต่ำลงในช่วงปลายปีก่อนหน้า ส่วนการปรับราคาเอ็นจีวีและแอลพีจีอาจจะส่งผลกระทบรอบแรก (first round effect) ต่ออัตราเงินเฟ้อไม่มากนักเนื่องจากมีสัดส่วนที่ไม่สูงนักในตะกร้าเงินเฟ้อ
2. พาณิชย์แนะเจาะตลาดอิหร่าน หลังกลุ่มประเทศ P5+1 เลิกคว่ำบาตร
  • นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวในงานสัมมนา Iran Day 2015 ( Thailand - Iran, Trade and Investment Opportunity) หรือโอกาสการค้าการลงทุนตลาดอิหร่าน ภายหลังการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ว่าหลังจากที่อิหร่านบรรลุข้อตกลงการเจรจาปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน กับกลุ่มประเทศ The Five Permanent Members of the UN Security Council plus Germany (P5+1) หากกลุ่มประเทศสมาชิก P5+1 เลิกคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการ ภายในต้นปี 59 จะทำให้อิหร่านมีความคล่องตัวในการทำการค้ามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะตลาดสินค้าอาหาร ที่อิหร่านมีความต้องการและผลิตสินค้าได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในปี 57 สัดส่วนการส่งออกของไทยไปยังอิหร่านอยู่ที่ร้อยละ 0.2 ของการส่งออกทั้งหมด และการส่งออกไปยังอิหร่านในช่วง 7 เดือนของปี 58 ยังคงหดตัวที่ร้อยละ -27.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สินค้าที่ส่งออกสำคัญได้แก่ กลุ่มสินค้าฮาลาล (อาทิ อาหารแช่แข็ง เนยเทียมและเนยขาว และเครื่องดื่ม) ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ยางพารา และ ผักสด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เป็นต้น ซึ่งถ้าหากอิหร่านได้รับการยกเลิกการคว่ำบาตรทางการเศรษฐกิจและการเงิน จะส่งผลให้อิหร่านสามารถดำเนินการด้านการค้าได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้อิหร่านเป็นตลาดศักยภาพใหม่ของการส่งออกไทยทดแทนตลาดเดิมที่หดตัวตามเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
3. ยอดแท่นขุดเจาะสหรัฐฯ สิ้นสุดการฟื้นตัว
  • บริษัทเบเคอร์ฮิวจส์เปิดเผยข้อมูลจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและแก๊สของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงทั้งสิ้น 13 แท่น ทำให้ยอดรวมทั้งหมดของแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ ลดลงมาอยู่ที่ 864 แท่น การลดลงดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากยอดแท่นขุดเจาะกลับมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ ที่ผ่านมาติดต่อกัน ทำให้ขาขึ้นของการฟื้นตัวของการผลิตสิ้นสุดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ตลาดน้ำมันโลกยังอยู่ในสภาวะอุปทานล้นเกินอย่างต่อเนื่อง การสิ้นสุดลงของการฟื้นตัวของจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ สะท้อนถึงการผลิตพลังงานที่อาจกลับเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอีกครั้ง และนำไปสู่การลดลงของส่วนเกินด้านอุปทานในตลาดในอนาคตอันใกล้ที่จะทำให้ราคาน้ำมันมีโอกาสฟื้นตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของตลาดต่อข้อมูลการลดลงของแท่นขุดเจาะกลับไม่ได้เป็นไปในด้านบวกดังกล่าวมากนัก โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์คปรับลดลงร้อยละ 2 ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับปัจจัยอุปทานโดยรวมที่ยังคงมีอยู่จำนวนมากประกอบกับยังมีปัจจัยจากการปรับกลยุทธ์บริหารสินทรัพย์การลงทุนในภาวะตลาดหุ้นมีการปรับฐาน

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ