รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2559

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 22, 2016 16:35 —กระทรวงการคลัง

นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ ได้รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ดังนี้

หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2559 มีจำนวน 5,985,175.01 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 42.71 ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้รัฐบาล 4,491,860.05 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 984,958.41 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 487,049.87 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 21,306.68 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะคงค้างลดลงเล็กน้อย 3,211.52 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

หนี้รัฐบาล จำนวน 4,491,860.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 20,639.83 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก

  • การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 52,714 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลทั้งจำนวน
  • การลดลงของตั๋วเงินคลัง จำนวน 30,000 ล้านบาท
  • การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศ จำนวน 2,178.97 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็น (1) การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 1,150.11 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น จำนวน 776.02 ล้านบาท โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต จำนวน 138.67 ล้านบาท โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟ สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า – แก่งคอย จำนวน 118.26 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถ จำนวน 117.16 ล้านบาท และ (2) การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 1,028.86 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จำนวน 619.18 ล้านบาท สายสีน้ำเงิน จำนวน 391.62 ล้านบาท และสายสีม่วง จำนวน 18.06 ล้านบาท

  • การชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยจากหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง จำนวน 5,542.80 ล้านบาท แบ่งเป็น
  • การชำระหนี้ที่รัฐบาลให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 2,209.58 ล้านบาท การชำระหนี้ที่กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้แทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 516.67 ล้านบาท และการชำระหนี้ต่างประเทศ จำนวน 327.78 ล้านบาท
  • การชำระดอกเบี้ย จำนวน 2,488.77 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ยหนี้ในประเทศ จำนวน 2,386.84 ล้านบาท และ ดอกเบี้ยต่างประเทศ จำนวน 101.93 ล้านบาท
  • การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 2,798.53 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ แบ่งเป็นชำระเงินต้น จำนวน 460.10 ล้านบาท และชำระดอกเบี้ย จำนวน 2,338.43 ล้านบาท

หนี้ต่างประเทศลดลง 1,066.79 ล้านบาท เนื่องจากผลจากการเบิกจ่ายน้อยกว่าการชำระคืนหนี้สกุลเงินเยน และผลการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

  • หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน 984,958.41 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 9,835.88 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก
  • บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไถ่ถอนหุ้นกู้ จำนวน 8,000 ล้านบาท
  • หนี้ต่างประเทศลดลง 2,172.73 ล้านบาท เนื่องจากผลจากการชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ และผลการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน
  • หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 487,049.87 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 13,004.46 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจำนวน 13,004 ล้านบาท
  • หนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 21,306.68 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 1,011.01 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ของสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จำนวน 934.56 ล้านบาท

หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2559 จำนวน 5,985,175.01 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ในประเทศ 5,641,976.79 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.27 และหนี้ต่างประเทศ 343,198.22 ล้านบาท (ประมาณ 9,931.69 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือร้อยละ 5.73 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาว 5,146,374.05 ล้านบาท หรือร้อยละ 85.99 และหนี้ระยะสั้น 838,800.96 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.01 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด

คณะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

โทร. 02 265 8050 ต่อ 5505 5518 และ 5520

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ขอรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2559 ดังนี้ ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2559 มีจำนวน 5,985,175.01 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 42.71 ของ GDP เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะลดลงสุทธิ 3,211.52 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. หนี้รัฐบาล 4,491,860.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20,639.83 ล้านบาท

2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 984,958.41 ล้านบาท ลดลง 9,835.88 ล้านบาท

3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 487,049.87 ล้านบาท ลดลง 13,004.46 ล้านบาท

4. หนี้หน่วยงานของรัฐ 21,306.68 ล้านบาท ลดลง 1,011.01 ล้านบาท

1. หนี้รัฐบาล

1.1 หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 21,099.93 ล้านบาท เนื่องจาก

1.1.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงสุทธิ 1,066.79 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า โดยเป็นผลจากการเบิกจ่ายและชำระคืนหนี้สกุลเงินเยน และผลการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ดังรายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 2

1. CAD=สกุลเงินเหรียญแคนาดา EUR=สกุลเงินยูโร JPY=สกุลเงินเยน และ USD=สกุลเงินเหรียญสหรัฐ

2. อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอัตราถัวเฉลี่ยขาย ณ วันทำการสุดท้ายของเดือน

3. หนี้ต่างประเทศที่มีการบริหารความเสี่ยงแล้ว ใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ทำการบริหารความเสี่ยง

หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงจำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ หลังจากที่ได้บริหารความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

1.1.2 หนี้ในประเทศ เพิ่มขึ้นสุทธิ 22,166.72 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจาก

  • การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณและการบริหารหนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้น 22,714 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
  • การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 52,714 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลทั้งจำนวน
  • การลดลงของตั๋วเงินคลัง จำนวน 30,000 ล้านบาท
  • เงินกู้ให้กู้ต่อลดลง 30.61 ล้านบาท เนื่องจาก
  • การชำระหนี้ของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 2,209.58 ล้านบาท
  • การรถไฟแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 1,150.11 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น จำนวน 776.02 ล้านบาท โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต จำนวน 138.67 ล้านบาท โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟ สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า – แก่งคอย จำนวน 118.26 ล้านบาท และ โครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถ จำนวน 117.16 ล้านบาท
  • การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 1,028.86 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จำนวน 619.18 ล้านบาท สายสีน้ำเงิน จำนวน 391.62 ล้านบาท และสายสีม่วง จำนวน 18.06 ล้านบาท
  • เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศที่กระทรวงการคลังค้ำประกันลดลง 516.67 ล้านบาท โดยการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินทั้งจำนวน ซึ่งหนี้ที่ชำระคืนดังกล่าวเป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้แทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

1.2 หนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 460.10 ล้านบาท จากการชำระหนี้ที่กู้มาภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3) โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ

2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน

2.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน

2.1.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงสุทธิ 1,315.23 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า โดยเป็นผลจากการชำระคืนหนี้สกุลเงินเยนและผลการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

1. EUR=สกุลเงินยูโร JPY=สกุลเงินเยน และ USD=สกุลเงินเหรียญสหรัฐ

2. อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอัตราถัวเฉลี่ยขาย ณ วันทำการสุดท้ายของเดือน

3. หนี้คงค้างต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจบางส่วนได้มีการบริหารจัดการความเสี่ยงแล้ว (Partial Hedge)

2.1.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 755.55 ล้านบาท เนื่องจากรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 3,447.09 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 2,691.54 ล้านบาท

2.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน

2.2.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงสุทธิ 857.50 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า โดยเป็นผลจากการชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และผลการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

1. EUR=สกุลเงินยูโร JPY=สกุลเงินเยน และ USD=สกุลเงินเหรียญสหรัฐ

2. อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอัตราถัวเฉลี่ยขาย ณ วันทำการสุดท้ายของเดือน

3. หนี้ที่ยังไม่ได้มีการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากรัฐวิสาหกิจมีรายรับและรายจ่ายหนี้ต่างประเทศเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ (Natural Hedged) โดยประกอบไปด้วย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

2.2.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลงสุทธิ 8,418.70 ล้านบาท เนื่องจาก

  • บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไถ่ถอนหุ้นกู้ จำนวน 8,000 ล้านบาท
  • การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด จำนวน 93 ล้านบาท
  • รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 325.70 ล้านบาท

โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 1,959.66 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 2,285.36 ล้านบาท

3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)

3.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงสุทธิ 0.46 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า โดยเป็นผลจากผลการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

1. EUR=สกุลเงินยูโร JPY=สกุลเงินเยน และ USD=สกุลเงินเหรียญสหรัฐ

3.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 13,004 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 11,004 ล้านบาท และไถ่ถอนพันธบัตร จำนวน 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) หลังจากได้บริหารความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน

4. หนี้หน่วยงานของรัฐ ลดลงสุทธิ 1,011.01 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากหน่วยงานของรัฐมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ 12.07 ล้านบาท น้อยกว่าการชำระคืนต้นเงินกู้ 1,023.08 ล้านบาท

หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2559 มีจำนวน 5,985,175.01 ล้านบาท ซึ่งสามารถแบ่งประเภทเป็นหนี้ต่างประเทศ-หนี้ในประเทศ และหนี้ระยะยาว-หนี้ระยะสั้นได้ ดังนี้

หนี้ต่างประเทศและหนี้ในประเทศ แบ่งออกเป็น หนี้ต่างประเทศ 343,198.22 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.73และหนี้ในประเทศ 5,641,976.79 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.27 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง

หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  • หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น (แบ่งตามอายุของเครื่องมือการกู้เงิน) แบ่งออกเป็น หนี้ระยะยาว 5,871,084.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 98.09 และหนี้ระยะสั้น 114,090.93 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.91 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 7
  • หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น (แบ่งตามอายุคงเหลือ) แบ่งออกเป็น หนี้ระยะยาว 5,146,374.05 ล้านบาท หรือร้อยละ 85.99 และหนี้ระยะสั้น 838,800.96 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.01 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง

หมายเหตุ: การนำข้อมูลและ/หรือบทวิเคราะห์ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะไปใช้และ/หรือเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลด้วย

ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5518 และ 5520

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะขอสรุปผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่ดำเนินการโดยสำนักงาน บริหารหนี้สาธารณะ ประจำเดือนตุลาคม 2559 วงเงินรวม 71,322.26 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 63,357.26 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจ 7,965 ล้านบาท ดังนี้

1. การบริหารจัดการหนี้รัฐบาล วงเงินรวม 63,357.26 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.1 การกู้เงินในประเทศ 54,892.97 ล้านบาท

1.2 การเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศ 122.96 ล้านบาท

1.3 การชำระหนี้ 8,341.33 ล้านบาท

1.1 การกู้เงินในประเทศ กระทรวงการคลังกู้เงินและเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 54,892.97 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.1.1 การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 52,714 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลทั้งจำนวน

1.1.2 การเบิกจ่ายเงินกู้ให้กู้ต่อ จำนวน 2,178.97 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

(1) การให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย วงเงินรวม 1,150.11 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น จำนวน 776.02 ล้านบาท โครงการรถไฟชานเมือง สายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต จำนวน 138.67 ล้านบาท โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟ สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอย จำนวน 118.26 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถ จำนวน 117.16 ล้านบาท

(2) การให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย วงเงินรวม 1,028.86 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จำนวน 619.18 ล้านบาท สายสีน้ำเงิน จำนวน 391.62 ล้านบาท และสายสีม่วง จำนวน 18.06 ล้านบาท

1.2 การเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศ กระทรวงการคลังได้มีการเบิกจ่ายเงินกู้จากต่างประเทศ จำนวน 122.96 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น เพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย สำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต

1.3 การชำระหนี้ กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้ จำนวน 8,341.33 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

1.3.1 การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง จำนวน 5,542.80 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • ชำระเงินต้น จำนวน 3,054.03 ล้านบาท แบ่งเป็น (1) การชำระหนี้ที่รัฐบาลให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 2,209.58 ล้านบาท (2) การชำระหนี้ที่กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้แทน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 516.67 ล้านบาท ซึ่งหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ต่างประเทศที่กระทรวงการคลัง ค้ำประกันและรับภาระแทน (3) การชำระหนี้ต่างประเทศ จำนวน 327.78 ล้านบาท
  • ชำระดอกเบี้ย จำนวน 2,488.77 ล้านบาท แบ่งเป็น (1) การชำระดอกเบี้ยในประเทศ จำนวน 2,386.84 ล้านบาท (2) ดอกเบี้ยต่างประเทศ จำนวน 101.93 ล้านบาท

1.3.2 การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 2,798.53 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ แบ่งออกเป็น

(1) การชำระหนี้ที่กู้มาภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF 1) จำนวน 1,283.50 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน

(2) การชำระหนี้ที่กู้มาภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3) จำนวน 1,515.03 ล้านบาท แบ่งออกเป็น เงินต้น จำนวน 460.10 ล้านบาท และดอกเบี้ย จำนวน 1,054.93 ล้านบาท

2. การบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจ วงเงินรวม 7,965 ล้านบาท

2.1 การกู้เงินในประเทศ จำนวน 1,251.62 ล้านบาทในเดือนตุลาคม 2559 กระทรวงการคลังมีการจัดหาเงินกู้ให้แก่รัฐวิสาหกิจ จำนวน 1,251.62 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพสำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียน

2.2 การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ จำนวน 6,713.38 ล้านบาท ในเดือนตุลาคม 2559 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศให้แก่รัฐวิสาหกิจวงเงินรวม 6,713.38 ล้านบาท โดยการขยายอายุสัญญาเงินกู้ (Roll Over) ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย วงเงิน 3,565 ล้านบาท และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ วงเงิน 3,148.38 ล้านบาท

--กระทรวงการคลัง--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ