ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (Thai Regional Economic Sentiment Index: RSI) ประจำเดือนพฤษภาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 30, 2018 14:30 —กระทรวงการคลัง

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (Thai Regional Economic Sentiment Index: RSI) ประจำเดือนพฤษภาคม 2561 “ดัชนี RSI เดือนพฤษภาคม 2561 ชี้แนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจดีขึ้นทุกภูมิภาค นำโดยภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคเหนือ

นายศรพล ตุลยะเสถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ประจำเดือนพฤษภาคม 2561 ว่า “การประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดล่าสุด จากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) อยู่ในเกณฑ์ที่ดีทุกภูมิภาค นำโดยภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ เป็นสำคัญ”

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลาง ปรับตัวอยู่ที่ 91.4 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแนวโน้มที่ดีขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้าของภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวในเกณฑ์ดีของการส่งออก อีกทั้งผู้ประกอบการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีการปรับแผนการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากขึ้น ประกอบกับภาคบริการ โดยเฉพาะสาขาการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มสดใส เนื่องจากหลายจังหวัดจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมตลอดปี และการท่องเที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์ยังคงเป็นที่นิยมต่อเนื่อง แม้ว่าละครดังเรื่องบุพเพสันนิวาสจะจบลง สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตภาคตะวันออก อยู่ที่ระดับ 89.2 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการลงทุนภายในภูมิภาค หลังจากเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 มีการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะส่งผลให้ระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนมีเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ พบว่า มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในจังหวัดใกล้เคียงเขตพื้นที่ EEC เช่น มีการสร้างโรงแรมรีสอร์ทในจังหวัดนครนายก มีการสร้างโรงงานเพิ่มขึ้นในจังหวัดสระแก้ว เป็นต้น ในขณะที่ ภาคบริการของภาคเหนือมีแนวโน้มสดใส หลังจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งครอบคลุมถึง 16 จังหวัดในเขตพื้นที่ภาคเหนือ อีกทั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน จะมีการมีจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 46 ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่ภูมิภาคได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ แนวโน้มที่ดีของภาคอุตสาหกรรมจะยังคงเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจภาคเหนือต่อไป หลังจากโรงงานในหลายจังหวัดได้รับยอดคำสั่งซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น อีกทั้ง นโยบายภาครัฐเริ่มส่งผลชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในจังหวัดตาก ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจเหนือ ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 86.7

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในเกณฑ์ดีที่ระดับ 83.2 เนื่องจากแนวโน้มที่ดีขึ้นในภาคอุตสาหกรรม ตามทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่องของการส่งออก ประกอบกับการเพิ้มขึ้นของวัตถุดิบทางการเกษตร เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงาน มันสำปะหลัง เป็นต้น อีกทั้ง มีจำนวนโรงงานเพิ่มขึ้นในจังหวัดอุบลราชธานี กาฬสินธุ์ และสุรินทร์ นอกจากนี้ ดัชนีแนวโน้มของภาคการจ้างงานภาพรวมปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการเป็นสำคัญ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก อยู่ที่ 83.1 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มที่ดีของภาคบริการ โดยเฉพาะสาขาการท่องเที่ยว ที่จะได้รับอานิสงส์จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดราชบุรี สุพรรณบุรี และเพชรบุรี อีกทั้งสาขาค้าส่งค้าปลีกที่มีแนวโน้มสดใส จากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประกอบกับแนวโน้มที่ดีของภาคการลงทุนภายในภูมิภาค เนื่องจากมีการลงทุนใหม่ในการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดราชบุรีและการลงทุนในโรงงานในจังหวัดสมุทรสงคราม ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ ปรับตัวในเกณฑ์ดีที่ 69.1 จากดัชนีแนวโน้มในภาคบริการ ส่งสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง อยู่ที่ 81.8 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการท่องเที่ยว เป็นสำคัญ เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวเกิดใหม่ในจังหวัดพัทลุง อีกทั้งหลายจังหวัดมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ พบว่า ในขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่เพิ่มขึ้นมาก นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม.และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 68.8 ซึ่งปรับตัวในเกณฑ์ที่ดี ตามดัชนีแนวโน้มในอีก 6 เดือนข้างหน้าของภาคบริการยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ 73.3 อีกทั้ง ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรม

สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0-2273-9020 ต่อ 3254 หรือ 3215

ที่มา: กระทรวงการคลัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ