รายงานภาวะเศรษฐกิจรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 21 - 24 พฤษภาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 27, 2019 14:54 —กระทรวงการคลัง

Executive Summary

Indicators this week
  • เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 62 ขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
  • มูลค่าการส่งออกในเดือน เม.ย. 62 หดตัวที่ร้อยละ -2.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
  • มูลค่าการนำเข้าในเดือน เม.ย. 62 หดตัวที่ร้อยละ -0.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
  • ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน เม.ย. 62 ขยายตัว ร้อยละ 16.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือน เม.ย. 62 ขยายตัวร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือน เม.ย. 62 หดตัวร้อยละ -1.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ดัชนีราคาสินค้าเกษตรในเดือน เม.ย. 62 หดตัวร้อยละ -0.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) ในเดือน เม.ย. 62 อยู่ที่ระดับ 95.0
  • นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือน เม.ย. 62 ขยายตัวร้อยละ 3.3 ต่อปี
  • GDP ญี่ปุ่น ไตรมาส 1 ปี 62 (เบื้องต้น) ขยายตัวที่ร้อยละ 0.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
  • GDP สิงคโปร์ ไตรมาส 1 ปี 62 ขยายตัวร้อยละ 1.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
Economic Indicators: This Week

เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 62 ขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจากการขยายตัวร้อยละ 3.6 ในไตรมาสที่ 4 ปี 61 หรือคิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล โดยด้านการใช้จ่ายมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการขยายตัวดีต่อเนื่องของการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน และการขยายตัวเร่งขึ้นของการใช้จ่ายของรัฐบาล ในขณะที่การส่งออกปรับตัวลดลง ในส่วนของด้านการผลิต การผลิตภาคเกษตร และสาขาไฟฟ้า ก๊าซฯ ขยายตัวเร่งขึ้น ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม การขายปลีกฯ สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร สาขาการขนส่งฯ และสาขาการก่อสร้างชะลอตัวลง

มูลค่าการส่งออกในเดือน เม.ย. 62 มีมูลค่า 18,556 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ในช่วงการหดตัวที่ร้อยละ -2.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยกลุ่มสินค้าที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง ได้แก่ กลุ่มสินค้าเกษตรโดยเฉพาะอาหาร ขณะที่กลุ่มสินค้าที่หดตัว อาทิ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องจักรกล เป็นต้น ด้านมิติตลาดคู่ค้า พบว่า ยังคงกระจายตัวได้ดีในหลายตลาด อาทิ ตลาดสหรัฐฯ อินเดีย CLMV มาเลเซีย ฮ่องกง เป็นต้น ทั้งนี้ การส่งออกในช่วง 4 เดือนแรก ปี 62 ยังคงหดตัวเฉลี่ยร้อยละ -1.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน

มูลค่าการนำเข้าในเดือน เม.ย. 62 มีมูลค่า 20,013 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นหดตัวในอัตราชะลอลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ -0.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการนำเข้าสินค้ากลุ่มเชื้อเพลิงที่หดตัวเป็นสำคัญขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญที่ยังขยายตัว ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสินค้าทุน และกลุ่มสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าช่วง 4 เดือนแรกปี 62 หดตัวเฉลี่ยร้อยละ -1.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สำหรับดุลการค้าในเดือน เม.ย. 62 กลับมาขาดดุลมูลค่า -1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยช่วง 4 เดือนแรกของปี 62 ดุลการค้าของไทยยังคงเกินดุล 0.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

Economic Indicators: This Week

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน เม.ย. 62 ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 16.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่ยังคงมีอยู่สูง ประกอบกับมีการ ส่งมอบรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรกขยายตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 14.6

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือน เม.ย. 62 มีจำนวน 51,145 คัน คิดเป็นการขยายตัว ร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวร้อยละ 3.3 เมื่อปรับผลทางฤดูกาล โดยขยายตัวชะลอลงตามปริมาณการจำหน่ายรถกระบะ 1 ตันที่ขยายตัวร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ 4 เดือนแรกของปี 62 ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 8.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือน เม.ย. 62 หดตัวร้อยละ -1.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือคิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล หากพิจารณารายหมวดผลผลิตสินค้าเกษตร พบว่า ในเดือน เม.ย. 62 ผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวในหมวดหมวดปศุสัตว์และประมงที่ร้อยละ 1.6 ขณะที่ผลผลิตสินค้าในหมวดพืชผลสำคัญและหมวดประมงหดตัวที่ร้อยละ -2.0 และ -2.7 ตามลำดับ ทั้งนี้ สินค้าสำคัญที่มีผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กลุ่มไม้ผล ไก่ สุกร และไข่ไก่ ขณะที่สินค้าสำคัญที่มีผลผลิตลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือก และกุ้งขาวแวนนาไม

ดัชนีราคาสินค้าเกษตรในเดือน เม.ย. 62 หดตัว ร้อยละ -0.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นการหดตัวร้อยละ -0.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล หากพิจารณารายหมวดราคาสินค้าเกษตร พบว่า ในเดือน เม.ย. 62 ดัชนีราคาสินค้าเกษตรหดตัวในหมวดพืชผลสำคัญ -4.2 ขณะที่ดัชนีราคาในหมวด ปศุสัตว์และหมวดประมงขยายตัวที่ร้อยละ 12.8 และ 0.6 ตามลำดับ โดยสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน และไข่ไก่ ขณะที่สินค้าที่ราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือก ยางพารา กลุ่มไม้ผล สุกร ไก่ และกุ้งขาวแวนนาไม

Economic Indicators: This Week

ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) ในเดือนเม.ย. 62 อยู่ที่ระดับ 95.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 96.3 ในเดือน มี.ค. เป็นการปรับตัวลดลงในรอบ 4 เดือน การปรับตัวลดลงส่วนหนึ่งมาจากเดือนเม.ย. มีวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์จึงมีวันทำงานน้อยกว่าปกติ และได้มีการการเร่งผลิตชดเชยก่อนวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้วในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ดี หากเทียบกับช่วงเดือนกันของปีก่อน ค่าดัชนีฯ มีการขยายตัวร้อยละ 6.6 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า (TISI (E)) อยู่ที่ระดับ 101.9 ปรับตัวลดลงจากระดับ 104.2 ในเดือน มี.ค. เนื่องจากผู้ประกอบการยังคงกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน อันจะส่งผลต่อภาคการส่งออกของไทยให้ชะลอตัว

นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือน เม.ย. 62 มีจำนวน 3.20 ล้านคน กลับมาขยายตัว ร้อยละ 3.3 ต่อปี (และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล พบว่า ขยายตัวร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า) ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ที่ขยายตัวร้อยละ 35.1 ต่อปี เป็นสำคัญ ทั้งนี้ แม้ว่านักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งหดตัวร้อยละ -8.9 ต่อปี แต่ยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นมาทดแทน ได้แก่ นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น มาเลเซีย และฮ่องกง ที่ขยายตัวร้อยละ 25.6 10.0 และ 28.2 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือน เม.ย. 62 มีมูลค่ารวม 164,112 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.9 ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวของรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ที่ขยายตัวร้อยละ 37.8 ต่อปี เป็นสำคัญ

Global Economic Indicators: This Week

US: mixed signal

ยอดขายบ้านใหม่ เดือน เม.ย. 62 อยู่ที่ 6.73 แสนหลังต่อปี คิดเป็นการหดตัวร้อยละ -6.9 จากเดือนก่อนหน้า (ขจัดผลทางฤดูกาล) จากยอดขายในภาคตะวันตกที่หดตัวมากที่สุดที่ร้อยละ -8.3 จากเดือนก่อนหน้า สวนทางกับยอดสร้างบ้านใหม่เดือน เม.ย. 62 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อนระดับ เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จากยอดสร้างบ้านเดี่ยวและคอนโดมีเนียมที่ขยายตัวเร่งขึ้น สอดคล้องกับยอดใบอนุญาตก่อสร้างบ้านใหม่ เดือน เม.ย. 62 ที่ขยายตัวร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อนหน้า (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) โดยเป็นผลมาจากยอดใบอนุญาตก่อสร้างทาวน์โฮมส์และคอนโดมีเนียมที่ขยายตัวร้อยละ 25.0 และ 5.3 จากเดือนก่อนหน้า ตามลำดับ

Japan: mixed signal

GDP ไตรมาส 1 ปี 62 (เบื้องต้น) ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 0.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการบริโภคขยายตัวทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้าที่ร้อยละ 0.4 ขณะที่การลงทุนรวมขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 0.7 ผลผลิตอุตสาหกรรม เดือน มี.ค. 62 หดตัวร้อยละ -4.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยผลผลิตเกือบทุกหมวดหดตัว มูลค่าการส่งออก เดือน เม.ย. 62 หดตัวร้อยละ -2.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า จากสินค้าหมวดเคมีภัณฑ์ที่เร่งขึ้น ขณะที่สินค้าเบ็ดเตล็ตและอื่นๆหดตัว ด้านมูลค่าการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 6.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จากการนำเข้าสินค้าหมวดอุปกรณ์การขนส่งและสินแร่ที่เร่งขึ้น ส่งผลให้เกินดุลการค้าในเดือน เม.ย. 62 ที่ 6.0 หมื่นล้านเยนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคอุตสาหกรรม(เบื้องต้น) เดือน พ.ค. 62 อยู่ที่ระดับ 49.6 จุด ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 50.2 จุด จากผลผลิตและยอดสั่งซื้อใหม่ที่ลดลง อัตราเงินเฟ้อ เดือน เม.ย. 62 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากราคาเกือบทุกหมวดที่เร่งขึ้น

Taiwan: improving economic trend

อัตราการว่างงาน เดือน เม.ย 62 อยู่ที่ร้อยละ 3.7 ของกำลังแรงงานรวม ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ผลผลิตอุตสาหกรรม เดือน เม.ย. 62 ขยายตัวร้อยละ 1.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากที่หดตัวร้อยละ -9.4 ในเดือนก่อนหน้า โดยผลผลิตของภาคการผลิตกลับมาขยายตัว ยอดค้าปลีก เดือน เม.ย. 62 ขยายตัวร้อยละ 4.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 1.3 โดยยอดขายรถยนต์ขยายตัวเร่งขึ้นในอัตราสูง

Eurozone: mixed signal

อัตราเงินเฟ้อ เดือน เม.ย. 62 อยู่ที่ร้อยละ 1.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 1.4 จากระดับราคาสินค้าโดยรวมที่เพิ่มขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือน พ.ค. 62 อยู่ที่ -6.5 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ -7.9 จุด ดัชนี PMI ภาคอุตสาหกรรม (เบื้องต้น) เดือน พ.ค. 62 อยู่ที่ระดับ 47.7 จุด ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 47.9 จุดจากดัชนีย่อยหมวดปริมาณผลผลิตและยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลง ดัชนี PMI ภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือน พ.ค. 62 อยู่ที่ระดับ 52.5 จุด ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 52.8 จุดจากอัตราการขยายตัวที่ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ม.ค. 62 แต่ดัชนี PMI รวม (เบื้องต้น) เดือน พ.ค. 62 อยู่ที่ระดับ 51.6 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 51.5 จุด

UK: mixed signal

อัตราเงินเฟ้อ เดือน เม.ย. 62 อยู่ที่ร้อยละ 2.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 1.9 จากระดับราคาหมวดขนส่งทางอากาศที่เพิ่มขึ้นมาก

Malaysia: mixed signal

อัตราเงินเฟ้อ เดือน เม.ย. 62 อยู่ที่ร้อยละ 0.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทรงตัวจากเดือนที่แล้วโดยราคาสินค้าประเภทของแต่งบ้าน การศึกษาและสินค้าคงทนทรงตัว

Singapore: worsening economic trend

GDP ไตรมาส 1 ปี 62 ขยายตัวร้อยละ 1.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากร้อยละ 1.9 ในไตรมาสก่อน และถือเป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี อัตราเงินเฟ้อ เดือน เม.ย. 62 อยู่ที่ร้อยละ 0.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 0.6 จากราคาสินค้าหมวดการขนส่งและของใช้ในบ้านที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผลผลิตอุตสาหกรรม เดือน เม.ย. 62 ขยายตัวร้อยละ 0.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวที่ร้อยละ -4.3 จากผลผลิตหมวดเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปที่สูงขึ้น

Hong Kong: mixed signal

อัตราการว่างงาน เดือน เม.ย 62 อยู่ที่ร้อยละ 2.8 ของกำลังแรงงานรวม ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า

Weekly Financial Indicators

ดัชนี SET ในสัปดาห์นี้ปรับตัวลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศ เช่น FTSE100 (สหราชอาณาจักร) TWSE (ไต้หวัน) และ STI (สิงคโปร์)เป็นต้นโดยได้รับแรงกดดันจากประเด็นที่สหรัฐฯ อาจเพิ่มเติมรายชื่อบริษัทของจีนในบัญชีดำ ทั้งนี้ ดัชนี SET ณ วันที่ 23 พ.ค. 62 ปิดที่ระดับ 1,609.79 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยระหว่างวันที่ 21 - 23 พ.ค. 62 ที่ 49,459 ล้านบาทต่อวัน โดยนักลงทุนทั่วไปในประเทศและนักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์เป็นผู้ขายสุทธิ ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิ และสำหรับในสัปดาห์หน้า ยังคงต้องติดตามประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่หันมาเน้นการกีดกันบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของอีกฝ่ายมากขึ้น ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 21 - 23 พ.ค. 62 นักลงทุนต่างชาติซื้อหลักทรัพย์สุทธิ 1,589 ล้านบาท

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (อัตราฯ) ระยะสั้นและระยะกลางปรับเพิ่มขึ้น 0-2 bps ขณะที่อัตราฯ ระยะยาวปรับลดลง 0-5 bps โดยในสัปดาห์นี้ การประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 20 ปี มีนักลงทุนสนใจ 3.02 เท่าของวงเงินประมูล ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 21-23 พ.ค. 62 มีกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าจากตลาดพันธบัตรสุทธิ 1,476 ล้านบาท

เงินบาทอ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อน โดย ณ วันที่ 23 เม.ย. 62 เงินบาทปิดที่ 31.98 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงร้อยละ -1.29 จากสัปดาห์ก่อนหน้า สอดคล้องกับเงินสกุลอื่นๆ อาทิ เงินเยน ยูโร ริงกิต วอน ดอลลาร์สิงคโปร์ และหยวน ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าลงมากกว่าเงินสกุลหลักอื่นๆ ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) อ่อนค่าลงร้อยละ -0.81

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3253 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ