Executive Summary
.เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. 63 ที่อยู่ที่ร้อยละ 4.1 ซึ่งเป็นอัตราการว่างงานที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 53 ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศคงอัตราดอกเบียนโยบาย เดือน ม.ค. 64 อยู่ที่ร้อยละ 0.5 สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้Indonesia ระดับความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ธ.ค. 63 อยู่ที่ระดับ 96.5 จุด
\ เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. 63 ที่อยู่ที่ระดับ 92 จุด เนื่องจากความคาดหวังต่อประสิทธิภาพของวัคซีนเชื้อไวรัสโควิด-19 ยอดค้าปลีก เดือน พ.ย. 63 หดตัวที่ร้อยละ -16.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. 63 ที่หดตัวที่ร้อยละ -14.9 เป็นการหดเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน และเป็นการหดตัวต่ำสุดตั้งแต่เดือน มิ.ย. 63 เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยาวนาน ส่งผลให้ยอดขายสินค้าสำหรับติดต่อสื่อสาร อาหาร และของใช้ในบ้านลดลง การส่งออก เดือน ธ.ค. 63 ขยายตัวที่ร้อยละ 14.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. 63 ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 9.4 คิดเป็นมูลค่า 16.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากยอดส่งออกของสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันและแก๊สธรรมชาติ การนำเข้า เดือน ธ.ค. 63 หดตัว ที่ร้อยละ -0.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวดีขึ้นจากเดือน พ.ย. 63 ที่หดตัวที่ร้อยละ -17.4 เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ดุลการค้า เดือน ธ.ค. 63 เกินดุลอยู่ที่ 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากเดือน พ.ย. 63 ที่เกินดุลอยู่ที่ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ Malaysia อัตราการว่างงาน เดือน พ.ย. 63 ขยายตัวที่ร้อยละ 4.8 ขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือน ต.ค. 63 ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 4.7 เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย. 63 หดตัวที่ร้อยละ -2.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวลดลงจากเดือน ต.ค. 63 ที่หดตัวที่ร้อยละ -0.5 และเป็นการหดตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 63 จากผลผลิตของเหมืองแร่ และผลผลิตของไฟฟ้าที่ลดลง ยอดค้าปลีก เดือน พ.ย. 63 หดตัวที่ร้อยละ -2.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. 63 ที่หดตัวที่ร้อยละ -1.5 โดยเป็นการหดตัวลดลงต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน ก.ค. 63 เนื่องจากยอดขายของเชื้อเพลิงที่ใช้ในรถยนต์ สินค้าเฉพาะทาง และสินค้าทางวัฒนธรรมที่ลดลง Philippines ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย. 63 หดตัวที่ร้อยละ -13.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. 63 ที่หดตัวอยู่ที่ร้อยละ -12.3 และเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน เนื่องจากข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 India ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย. 63 หดตัวที่ร้อยละ -1.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการกลับมาหดตัวหลังจาก ที่เดือน ต.ค. 63 ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.2 เนื่องจากการหดตัวในหมวดการผลิตภาคอุตสาหกรรมและเหมืองแร่ อัตราเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค. 63 ขยายตัวที่ร้อยละ 4.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงจากเดือน พ.ย. 63 ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 6.9 โดยเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำสุดในรอบ 15 เดือน UK ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย. 63 หดตัวที่ร้อยละ -4.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวชะลอลงจากเดือน ต.ค. 63 ที่ หดตัวอยู่ที่ร้อยละ -5.8 อย่างไรก็ตาม หดตัวมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้อยู่ที่ร้อยละ -4.2 Weekly Financial Indicators ดัชนี SET ปรับตัวเพิ่มขึนจากสัปดาห์ก่อน สอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ ในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น Nikkei225 (ญี่ปุ่น) TWSE (ไต้หวัน) JCI (อินโดนีเซีย) และ DJIA (สหรัฐอเมริกา) เป็นต้น โดยดัชนี SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางสัปดาห์ และปรับตัวลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 64 ปิดที่ระดับ 1,535.98 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยระหว่างวันที่ 11 - 14 ม.ค. 64 ที่ 96,967.97 ล้านบาทต่อวัน โดยนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนทั่วไปในประเทศ และนักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ เป็นผู้ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศ เป็นผู้ขายสุทธิ ทังนี ระหว่างวันที่ 11 - 14 ม.ค. 64 นักลงทุนต่างชาติ ซือ หลักทรัพย์สุทธิ 1,249.06 ล้านบาทอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึนในช่วง 1 ถึง 11 bps โดยในสัปดาห์นี้ นักลงทุนมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 และ 30 ปี ซึ่งมีนักลงทุนสนใจ 1.61 และ1.92 เท่าของวงเงินประมูล ทังนีระหว่างวันที่ 11 - 14 ม.ค. 64 กระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ไหลออก จากตลาดพันธบัตรสุทธิ -4,962.75 ล้านบาท และหากนับจากต้นปีจนถึงวันที่ 14 ม.ค. 64 กระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ไหลออกจากตลาดพันธบัตรสุทธิ -7,515.00 ล้านบาทเงินบาทอ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อน โดย ณ วันที่ 14 ม.ค. 64 เงินบาทปิดที่ 30.02 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงร้อยละ -0.27 จากสัปดาห์ก่อนหน้า สอดคล้องกับเงินสกุลอื่น ในภูมิภาค อาทิ เงินสกุลเยน ยูโร ริงกิต วอน ดอลลาร์สิงคโปร์ และหยวนที่อ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าลงน้อยกว่าเงินสกุลหลักอื่น ๆ ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) แข็งค่าขึนร้อยละ 0.20 จากสัปดาห์ก่อน
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง