การจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 16, 2022 16:21 —กระทรวงการคลัง

ฉบับที่ 217/2565                                                                                                            วันที่ 16 ธันวาคม 2565

การจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ ?มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน? ครั้งที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ?วันที่ 16 ธันวาคม  2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ?มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน? ครั้งที่ 3 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ ร่วมกับผู้แทนจากสถาบันการเงินและหน่วยงานราชการในพื้นที่?
ในพิธีเปิดงานมหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้กล่าวปาฐกถาถึงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพยุงเศรษฐกิจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นมาตรการในระยะเร่งด่วนเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีความรุนแรง และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้คลี่คลายลง รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเพิ่มขีดความสามารถให้กับประชาชน ทั้งการสร้างรายได้เพิ่มและการผ่อนปรนภาระโดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับศักยภาพของลูกหนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลต่อเนื่องถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป ดังนั้น การจัด ?มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน? จึงมีกิจกรรมครอบคลุมทั้งการแก้ไขหนี้สินเดิม การให้สินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อสร้างรายได้ และการสร้างทักษะการประกอบอาชีพพร้อมทั้งการให้ความรู้ทางการเงิน
?มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน? ครั้งที่ 3 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่
16 ? 18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ ระหว่าง 10.00 น. ? 18.00 น. โดยมีสถาบันการเงินของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ และหน่วยงานพันธมิตรร่วมออกบูธในงานมหกรรมจำนวนมาก ทั้งนี้ กิจกรรมในงานประกอบด้วย
?          การแก้ไขหนี้สินเดิม โดยการผ่อนปรนเงื่อนไขการผ่อนชำระ ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ลดดอกเบี้ยค้างชำระ การคืนดอกเบี้ยในกรณีเป็นลูกหนี้ชำระดี
?          สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สินเชื่อโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ปลอดชำระเงินต้นนานเป็นพิเศษ
?          การค้ำประกันสินเชื่อ โดยผ่อนปรนค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง
?          ผลิตภัณฑ์เงินฝากดอกเบี้ยพิเศษเพื่อส่งเสริมการออม
?          การให้คำปรึกษาทางออกให้ธุรกิจ คำปรึกษาทางการเงิน ความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ และการให้ความรู้ทางการเงิน การลงทุน และการออม
?          การขายสินทรัพย์ NPA ของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชน
?          การแนะแนวอาชีพจากกรมการจัดหางาน

นอกจากนี้ การจัดงานมหกรรมในครั้งที่ 3 นี้ ได้รับความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ร่วมออกบูธเพิ่มเติม ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนและผู้ประกอบการภายในงานทำได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ?ขอเชิญชวนลูกหนี้ ประชาชน หรือผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่หรือพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วมงานมหกรรม ระหว่างวันที่ 16 ? 18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและ
แสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ ระหว่าง 10.00 น. ? 18.00 น. หรือลงทะเบียนล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์ https://ln15.gsb.or.th/WEB-DEBT/Page/Consent.aspx หรือ Scan QR Code ท้ายแถลงข่าว และสามารถรับชมกิจกรรมเสวนาออนไลน์ได้ทาง Facebook Live ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง?

QR Code สำหรับลงทะเบียนเข้าร่วมงาน

?มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่

อย่างยั่งยืน? ครั้งที่ 3 - 5

https://ln15.gsb.or.th/WEB-DEBT

QR Code สำหรับลงทะเบียนแก้ไขหรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ออนไลน์

https://www.bot.or.th/DebtFair

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

1. สมาคมสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ โทร. 02 202 1868 หรือ 02 202 1961

2. ธนาคารออมสิน โทร. 02 299 8000 หรือสายด่วน 1115

3. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02 111 1111

4. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร. 02 555 0555

5. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร. 02 645 9000

6. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย โทร. 02 265 3000 หรือสายด่วน 1357

7. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โทร. 02 169 9999

8. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โทร. 02 650 6999 หรือสายด่วน 1302

9. บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม โทร. 02 890 9999

ที่มา: กระทรวงการคลัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ