รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 24, 2008 14:59 —กระทรวงการคลัง

MacroMorning Focus ประจำวันที่ 24 มิ.ย.51
SUMMARY:
- สินเชื่อธนาคารพาณิชย์เดือน พ.ค. ขยายตัวร้อยละ 10.5 เงินฝากขยายตัวเล็กน้อย
- ภาครัฐเตรียมเจรจาสิทธ์ประโยชน์ของภาคเอกชนสำหรับการผลิตรถยนต์ดีเซล
- สหรัฐแถลงนักเก็งกำไรน้ำมันเป็นตัวการทำราคาน้ำมันแพง
HIGHLIGHT:
1. สินเชื่อธนาคารพาณิชย์เดือน พ.ค. ขยายตัวร้อยละ 10.5 เงินฝากขยายตัวเล็กน้อย
- สินเชื่อธนาคารพาณิชย์เดือน พ.ค. ขยายตัวร้อยละ 10.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือขยายตัวร้อยละ1.51 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ยอดคงค้างสินเชื่อสุทธิในระบบธนาคารพาณิชย์มีจำนวน 5.45 ล้านล้านบาท ในขณะที่เงินฝากในระบบมีการขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.87 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปรับตัวลดลงร้อยละ 1.87 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
- สศค.วิเคราะห์ว่า การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อในปี 2551 เป็นการส่งสัญญาณในด้านบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการลงทุน อย่างไรก็ตาม การหดตัวของเงินฝากในขณะที่ธนาคารได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อซึ่งส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่แท้จริงยังคงติดลบอยู่ รวมทั้งการคาดการณ์ของผู้ฝากเงินถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในช่วงต่อไปจึงส่งผลให้มีการชะลอเงินฝากลง อย่างไรก็ตาม สศค. คาดการณ์ว่าธนาคารพาณิชย์จะมีการเร่งดำเนินการปรับอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไป เพื่อเร่งระดมเงินทุนในขณะที่สถานการณ์อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำอยู่
2. ภาครัฐเตรียมเจรจาสิทธ์ประโยชน์ของภาคเอกชนสำหรับการผลิตรถยนต์ดีเซล
- รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.อุตสาหกรรมเตรียมหารือกับค่ายรถยนต์เพื่อจูงใจให้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานประเภทรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ดีเซล เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าระดับบน โดยพร้อมเจรจาสิทธ์ประโยชน์พิเศษที่คล้ายกับโครงการอีโคคาร์ หากบริษัทเอกชนพร้อมลงทุนระยะยาว โดยรัฐบาลไทยต้องการให้ค่ายรถยนต์ไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิต แต่คงไม่ลดภาษีลงมากเหมือนร้อยละ 17 อย่างเช่นอีโคคาร์เนื่องจากรถยนต์ดีเซลเป็นรถยนต์เน้นกลุ่มผู้มีรายได้สูงในขณะที่อีโคคาร์เป็นรถยนต์เครื่องเล็ก มุ่งเจาะตลาดระดับกลาง
- สศค.วิเคราะห์ว่า หากบริษัทผลิตรถยนต์ได้รับสิทธ์ประโยชน์ในการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลจะส่งผลให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ระดับสูงหันมาบริโภคน้ำมันดีเซลมากขึ้นเนื่องจากสามารถใช้งานได้ในระยะทางที่ยาวกว่าแม้ว่ามีราคาจำหน่ายปลีกที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นมาตรการดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณการบริโภคน้ำมันเบนซินและน้ำมันโดยรวมลงในระดับหนึ่ง อีกทั้งเป็นการกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนด้วย
3. สหรัฐแถลงนักเก็งกำไรน้ำมันเป็นตัวการทำราคาน้ำมันแพง
- คณะกรรมาธิการวุฒิสภาของสหรัฐแถลงว่า นักเก็งกำไรได้กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในตลาดค้าน้ำมันล่วงหน้า โดยปัจจุบันตัวเลขของนักเก็งกำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับ 8 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2543 มีนักเก็งกำไรเพียงร้อยละ 37 ที่เข้าซื้อขายน้ำมันดิบ WTI ในตลาดล่วงหน้า NYMEX แต่ในปัจจุบันมีนักเก็งกำไรมาซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าถึงร้อยละ 71 ทำให้เป็นที่น่าวิตกว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาดล่วงหน้านั้นจะเป็นการเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่ และไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานด้านอุปสงค์และอุปทาน
- สศค.วิเคราะห์ว่า การที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้าพุ่งขึ้นสูงและมีความผันผวนเนื่องจาก (1) การที่ความต้องการน้ำมันดิบโลกและปริมาณการผลิตอยู่ในระดับใกล้เคียงกันมาก (หรือมีปริมาณน้ำมันสำรองในสต๊อกต่ำ) ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่อาจ ทำให้การผลิตขาดแคลนระยะสั้น (Supply Disruption) เช่น สงครามหรือภัยธรรมชาติ จะทำให้ความต้องการมากกว่าปริมาณผลิต ผู้บริโภครายใหญ่จึงเข้าซื้อในตลาดล่วงหน้าเพื่อประกันความเสี่ยง และ (2) การที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนหันไปเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะน้ำมันที่ราคามีแนวโน้มพุ่งขึ้นต่อเนื่อง แทน ทำให้จำนวนผู้เล่นในตลาดล่วงหน้ามีจำนวนมากขึ้น ทั้งนี้ หากผู้ผลิตรายใหญ่เพิ่มกำลังการผลิตขณะที่ผู้บริโภคชะลอความต้องการลง ประกอบกับดอลลาร์สหรัฐไม่อ่อนค่าลงมากดังเช่นก่อน น่าจะทำให้ราคาน้ำมันในระยะต่อไปเริ่มมีเสถียรภาพขึ้น
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ