รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 18, 2008 10:34 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 18 พ.ย. 2551

SUMMARY:
  • กระทรวงแรงงานขอรับจัดสรรงบประมาณ 1.5 พันล้าน เพื่อช่วยเหลือคนว่างงาน
  • ญี่ปุ่น สวนกระแสลงทุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์
  • ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบ 7 ปี
HIGHLIGHT:
1. กระทรวงแรงงานขอรับจัดสรรงบประมาณ 1.5 พันล้าน เพื่อช่วยเหลือคนว่างงาน
  • กระทรวงแรงงาน เผยว่า จะเสนองบประมาณจำนวน 1,536 ล้านบาท จากงบประมาณกลางปีจำนวน 1 แสนล้านบาท เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการเลิกจ้างงาน โดยคาดว่าจะช่วยเหลือและแก้ปัญหาคนว่างงานได้ไม่น้อยกว่า 60,000 คน ทั้งนี้ จากข้อมูลสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เดือน ม.ค. — ส.ค. 51 พบว่ามีลูกจ้างทั่วประเทศถูกเลิกจ้างงานจำนวน 127,238 คน จากสถานประกอบการจำนวน 11,598 แห่ง หรือคิดเป็นเฉลี่ยคนถูกเลิกจ้างจำนวน 15,905 คน/เดือน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า จากปัญหาวิกฤติการเงินโลกคาดว่าจะ ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริง (real sector) ของประเทศไทยในช่วงปี 2552 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานของประเทศไทยเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลในปีงบประมาณ 2552 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยรัฐบาลจะได้จัดทำงบประมาณเพิ่มเติมกลางปี 1 แสนล้านบาท มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก และกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ ทำให้การขาดดุลการคลังในปีงบประมาณ 2552 คิดเป็นร้อยละ -3.5 ของ GDP
2. ญี่ปุ่น สวนกระแสลงทุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์
  • เลขาธิการ BOI เปิดเผยว่า ที่ประชุม BOI ได้พิจารณาส่งเสริมการลงทุนของ บ.ซีบีซี อิงส์ (ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุน 362 ล้านบาท ในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตฯ ต่างๆ เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์กำลังผลิตปีละ 30,200,000 ชิ้น รวมถึงการเคลือบผิวชิ้นส่วนพลาสติกด้วยโลหะ ปีละ 133,400,00 ชิ้นที่นิคมอุตฯ อมตะนคร จ.ชลบุรี ทั้งนี้ เครือซีบีซี ที่ประเทศญี่ปุ่นมี รง. ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมในหลายอุตฯ เช่น เคมีภัณฑ์ เครื่องจักร และพลาสติก เป็นต้น โดยโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนครั้งนี้ คาดว่าจะมีการจ้างงาน 1,000 คน นอกจากนี้ BOI ยังแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่า สศช. จะนำผลการศึกษาแนวทางการลงทุนเหล็กขั้นต้นคุณภาพสูงเข้าสู่ที่ประชุม ครม. วันที่ 19 พ.ย. 51 โดยให้ กท.อุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานกลางประสานงานให้เกิดการลงทุน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า แม้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเผชิญปัญหาวิกฤติการเงินโลก อย่างไรก็ตาม การเข้ามาลงทุนในไทยของ บ.อุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น สะท้อนได้ถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ การเข้ามาลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นยังส่งผลดีต่อภาวะการจ้างงาน ซึ่งจะช่วยประคองเศรษฐกิจไทยให้สามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง และหากมีการผลักดันให้เกิดการลงทุนอุตสาหกรรมเหล็กขั้นต้นได้ จะช่วยลดต้นทุนการนำเข้าเหล็กได้ในอนาคต
3. ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบ 7 ปี
  • ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีข้อมูล GDP ไตรมาสที่ 2 และ 3 เป็นตัวบ่งชี้ โดยตัวเลข GDP ของไตรมาส 3 หดตัวจากไตรมาส 2 ที่ร้อยละ -0.1 ในขณะที่ GDP ของไตรมาส 2 มีการปรับตัวเลข ให้หดตัวร้อยละ 0.9 จากไตรมาสแรก สาเหตุหลักมาจากภาคเอกชน ทั้งห้างร้านและบริษัทลดการลงทุน ภาคครัวเรือนตัดการใช้จ่าย และภาคการส่งออกที่อ่อนแอจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ลดลง อนึ่ง ภาคการเงินของญี่ปุ่นไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตการเงิน เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ญี่ปุ่นไม่ได้ลงทุนในสินเชื่อด้อยคุณภาพ (subprime) มากนัก
  • สศค. วิเคราะห์ว่า วิกฤติการเงินในตลาดโลก ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อภาคการส่งออก ประกอบกับการใช้จ่ายภายในประเทศที่ลดลงจากแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งอาจจะเห็นผลชัดเจนขึ้นในต้นปี 52 จากภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนที่น่าจะหดตัวลงอย่างชัดเจน อนึ่ง การที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นถดถอยอาจส่งผลถึงการส่งออกของไทยได้ เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้าอันดับสามของไทย มีสัดส่วนการส่งออกของไทยร้อยะ 11.9 ในปี 50

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ