รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 7 มกราคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 7, 2009 12:13 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 7 ม.ค. 2552

SUMMARY:
  • ททท. ร่วมมือกับ 200 บริษัททัวร์จีนส่งเสริมการท่องเที่ยว มั่นใจปี 2552 ท่องเที่ยวดีขึ้น
  • ยอดขายรถยนต์สหรัฐฯตกต่ำส่งท้ายปี 2551
  • โอบามาเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
HIGHLIGHT:
1. ททท. ร่วมมือกับ 200 บริษัททัวร์จีนส่งเสริมการท่องเที่ยว มั่นใจปี 2552 ท่องเที่ยวดีขึ้น
  • ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ททท. จะทำการตลาดอย่างหนักเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากเล็งเห็นว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยังมีกำลังซื้อสูง โดย ททท.ได้ลงนามในความร่วมมือกับกลุ่มบริษัท CGZL ซึ่งมีเครือข่าย 200 รายในการจัดแพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยวไทยช่วงตรุษจีน และจะทำลักษณะเดียวกันนี้ที่กรุงปักกิ่ง และนครเซี่ยงไฮ้ โดยคาดว่าในช่วงตรุษจีนจะดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาได้ประมาณ 3 หมื่นคน โดยตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวจีนเดือนละ 1 แสนคน ทั้งนี้ ททท. คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2551 มีจำนวน 14.6 ล้านคน ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2551 จำนวน 15.8 แต่คาดว่าในปี 2552 น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในปี 2551 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทยเริ่มหดตัวลงในไตรมาสที่ 3 ซึ่งหดตัวร้อยละ - 3 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงจากอัตราการขยายตัวจากร้อยละ 14.9 ในไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 4 คาดว่าการท่องเที่ยวยังคงหดตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเมืองภายในและการปิดสนามบิน อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก ในปี 2550 มีสัดส่วนถึงร้อยละ 29.1 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ดังนั้น การส่งเสริมการท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งยังคงมีกำลังซื้อสูงเนื่องจากยังไม่ได้รับผลจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง จะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวในไทยขยายตัวต่อไปได้
2. ยอดขายรถยนต์สหรัฐฯตกต่ำส่งท้ายปี 2551
  • ยอดขายรถยนต์สหรัฐฯเดือนธ.ค.51หดตัวลงถึงกว่าร้อยละ -36 ต่อปี โดยค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ 3 บริษัท อันได้แก่ไครสเลอร์ มียอดขายหดตัวลงถึงร้อยละ -53 ต่อปี ทำให้ยอดขายรวมทั้งปีอยู่ที่ 1.5 ล้านคัน หรือหดตัวลงร้อยละ -30 จากปีก่อนหน้า ในขณะที่จีเอ็ม ค่ายรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ มียอดขายในเดือนธ.ค.51ที่หดตัวลงถึงร้อยละ -31 ต่อปีด้วยยอดขายรวมทั้งปีอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน หรือหดตัวลงร้อยละ -23 จากปีก่อนหน้า และฟอร์ด มียอดขายหดตัวลงถึงร้อยละ -32 ต่อปี ทำให้ยอดขายรวมทั้งปีอยู่ที่ 1.98 ล้านคัน หรือหดตัวลงร้อยละ -21 จากปีก่อนหน้า ในขณะที่ค่ายรถถยนต์ต่างชาติ ต่างประสบกับยอดขายหดตัวกันโดยถ้วนหน้า ทำให้บางบริษัทเช่นฮุนได
  • สศค. วิเคราะห์ว่า วิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐฯและภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ ซึ่งเป็นสินค้าคงทน และเป็นเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจของการบริโภค ตราบใดที่ผู้บริโภคในสหรัฐฯยังไม่เชื่อมั้นในสภาพเศรษฐกิจ ยอดขายรถยนต์รวมไปถึงการบริโภคโดยรวมก็จะฟื้นตัวได้โดยยาก ทั้งนี้ สศค.คาดการณ์ว่า ในปี 2552 เศรษฐกิจสหรัฐฯจะหดตัวที่ร้อยละ -1.0 ต่อปี (ประมาณการ ณ เดือนธ.ค. 51) อนึ่ง ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯที่หดตัวอย่างรุนแรง จะส่งผลลบทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่อการส่งออกสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วน ตลอดจนสินค้าอื่นๆของไทยในปี 2552 ด้วย
3. โอบามาเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม วงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเน้นการลดภาษีให้แก่ชนชั้นกลาง ยกเว้นภาษีแก่ธุรกิจที่ประสบภาวะขาดทุนในปี 2551 และ 2552 ขยายเพดานค่าใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีแก่ธุรกิจ และเพิ่มการสร้างงาน นอกเหนือไปจากการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานทดแทน ซ่อมแซมถนนและสาธารณูปโภค ปรับปรุงระบบบริการสุขภาพ และพัฒนาห้องสมุด ห้องเรียน และห้องวิจัย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า มาตรการนี้มีข้อดีเนื่องจากสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งน่าจะผ่านสภาคองเกรสได้โดยง่ายเนื่องจากสมาชิกสภา ฯ ทั้งสองพรรคเห็นชอบ (bipartisan) อย่างไรก็ดี การใช้นโยบายการคลังผ่านการลดภาษีอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากการลดภาษีจำเป็นต้องจูงใจให้ประชาชนเพิ่มการใช้จ่ายมากขึ้นจาก รายได้หลังหักภาษีที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ปัจจุบันประชาชนยังไม่เชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจมากนัก เห็นได้จากการที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นประชาชนจึงอาจตัดสินใจที่จะไม่นำเงินที่ได้จากการลดภาษีมาใช้จ่ายแต่เลือกที่จะเก็บออมแทน ในขณะที่การใช้นโยบายการคลังผ่านการใช้จ่ายของภาครัฐ แม้ว่าอาจทำได้ล่าช้ากว่า อาจจะกระตุ้นระบบเศรษฐกิจโดยตรงได้มากกว่า

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ