รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 19 มกราคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 19, 2009 11:03 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 19 ม.ค. 2552

SUMMARY:
  • เตรียมเสนอ ครม. ลดค่าธรรมนียม ช่วยเหลือธุรกิจโรงแรม-ท่องเที่ยว
  • ยอดคำสั่งซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้าลดกว่าร้อยละ 20
  • นิตยสาร The Economist เชื่อมั่นเศรษฐกิจเอเชียรอดพ้นจากวิกฤตการเงินโลก
HIGHLIGHT:
1. เตรียมเสนอ ครม. ลดค่าธรรมนียม ช่วยเหลือธุรกิจโรงแรม-ท่องเที่ยว
  • เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เผยว่าได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อพิจารณากำหนดมาตรการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ได้แก่ ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า 3 เดือน ลดค่าธรรมเนียมสนามบินจากปัจจุบันร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 50 ถึงเดือนก.ย.52 ลดค่าเข้าอุทยานฯลงร้อยละ 50 ไม่เกิน 6 เดือน ลดค่าธรรมเนียมค่าประกันหม้อแปลงไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ซึ่งจะเสนอให้ที่ประชุมครม.อนุมัติในวันที่ 20 ม.ค.52
  • สศค. วิเคราะห์ว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือน ธ.ค.51 มีจำนวน 1.1 ล้านคน หดตัวลงร้อยละ -25.1 ต่อปี ต่อเนื่องจากเดือนพ.ย.ที่หดตัวร้อยละ -20.5 ต่อปี แต่ถือได้สูงกว่าที่คาดไว้เพียง 6 แสนคนในเดือนดังกล่าวจากผลกระทบของการปิดสนามปิด อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือน ธ.ค. จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเร่งขึ้นมาก โดยเป็นช่วงวันเทศกาลปีใหม่และสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้ทั้งปี 51 มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 14.6 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 0.9 ต่อปี ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์แนวโน้มการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 52 ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติจำนวน 13.8 ล้านคน หดตัวที่ร้อยละ -2.0 ต่อปี จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยจะนำรายได้เข้าสู่ประเทศทั้งสิ้นประมาณ 542.3 พันล้าน
2. ยอดคำสั่งซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้าลดกว่าร้อยละ 20
  • ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ตลาดในประเทศและตลาดส่งออกของกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อาจจะติดลบร้อยละ 10 ต่อปี ในทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าในครัวเรือน เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น พัดลม เป็นต้น เนื่องจากคำสั่งซื้อล่วงหน้าลดลงร้อยละ 20 ต่อปี ทั้งนี้ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องการให้รัฐช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ลงทุนและลูกค้ากลับคืนมา เพราะหลังจากที่มีการปิดสนามบินลูกค้าหันไปซื้อสินค้าจากประเทศอื่นและหาตลาดใหม่เพิ่มเติม
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดคำสั่งซื้อที่ลดลงของไทยเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดในภูมิภาค สะท้อนได้จากข้อมูลการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนธ.ค.51 ของประเทศไต้หวั่นซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกหดตัวลงที่ร้อยละ -41.5 ต่อปี แสดงให้เห็นว่าสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าที่มีความเชื่อมโยงกับตลาดโลกสูง และหากตลาดโลกชะลอความต้องการใช้จ่ายลง จะทำให้การส่งซื้อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ได้รับผลกระทบมาก
3. นิตยสาร The Economist เชื่อมั่นเศรษฐกิจเอเชียรอดพ้นจากวิกฤตการเงินโลก
  • นิตยสาร The Economist วิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) รวมทั้งเอเชียยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง เนื่องจากแม้ว่าเศรษฐกิจเกิดใหม่จะต้องพึ่งพิงการส่งออกมากขึ้นนับจากปี 2543 แต่การพึ่งพาการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วกลับลดลงต่อเนื่องจนต่ำกว่าระดับร้อยละ 20 แต่การส่งออกไปยังกลุ่มตลาดเกิดใหม่กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นเศรษฐกิจเกิดใหม่โดยเฉพาะเอเชียจะได้เปรียบในสองประเด็นคือ (1) จากราคาโภคภัณฑ์ที่ลดลงต่อเนื่องทำให้เอเชียซึ่งเป็นผู้นำเข้าวัตถุดิบรายใหญ่ได้ประโยชน์ และ (2) เอเชีย (ยกเว้นอินเดีย) มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ต่ำ จึงสามารถใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจเอเชียสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วกว่าส่วนอื่นของโลกในปี 2553
  • สศค. วิเคราะห์ว่าแม้ว่าเศรษฐกิจเอเชียจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากจากการส่งออกที่ลดลง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจเอเชียมีฐานะการคลังที่ดี ทำให้เอเชียสามารถใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาก โดยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนิเซีย มีสัดส่วนสูงมากเมื่อเทียบกับ GDP ถึงร้อยละ 6-18 ซึ่งน่าจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วในช่วงครึ่งหลังของปี 52

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ