รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 25 ก.พ. 2552

1. ทูตพาณิชย์ไทยในต่างประเทศปรับลดเป้าส่งออกของไทยในปี 2552

2. มูดี้ส์เผยเศรษฐกิจไทยวิกฤติหนักสุดในเอเซีย

3. ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯคาด เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นในปี 53

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะประชุมประเมินสถานการณ์การส่งออกปี 2552 โดยให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ทั่วโลกประเมินสถานการณ์การส่งออกในปี 2552 ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ในต่างประเทศต่างปรับลดเป้าหมายการส่งออกของไทย โดยคาดว่าส่งออกของไทยในปี 2552 ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะขยายตัวที่ร้อยละ 10 อินเดียขยายตัวร้อยละ 10 แอฟริกาใต้ขยายตัวร้อยละ 5-8 จีนขยายตัวร้อยละ 7 ตลาดยุโรปร้อยละ 3 และสหรัฐอเมริกาขยายตัวร้อยละ 2

• สศค. วิเคราะห์ว่าการส่งออกของประเทศไทยในปี 2552 คาดว่าจะหดตัวลงจากปีก่อนหน้า ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและจีน ทั้งนี้ คาดว่าการส่งออกสินค้าของไทยในปี 2552 ในรูปดอลลาร์จะหดตัวที่ร้อยละ -2.7 และปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการจะขยายตัวในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.6

• Moody's Economy.com แผนกวิจัยเศรษฐกิจของ Moody's Analytics ระบุในรายงานว่า เศรษฐกิจไทยเริ่มส่อเค้าย่ำแย่หนัก หลังจาก สศช. เปิดเผยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ไตรมาส 4/51 ติดลบกว่าร้อยละ -4.3 ขณะที่ผลผลิตก็หดตัวมากเกินคาดถึงร้อยละ 22.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน บ่งชี้ว่าไทยกำลังจะกลายเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกรุนแรงที่สุดในเอเชีย โดยมีปัจจัยที่ส่งผลได้แก่ ความต้องการสินค้าส่งออกหลักที่ลดลง ราคาสินค้าเกษตรลดลง และความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงปลายปีทำให้นักลงทุนต่างชาติลังเลไม่กล้าเข้ามาลงทุน รวมทั้งยังสร้างความเสียหายต่อธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอันมากอีกด้วย

• สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4/51 มีการหดตัวลงสอดคล้องกับที่ทาง สศค.ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ร้อยละ -4.5 ถึง -3.5 ต่อปี การหดตัวในไตรมาส 4/51 ส่วนหนึ่งมาจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ (ปัจจัยลบชั่วคราวเกิดขึ้นครั้งเดียว) ซึ่งทำให้ Supply side economy หดตัวลงมาก อีกทั้งเศรษฐกิจไทยในปี 52 ไม่น่าวิกฤตที่สุดในเอเชีย เพราะ แม้ว่าการส่งออกของไทยจะมีสัดส่วนต่อ GDP สูงถึงร้อยละ 70.1 ในปี 51 แต่ยังมีประเทศอื่นที่สูงกว่า เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และคาดว่า GDP ของไทยจะหดตัวต่อเนื่องมายังครึ่งปีแรกของปี 52

• ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯคาดการณ์ว่า ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะจบลงในปี 2552 นี้ และปีหน้า เศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวขึ้น ผลจากมาตรการในการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจจริงและฟื้นฟูภาคการเงิน โดยที่ในขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังประสบภาวะถดถอยอย่างชัดเจน โดยธนาคารกลางสหรัฐคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงาน ของปี 2552 น่าจะอยู่ระหว่างระดับร้อยละ 8.5 ถึงร้อยละ 8.6 ของแรงงานรวม ในขณะที่ GDP อาจหดตัวระหว่างร้อยละ -0.5 ถึงร้อยละ -1.3 ก่อนที่จะฟื้นตัวที่ร้อยละ 2.5-3.25 ในปี 2553

• สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอยอย่างชัดเจน โดย GDP สหรัฐในไตรมาส 4 ปี 51 (ตัวเลขเบื้องต้น) หดตัวร้อยละ -3.9 ต่อปี เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (qoq annualized) หรือร้อยละ -0.2 ต่อปี ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯทั้วปี 51 เติบโตที่เพียงร้อยละ 1.3 ต่อปี ในขณะที่ภาคการจ้างงานยังคงประสบปัญหาอย่างต่อเนื่องจากการปลดคนงานออกในภาคอุตสาหกรรมใหญ่ของประเทศ ในขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี มาตรการต่างๆของทางการสหรัฐฯเพื่อช่วยภาคเศรษฐกิจจริงและภาคการเงิน ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 787 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มาตรการเพื่อผู้ซื้อบ้านวงเงิน 275 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และแผนฟื้นฟูสถาบันการเงิน วงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ นั้น อาจจะช่วยพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯให้ฟื้นตัวได้ในปี 2553 นี้ โดยสศค.คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯในปี 2552 นี้ จะหดตัวที่ร้อยละ -1.2 ต่อปี

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th