ผลการบริหารจัดการหนี้สาธารณะภาครัฐ ประจำเดือนมกราคม 2552 และรายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 25, 2009 16:51 —กระทรวงการคลัง

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนมกราคม 2552 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2551 ดังนี้

1. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ

1.1 เดือนมกราคม 2552

หนี้ในประเทศ

กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้าง

หนี้ในประเทศโดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในส่วนของ FIDF1 วงเงิน 20,000 ล้านบาท และนำเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรดังกล่าว ไปชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นและเงินในบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลังที่ใช้เป็น Bridge Financing

รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยทำการ Roll Over วงเงินรวม 1,867 ล้านบาท โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ทำการ Roll Over หนี้เดิม วงเงิน 967 ล้านบาท และ 900 ล้านบาท ตามลำดับ

1.2 ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552

หนี้ในประเทศ

กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในส่วนของ FIDF1 และรัฐวิสาหกิจได้ทำการ Roll Over หนี้เดิมรวม 18,387 ล้านบาท

2. การกู้เงินภาครัฐ

เดือนมกราคม 2552

กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชย การขาดดุลงบประมาณ โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล วงเงินรวม 19,000 ล้านบาท

รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เพื่อลงทุนในโครงการของการเคหะแห่งชาติ และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย วงเงิน 2,000 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ

ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552

ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 173,780 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินของกระทรวงการคลัง 59,000 ล้านบาทและของรัฐวิสาหกิจ 114,780 ล้านบาท

3. การชำระหนี้ภาครัฐ

เดือนมกราคม 2552

กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณรวม 14,015 ล้านบาท โดยเป็นการชำระคืนเงินต้น 1,758 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 12,255 ล้านบาท

ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552

กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 29,910 ล้านบาท

รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2551

ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีจำนวน 3,471,345 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.13 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,134,734 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,047,263 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 143,939 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 136,915 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 8,494 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 49,369 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาล ค้ำประกัน และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐเพิ่มขึ้น 7,329 ล้านบาท 19,140 ล้านบาท 24,001 ล้านบาท และ 178 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 1,279 ล้านบาท

การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของ หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยหนี้ ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้นสุทธิ 7,329 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากรัฐบาลได้ทำการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท สำหรับหนี้เงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในส่วนของ FIDF1 ที่ลดลงนั้น เนื่องจากการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวที่ครบกำหนด จำนวน 50,000 ล้านบาท โดยได้ชำระคืนต้นพันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 ครั้งที่ 5/3 จำนวน 0.80 ล้านบาท จากบัญชีกองทุนเพื่อการชำระคืนเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน คงเหลือวงเงินในการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 49,999.20 ล้านบาท ซึ่งได้ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นสมทบกับเงินในบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (FIDF 1 และ FIDF 3) มาทดรองจ่ายไปก่อน จากนั้นจึงทยอยออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ วงเงินรวม 49,999.20 ล้านบาท ในเดือนธันวาคม 2551 — เดือนกุมภาพันธ์ 2552 เพื่อทยอยชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นและเงินในบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลังดังกล่าว ซึ่งในเดือนธันวาคม 2551 ได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลแล้ว จำนวน 20,000 ล้านบาท และ นำเงินที่ได้จากการประมูลไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นและเงินในบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง ทำให้ยอดหนี้เงินกู้ระยะสั้นคงเหลือ 21,913.83 ล้านบาท

สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 19,140 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน โดยบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เบิกจ่ายเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 11,480 ล้านบาท

สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 24,001 ล้านบาท รายการที่สำคัญ เกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจเป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้เบิกจ่ายเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 24,730 ล้านบาท

สำหรับหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 1,279 ล้านบาท เนื่องจากการชำระคืนดอกเบี้ยค้างจ่ายพันธบัตรของกองทุน

หนี้สาธารณะ 3,471,345 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 415,534 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.97 และหนี้ในประเทศ 3,055,811 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.03 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,297,256 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.98 และหนี้ระยะสั้น 174,089 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.02 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ส่วนประสานสัมพันธ์นักลงทุน สำนักนโยบายและแผน

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5510

--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 23/2552 25 กุมภาพันธ์ 52--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ