รายงานการเคลื่อนย้ายเงินทุน ไตรมาสที่ 1 ปี 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 20, 2009 16:53 —กระทรวงการคลัง

ไตรมาสที่ 4 ปี 2551 (ต.ค.51-ธ.ค.51) ดุลบัญชีเงินทุนเกินดุล 1,639 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 1,972 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดุลการชำระเงินเกินดุล 8,198 ล้านดอลลาร์สหรัฐ1 สำหรับสาเหตุสำคัญของการเกินดุลบัญชีเงินทุนเกิดจากการเทขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติลดลงอย่างมาก สืบเนื่องมาจากความวิตกต่อปัญหาสถานะทางการเงินของสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองของไทยลดลง แม้ว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศปรับตัวลดลง แต่ก็เป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

คาดว่าไตรมาสที่ 1 ปี 2552 (ม.ค.52-มี.ค.52) ดุลบัญชีเงินทุนจะเกินดุลเพียง 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยมีสาเหตุสำคัญมาจาก 1) การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ลดลง 2) การขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์ลดลง

1. สถานการณ์ดุลบัญชีเงินทุนไตรมาส 4 ปี 2551

ดุลบัญชีเงินทุนเกินดุล 1,639 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 1,972 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดุลการชำระเงินเกินดุล 8,198 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสาเหตุสำคัญของการเกินดุลบัญชีเงินทุนเกิดจาก 1) การลงทุนโดยตรงสุทธิอยู่ที่ระดับ 1,465 ล้านดอลลาร์ 2) การขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์ลดลงอย่างมากจาก 5,434 ล้านดอลลาร์สหรัฐช่วงเดียวกันของปี 2550 เป็น 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2551

1.1 สถานการณ์การลงทุนโดยตรงไตรมาส 4 ปี 2551

การลงทุนโดยตรงสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2551 มีมูลค่า 1,465 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 8.9 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศมีมูลค่า 893 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 4.2 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 37.9 ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีมูลค่า 4.4 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มนักลงทุนสำคัญที่มีการลงทุนในประเทศคือ นักลงทุนจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่นและฮ่องกง โดยมีมูลค่า 600 560 และ 365 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ

1.2 สถานการณ์การลงทุนในหลักทรัพย์ไตรมาส 4 ปี 2551

การลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิไตรมาสที่ 4 ปี 2551 มีเงินทุนไหลออกมูลค่า 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมีการไหลออกของเงินทุนสูงถึง 5,357 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเงินทุนไหลออกลดลงร้อยละ 87.3

การลงทุนในหลักทรัพย์ในต่างประเทศมีเงินทุนไหลเข้า (การขายหลักทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทยและส่งเงินกลับประเทศ) มูลค่า 1,187 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมีเงินทุนไหลออกสูงถึง 5,434 ล้นดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์จากต่างประเทศมีเงินทุนไหลออกมูลค่า 1,868 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนมีเงินทุนไหลเข้ามูลค่า 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การลงทุนในตราสารทุนจากต่างประเทศมีเงินทุนไหลออกมูลค่า 1,868 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนมีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนเพียง 77 ล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุที่การขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติมีมูลค่าสูง เนื่องจากปัญหาสถาบันการเงินของสหรัฐฯ และสัญญาชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าปัญหาการเมืองภายในประเทศจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นก็ตาม โดยกลุ่มนักลงทุนสำคัญที่มีการลงทุนในประเทศคือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฮ่องกง ซึ่งมีมูลค่า 755 662 และ 341 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้จากต่างประเทศมีเงินทุนไหลออก 556 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่เป็นเงินทุนไหลเข้า 75 ดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่า การซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2551 มีมูลค่าขายสุทธิ 37,232 ล้านบาท สาเหตุที่มีการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเกิดจากความวิตกต่อปัญหาสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ที่ทำให้เกิดการขายหุ้นทั่วโลกรวมถึงภูมิภาคเอเซียและประเทศไทย รวมทั้ง สถานการณ์การเมืองไทยทำให้นักลงทุนต่างชาติเคลื่อนย้ายเงินทุน

1.3 สถานการณ์การลงทุนอื่นๆ ไตรมาส 4 ปี 2551

การลงทุนอื่นๆ สุทธิไตรมาสที่ 4 ปี 2551 มีมูลค่า 855 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันจากปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 2,445 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 65

การลงทุนอื่นๆ ของชาวต่างประเทศมีเงินทุนไหลออก 1,274 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการไหลเข้าของเงินทุน 310 ล้านเหรียญสหรัฐ สำรหับการลงทุนอืนๆ ของชาวไทยในต่างประเทศลดลงเพียงเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 2,129 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

2. แนวโน้มการเคลื่อนย้ายเงินทุน ไตรมาสที่ 1 ปี 2552

คาดว่าไตรมาสที่ 1 ปี 2552 ดุลบัญชีเงินทุนจะเกินดุล 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน้อยกว่าในช่วงเดียวกันในปี 2551 ที่มีมูลค่าถึง 13,165 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และน้อยกว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 (มูลค่า 1,639 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีสาเหตุสำคัญมาจาก 1) การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ลดลง 2) การขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องจากปี 2551 แต่เป็นการขายสุทธิที่ลดลง

คาดว่าการลงทุนโดยตรงสุทธิไตรมาสที่ 1 ปี 2552 มีมูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 54.5 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เป็นไปตามข้อมูลการออกใบอนุญาตการส่งเสริมการลงทุนสำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ในระดับต่ำในไตรมาสที่ 1 ปี 2552

คาดว่าการลงทุนในตราสารทุนของชาวต่างชาติในไตรมาสที่ 1 ปี 2552 จะมีมูลค่าเงินทุนไหลออก 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากข้อมูลการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์ และบรรยากาศการลงทุนที่ได้ผลกระทบจากปัญหาการเมือง รวมทั้งความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังมีการเทขายของนักลงทุนต่างชาติ

ที่มา : Macroeconomic Analysis Group : Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ