รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 5 มิถุนายน 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 5, 2009 10:55 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 5 มิ.ย. 2552

SUMMARY:

1. ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมน้ำมันเตือนให้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำมันขาขึ้น

2. ยอดสั่งซื้อใหม่ของสินค้าคงทนสหรัฐฯ เดือนเม.ย.ขยายตัว

3. เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นฉุดกลุ่มอาหารไทยผงาด

HIGHLIGHT:
1. ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมน้ำมันเตือนให้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำมันขาขึ้น
  • ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมน้ำมันเผย ขณะนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากปัจจุบันที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส ได้ปรับตัวมาอยู่ที่ 68.6 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เนื่องจากค่าเงินสหรัฐฯอ่อนค่าลงมา ส่งผลให้นักเก็งกำไรหันมาลงทุนในตลาดน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับสต๊อกน้ำมันในสหรัฐฯเริ่มปรับตัวลดลง รวมถึงความพยายามควบคุมการผลิตตามโควตาของกลุ่มโอเปก หากสามารถควบคุมได้จะทำให้กำลังการผลิตลดลงได้อีก 900,000 บาร์เรลต่อวัน เหลืออยู่ 24.8 ล้านบาร์เรล์ต่อวัน ทำให้การไต่ขึ้นของราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสที่ระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ผลจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันทุกๆ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ต่อปี จากรณีฐาน และส่งผลให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจลดลงร้อยละ -0.2 ต่อปี จากรณีฐาน แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบาย 5 มาตรการ 6 เดือน เรียนฟรี 15 ปี ของรัฐบาล มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อไม่เพิ่มขึ้นมาก
2. ยอดสั่งซื้อใหม่ของสินค้าคงทนสหรัฐฯ เดือนเม.ย.ขยายตัว
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ของสินค้าคงทนสหรัฐฯ เดือนเม.ย.52 ขยายตัวที่ร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการกลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังจากหดตัวลงในเดือนมี.ค.ที่ร้อยละ -2.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ การขยายตัวครั้งนี้ เป็นการขยายตัวครั้งที่ 2 หลังจากที่ยอดสั่งซื้อใหม่ของสินค้าคงทนสหรัฐฯ มีการหดตัวอย่างต่อเนื่องติดต่อกันถึง 6 เดือน นับตั้งแต่เดือน ส.ค. 51 ถึงเดือนม.ค.52
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจัยที่ทำให้ยอดสั่งซื้อใหม่ของสินค้าคงทนสหรัฐฯ เดือนเม.ย. ขยายตัว มาจากแนวโน้มภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและภาคการเงินสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณดีขึ้น ทำให้การตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าคงทนได้รับแรงสนับสนุน ทั้งนี้ เครื่องชี้ทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภาคเอกชนสหรัฐฯล่าสุด ล้วนแล้วแต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นทั้งสิ้น เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนพ.ค. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 54.9 เพิ่มขึ้นมากจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 42.0 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคกลับมามีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากการบริโภคภาคเอกชนอันเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจสหรัฐฯน่าจะหลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้ในอนาคตอันใกล้
3. เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นฉุดกลุ่มอาหารไทยผงาด
  • สายธุรกิจอาหารแปรรูปฯ ในเครือ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เผยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ส่งสัญญาณฟื้น ขณะที่ยังคงหวั่นปัญหาเมลามีนจากจีน ส่งผลให้ให้ญี่ปุ่นขยายฐานการซื้อไก่แปรรูปจากไทย คาดเฉลี่ยทั้งปี 2552 มีสัดส่วนร้อยละ 35-40 ของการส่งออกไก่ไทยทั้งหมด ขณะที่กลุ่ม บ.ฉวีวรรณ กล่าวว่า ในปี 2551 เครือได้ส่งออกไก่แปรรูปไปอียู ร้อยละ 80 ของกำลังการผลิต อีกร้อยละ 20 ไปญี่ปุ่น นอกจากนี้ ก.พาณิชย์ เผยในปี 2551 ไทยมีการส่งออกไก่แปรรูปไปทั่วโลก 50,275 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 57 ต่อปี ขณะที่ช่วง 4 เดือนแรกของปี 2552 การส่งออกมีมูลค่า 15,146 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13.4 ต่อปี
  • สศค. วิเคราะห์ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่น อาทิ การแจกเงินให้ประชาชน การลดค่าทางด่วน การช่วยเหลือสภาพคล่องให้ SMEs ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัว โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเริ่มขยับเพิ่มขึ้น สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและคำสั่งซื้อเครื่องจักร และการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าอาหารของไทยมีศักยภาพและโอกาสในการเจาะตลาดญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น คิอ ไก่แปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป น้ำตาลทราย และมันสำปะหลัง ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรใช้สิทธิประโยชน์จาก JTEPA ให้มากขึ้น

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ