ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย 52 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 เพิ่มสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2496
2. อัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับร้อยละ 5 เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี 5 เดือน
3. รัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้ JICA กลับมาให้ความช่วยเหลือด้านการลงทุนและเงินกู้แก่ประเทศกำลังพัฒนาอีกครั้งหนึ่ง
4 รัฐบาลปรับวินัยทางการคลังใหม่จะทำงบประมาณเกินดุลในปี 2562 จากเดิมตั้งไว้ในปี 2554 และเสนอให้ปรับอัตราภาษีผู้บริโภคสูงขึ้นในปีงบประมาณ 2554 เพื่อเพิ่มรายได้
ดัชนีเศรษฐกิจที่ประกาศในสัปดาห์นี้
1. ดัชนีภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญล่าสุด
1. 1 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Output Index) กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (Ministry of Economic Trade and Industry) ได้เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Output) ของเดือน เม.ย. 52 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา มาอยู่ที่ระดับ 74.3 (ปี 2005=100) ซึ่งเป็นการเพิ่มสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2496 เนื่องจาก สินค้าประเภทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคและเครื่องจักรเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.7
1.2 อัตราการว่างงาน (Jobless) เดือน เม.ย 52 อยู่ที่ร้อยละ 5.0 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งจำนวนคนว่างงานเป็น3,460,000 คน เพิ่มขึ้น 710,000 คน จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า อัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับร้อยละ 5 เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี 5 เดือน
1.3. ดัชนีราคาผู้บริโภค (Core Consumer Price Index) กระทรวงมหาดไทยและการสื่อสารได้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือนยกเว้นอาหารสด (CPI, ปี 2548=100) ประจำเดือน เม.ย.52 ลดลงร้อยละ 0.1 อยู่ที่ 100.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า ดัชนีราคาผู้บริโภคได้ลดลงต่อเนื่องติดต่อกันมาหลายเดือนและส่งสัญญาณภาวะเงินฝืดเกิดขึ้น
2. JICA สนับสนุนบริษัทญี่ปุ่นขนาดเล็กลงทุนในประเทศกำลังพัฒนาเมื่อวันอังคารที่ 2 มิถุนายน 2552 รัฐบาลญี่ปุ่นโดย Overseas Economic Cooperation Council ประกาศแผนที่จะให้ JICA กลับมาให้เงินกู้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้หยุดดำเนินการไปแล้วเมื่อปี 2544 เช่นการจัดเงินทุนเพื่อการพัฒนาสังคมและพัฒนาทรัพยากรของประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งจะนำมารวมในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะนำเสนอในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2552 นี้ ที่ผ่านมาเงินกู้ของ JICA มักนำไปลงทุนในโครงการที่มีความเสี่ยงสูงจนทำให้เกิดการขาดทุนต่อเนื่อง และเมื่อมีการปรับโครงสร้างระบบธนาคารเฉพาะของรัฐของญี่ปุ่นจึงได้มีการสั่งให้หยุดการลงทุนและให้เงินกู้ดังกล่าวไป ปัจจุบัน JBIC นั้นได้ให้ความช่วยเหลือแก่กิจการญี่ปุ่นในต่างประเทศ แต่บริษัทญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็ก เงินทุนต่ำที่ไม่สามารถรับความช่วยเหลือจาก JBIC ได้ ได้แสดงความต้องการให้ JICA กลับมาให้ความช่วยเหลือด้านการลงทุนและเงินกู้อีกครั้งหนึ่ง
3. รัฐบาลปรับเป้าหมายวินัยการคลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ทำให้ภาระหนี้ของรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบันทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีในปี 2551 ต่ำกว่าเป้าหมายมาก จึงต้องออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นมากกว่าเพดานที่กำหนดไว้เดิม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลคาดว่าลดสัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลลงถึงครึ่งหนึ่งของ GDP ในสิ้นเดือนปีงบประมาณ 2556 และทำงบประมาณเกินดุลในปี 2562 จากเดิมตั้งไว้ในปี 2554 ปัจจุบันสัดส่วนหนี้ของรัฐบาลระยะยาวมีร้อยละ 168 ของ GDP ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในบรรดาประเทศอุตสาหกรรม และเสนอให้ปรับอัตราภาษีผู้บริโภคสูงขึ้นในปีงบประมาณ 2554 เพื่อเพิ่มรายได้
สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th