Macro Morning Focus ประจำวันที่ 21 ก.ค. 2552
SUMMARY:
1. นายกฯเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกของรัฐบาลช่วยลดปัญหาการว่างงาน
2. กระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขส่งออก เดือน มิ.ย. ลดลงร้อยละ 25.9
3. เหตุระเบิดที่อินโดนีเซียกระทบท่องเที่ยวไทย
HIGHLIGHT:
1. นายกฯเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกของรัฐบาลช่วยลดปัญหาการว่างงาน
- นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการของภาครัฐช่วยบรรเทาผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง โดยรัฐบาลพยายามรักษากำลังซื้อของประชาชนโดยช่วยเหลือในกลุ่มเกษตรกร แรงงาน ผู้สูงอายุ และผู้ตกงานซึ่งจะช่วยลดปัญหาการว่างงานได้บ้าง นายกฯได้มอบหมายให้รองนายกฯและรมว.คลัง ไปดูแลปัญหาด้านสินเชื่อ และอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาด้านเงินทุนของผู้ประกอบการ ซึ่งมาตรการต่างๆจะบรรเทาและชะลอผลกระทบจากจำนวนผู้ว่างงาน 2 ล้านคน ให้ไม่รุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายกังวล
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภายหลังจากรัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการไทยเข้มแข็งเพื่อรักษากำลังซื้อผนวกกับการเข้าไปดูแลปัญหาสินเชื่อและอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อบรรเทาปัญหาต้นทุนการผลิตและสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการของภาครัฐ ซึ่งมาตรการดังกล่าวช่วยชะลอการเลิกจ้างของผู้ประกอบการได้อย่างมาก โดยจำนวนผู้ว่างงาน ณ เดือน พ.ค. 52 มีจำนวนผู้ว่างงานประมาณ 0.6 ล้านคน ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนโดยตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเป็นในส่วนของภาคการเกษตรเป็นหลัก
2. กระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขส่งออก เดือน มิ.ย. ลดลงร้อยละ 25.9
- ก.พาณิชย์ เผยตัวเลขการส่งออกเดือนมิ.ย. 52 จำนวนเท่ากับ 12.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (หดตัวร้อยละ -25.9) ทั้งนี้ การส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกเท่ากับ 68.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (หดตัวร้อยละ -23.5) โดยที่สินค้าส่งออกเกือบทุกรายการหดตัวในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ ตัวเลขนำเข้าเดือน มิ.ย. 52 เท่ากับ11.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (หดตัวร้อยละ 29.3) การนำเข้า 6 เดือนแรกเท่ากับ 57.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (หดตัวร้อยละ 35.4) การนำเข้าสินค้าสำคัญที่ลดลง ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง สินค้าทุน วัตถุดิบ รวมทั้งรถยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง เป็นต้น ทั้งนี้ ส่งผลให้เดือน มิ.ย. ไทยเกินดุลการค้าที่ระดับ 936 ล้านดอลลาร์ และในรอบ 6 เดือนแรกของปีเท่ากับ 11.0 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ก.พาณิชย์คาดว่ายอดการส่งออกในครึ่งปีหลังจะหดตัวน้อยลงอยู่ที่ระดับร้อยละ -15 ถึง -19 เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกได้ถึงจุดต่ำสุดและมาตรการของ ก.พาณิชย์ที่มีส่วนช่วยภาคส่งออก
- สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกของไทยในเดือนมิ.ย. 52 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -26.6 ต่อปี ทั้งนี้ สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างเด่นชัด ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเคมีภัณฑ์ หดตัวร้อยละ -19.9 -17.7 และ -1.8 ต่อปี ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ร้อยละ -27.0 -23.4 และ -16.3 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่การส่งออกไทยไปยังหลายประเทศเริ่มมีสัญญาณหดตัวลดน้อยลงเช่น จีน เวียดนาม เป็นต้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ส่งออกไทยสามารถปรับตัวโดยหันไปส่งออกไปยังตลาดในภูมิภาคและตลาดใหม่ เพื่อทดแทนตลาดส่งออกหลักเดิม(กลุ่มประเทศ G3) โดย สศค. คาดว่า การส่งออกของไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้การส่งออกของไทยในปี 52 จะหดตัวอยู่ที่ร้อยละ -20.2 ต่อปี
3. เหตุระเบิดที่อินโดนีเซียกระทบท่องเที่ยวไทย
- ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า กรณีที่มีเหตุระเบิดที่โรงแรม 2 แห่งในกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย นั้น คาดว่าไทยน่าจะได้รับผลกระทบด้านการท่องเที่ยวด้วย เนื่องจากเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย ทั้งนี้ เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น นักท่องเที่ยวที่จองโปรแกรมต่างๆจะยกเลิกหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- สศค. วิเคราะห์ว่า การท่องเที่ยวของไทยในปัจจุบันเผชิญกับปัจจัยลบหลายประการเช่น (1) สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอน (2) ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 และ (3) ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยคาดว่าทั้งปี 52 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศ 12.2 ล้านคนคิดเป็นอัตราการหดตัวลงร้อยละ 16.1 ต่อปี ในขณะที่หากสถานการณ์การก่อการร้ายในภูมิภาคมีมากขึ้นจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว อาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวหดลงกว่าที่คาด
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th