สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้
คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน โดยนักวิเคราะห์ 5 รายมองว่าเงินบาทในช่วงสัปดาห์นี้มีแนวโน้มอ่อนค่าลง อันเป็นผลจากมุมมองของนักลงทุนที่เริ่มเปลี่ยนแปลง หลังจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาด ทำให้นักลงทุนเริ่มมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะฟื้นตัวเร็วกว่า ประเทศอื่น ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น รวมทั้งทำให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้น โดยคาดว่าธนาคาร กลางสหรัฐฯ อาจจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2010 ส่วนนักวิเคราะห์ 4 รายมองว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นประกอบกับเงินทุนที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องในตลาดหลักทรัพย์ไทย น่าจะผลักดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นไปได้อีก ทั้งนี้คาดว่าธปท. ยังคงดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าเร็วเกินไปอีกด้วย
คาดว่า Bond Yield อายุ 2 ปี จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีนักวิเคราะห์ 7 รายมองว่า Yield น่าจะปรับตัวขึ้นตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ส่วนนักวิเคราะห์อีก 2 รายมองว่า Yield ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง เนื่องจากยังคงมีความต้องการลงทุนจากนักลงทุนที่ลดความเสี่ยงจากพันธบัตรระยะยาวอยู่
สำหรับ Bond Yield อายุ 10 ปี นักวิเคราะห์ทั้ง 9 รายมองว่า อัตราผลตอบแทนมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะมีการประมูลพันธบัตร ระยะยาวในสัปดาห์นี้ รวมทั้งผลประชุม FOMC ที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีมุมมองในเชิงบวกต่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ประกอบกับความต้องการลงทุน ในสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีลดระดับลง หลังจากนักลงทุนเริ่มมีความหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น
คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์ 5 รายคาดว่า SET จะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯ ดีเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น อีกทั้งในสัปดาห์นี้ บจ.ไทย ทั้งหมดจะประกาศผลกำไร ส่วนนักวิเคราะห์อีก 4 รายมองว่า SET จะปรับตัวลง เนื่องจากตลาดจะมีความผันผวนในระดับสูง จากการเก็งกำไรผลประกอบการ และหากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า อย่างต่อเนื่องจะทำให้ SET ปรับค่าลง โดยเฉพาะหลังจบรอบการประกาศงบของ บจ. ไทย
นักวิเคราะห์คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิใน SET เนื่องจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ส่วนนักลงทุนสถาบันจะขายสุทธิใน SET เนื่องจากจะเริ่มทยอยขายทำกำไร
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th