Macro Morning Focus ประจำวันที่ 27 ส.ค. 2552
Summary
1. คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติคงอัตราดอกเบี้ยอาร์พี 1 วันที่ร้อยละ 1.25
2. ผู้บริหารซิตี้กรุ๊ป พบนายกฯ เชื่อมั่นไทยมีศักยภาพน่าลงทุน
3. เศรษฐกิจมาเลเซียไตรมาส 2 หดตัวร้อยละ -3.9 ต่อปี ส่งสัญญาณฟื้นตัว
Highlight
1. คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติคงอัตราดอกเบี้ยอาร์พี 1 วันที่ร้อยละ 1.25
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ คงอัตราดอกเบี้ยอาร์พี 1 วัน ไว้ที่ร้อยละ 1.25 ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน โดย กนง. กล่าวเผยถึงเหตุผลในการคงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจจะไม่ฟื้นตัวมีน้อยลง ซึ่งเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 52 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยหดตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน และขยายตัวเป็นบวกเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 52 นอกจากนี้ ยังมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม ที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยไม่สร้างแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อ
- สศค. วิเคราะห์ว่า การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (RP 1 วัน) ถือว่ายังอยู่ในระดับที่เหมาะสมเนื่องจากเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 52 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยหดตัวร้อยละ -4.9 ต่อปี หดตัวน้อยลงจากไตรมาส 1 ปี 52 ที่หดตัวร้อยละ -7.1ต่อปี และขยายตัวที่ร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขณะที่ GDP เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าไตรมาส 2 เริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนเช่นกัน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้น และความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอาจเป็นปัจจัยกดดันต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะต่อไป
2. ผู้บริหารซิตี้กรุ๊ป พบนายกฯ เชื่อมั่นไทยมีศักยภาพน่าลงทุน
- ผู้บริหารของซิตี้กรุ๊ป กล่าวชื่นชมรัฐบาลไทยหลังมีการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ปี 52 พร้อมแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและมองว่าไทยมีศักยภาพสำหรับการขยายธุรกิจของกลุ่มธนาคาร Citi ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในด้านธุรกิจบัตรเครดิต ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาส 2 ส่วนหนึ่งมาจากการดำเนินนโยบายและการใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลยังต้องเดินหน้าทำงานหนักต่อไปเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและประสิทธิภาพสูงสุด เป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยถือว่ายังคงมีศักยภาพและมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน เนื่องจากในไตรมาส 2 ปี 52 จีดีพีหลังปรับฤดูกาลกลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังจากหดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส โดยมีการขยายตัวที่ร้อยละ 2.3 (qoq) โดยได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการคลังที่เริ่มส่งผลอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้การบริโภคและการลงทุนภาครัฐหลังปรับฤดูกาลขยายตัวร้อยละ 1.0 และ 12.8 (qoq) ตามลำดับ นอกจากนั้น การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว โดยมีอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 0.8 และ 1.6 (qoq) ตามลำดับ ทั้งนี้ในช่วงครึ่งหลังของปี 52 ภาคเอกชนคาดว่าจะกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนหลักอีกครั้ง จึงจำเป็นต้องเร่งรัดมาตรการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการลงทุนไม่ให้ชะลอลง
3. เศรษฐกิจมาเลเซียไตรมาส 2 หดตัวร้อยละ -3.9 ต่อปี ส่งสัญญาณฟื้นตัว
- มาเลเซีย ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ประกาศ GDP ในไตรมาส 2 ปี 52 พบว่าหดตัวร้อยละ -3.9 ต่อปี หดตัวน้อยกว่าไตรมาสแรกที่หดตัวร้อยละ -6.2 ต่อปี และดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะหดตัวร้อยละ -5.1 ต่อปี ทั้งนี้ เศรษฐกิจในเอเชียปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก อันเป็นผลของมาตรการทางการคลังและการเงินที่หลายประเทศได้ประกาศใช้ในช่วงที่ผ่านมา
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจมาเลเซียที่หดตัวน้อยกว่าไตรมาสก่อนนั้น มาจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวร้อยละ 0.5 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่หดตัวร้อยละ -0.7 ต่อปี และการลงทุนที่หดตัวร้อยละ -9.8 ต่อปี หดตัวน้อยกว่าไตรมาสก่อนที่หดตัวร้อยละ -10.8 ต่อปี อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าและบริการยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -17.3 ต่อปี จากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -15.2 ต่อปี นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนและปรับฤดูกาลแล้ว เศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัวร้อยละ 3.0 ชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวจากภาวะถดถอยแล้ว ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจมาเลเซียในปี 52 จะหดตัวที่ร้อยละ -5.3 ต่อปี (ประมาณการ ณ เดือนมิ.ย. 52)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th