รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 5 พฤศจิกายน 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 5, 2009 10:50 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 5 พ.ย. 2552

Summary:

1. เวิลด์แบงก์ชี้เศรษฐกิจไทยปีหน้าโตร้อยละ 3.5 ต่อปี

2. ออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย

3. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

Highlight:
1. เวิลด์แบงก์ชี้เศรษฐกิจไทยปีหน้าโตร้อยละ 3.5 ต่อปี
  • ธนาคารโลกเผยขณะนี้เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณที่จะฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่าในปี 53 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตร้อยละ 3.5 ต่อปี ขณะที่ระยะกลางในปี 54-56 จะขยายตัวในระดับต่ำไม่ถึงร้อยละ 5 ต่อปี เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงอีกหลายปัจจัยโดยเฉพาะทางด้านการเมืองซึ่งจะส่งผลต่อนโยบายลงทุน ในส่วนของภาคการส่งออกของไทยในปี 52 คาดว่าจะติดลบที่ร้อยละ -12.7 จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบร้อยละ-14.1 พร้อมเสนอแนะให้ไทยลดการพึ่งการส่งออกในอนาคต เนื่องจากในระยะยาวถ้าเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เช่น สหรัฐและยุโรปมีปัญหาอีกก็จะกระทบส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/52 มีการฟื้นตัวอย่างเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า เห็นได้จากที่เครื่องชี้ด้านอุปทานบางตัวสามารถกลับมาขยายตัว (+%yoy) ได้อีกครั้งหลังจากประสบวิกฤติ เช่น ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือน ก.ย. ที่ขยายตัวร้อยละ1.0 โดยเฉพาะในหมวดยานยนต์ที่มีการผลิตเร่งขึ้นมาก สอดคล้องกับการส่งออกและการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชัดเจนขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงทำให้ สศค.คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 53 จะสามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ3.3 โดยมีแรงเสริมที่สำคัญจากภาครัฐผ่านมาตรการไทยเข้มแข็ง
2. ออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งล่าสุดปรับขึ้นร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.5 หลังจากที่ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 7.25 เหลือเพียงร้อยละ 3 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 49 ปี โดยธนาคารกลางออสเตรเลีย ระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่เป็นประเทศคู่ค้าหลัก เป็นแรงหนุนให้เศรษฐกิจของออสเตรเลียปรับตัวดีขึ้น และทำให้ต้องตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นการสะท้อนว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียถึงการฟื้นตัวชัดเจนเห็นได้จากตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 2 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ที่ขยายตัวร้อยละ 0.4 อันเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล นอกจากนี้ ตัวเลขอัตราการว่างงานที่ลดลงมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.7 แสดงว่าภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานเริ่มบรรเทาลงทำให้รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มผ่อนคลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การฟื้นตัวของออสเตรเลียส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยไปออสเตรเลีย ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 41.7 ต่อปี ในเดือนก.ย. 52
3. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ธปท. ได้เปิดเผยว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ในช่วงเดือน ต.ค. 52 ได้กลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 0.4 ต่อปี ถือเป็นครั้งแรกหลังจากที่หดตัวต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 52 ทั้งนี้ ธปท. ได้ยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นจะไม่เป็นปัจจัยกดดันให้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในช่วง 3 เดือนข้างหน้า เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำยังคงมีความจำเป็นต่อการเอื้อให้เศรษฐกิจขยายตัว ทั้งนี้ ระดับราคาน้ำมันที่ 75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนถือเป็นปัจจัยสำคัญส่งผลต่อการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อ
  • สศค. วิเคราะห์ว่าอัตราเฟ้อเดือน ต.ค. ที่ขยายตัวเป็นบวก เนื่องจากปัจจัยราคาไฟฟ้าและน้ำประปาปรับตัวสูงขึ้นที่ร้อยละ 23.7 ต่อปี ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยฐานต่ำของราคาสาธารณูปโภคจากผลของ 5 มาตรการเพื่อลดค่าครองชีพแก่ประชาชนในปีก่อน และระดับราคายาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 13.6 ต่อปี จากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตของทั้ง 2 สินค้า มิใช่ปัจจัยจากราคาน้ำมัน โดยที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวลดลงร้อยละ -4.6 ต่อปีแม้ราคาน้ำมันดิบโลกจะสูงขึ้นกว่าช่วงปีที่ผ่านมา แต่ได้รับผลจากค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นมากทำให้ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี สศค.คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วง 2 เดือนข้างหน้าขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่อง และทั้งปีคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเท่ากับร้อยละ -0.8 ต่อปี

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ