รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 18, 2009 11:09 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 18 ธ.ค. 2552

Summary:

1. โตโยต้าเผยยอดขายเดือนพ.ย. 52 ขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 53 เดือน

2. ประชาชนแห่ฝากเงินกว่าหมื่นล้านในงานเคทีบี แฟร์

3. ธนาคารกลางฮ่องกงแสดงความวิตกถึงความเสี่ยงฟองสบุ่ในภาคอสังหาริมทรัพย์

Highlight:
1. โตโยต้าเผยยอดขายเดือนพ.ย. 52 ขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 53 เดือน
  • บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ในเดือน พ.ย.52ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ด้วยยอดขาย 5.7 หมื่นคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 ต่อปี นับเป็นอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 53 เดือน ในส่วนของตลาดรถยนต์นั่งซึ่งมียอดขาย 2.4 หมื่นคัน ขยายตัวถึงร้อยละ 32 ต่อปี ขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (รวมปิกอัพ) ขยายตัวร้อยละ 18 ต่อปี และรถปิกอัพ 1 ตัน รวมกับพีพีวี เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.9 ต่อปี สูงสุดในรอบปีเช่นกัน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์รวมในประเทศปรับตัวสูงขึ้นในเดือน พ.ย.52 สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ตลอดจนข้อเสนอพิเศษที่แต่ละค่ายนำมากระตุ้นการซื้อเพื่อผลักดันยอดขายในช่วงสิ้นปี ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2552 ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศจะหดตัวที่ร้อยละ -12.0 ถึง -15.0 ต่อปี
2. ประชาชนแห่ฝากเงินกว่าหมื่นล้านในงานเคทีบี แฟร์
  • กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในงาน “เคทีบี แฟร์ 2009” ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างมาก จากโครงการเงินฝากประจำระยะเวลา 3 เดือน ดอกเบี้ยร้อยละ 4 ซึ่งนับเป็นการจ่ายดอกเบี้ยสูงกว่าปกติถึงร้อยละ 3.25-3.35 เพราะปัจจุบันธนาคารขนาดกลางและใหญ่จ่ายดอกเบี้ยฝากประจำ 3 เดือนที่ร้อยละ 0.65-0.75 และยังสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี โดยหลังเปิดรับจองสิทธิเพียงวันเดียวมียอดเงินฝาก 1.04 หมื่นล้านบาท
  • สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝากในงานเคทีบี แฟร์ 2009 ที่ระดับร้อยละ 4.00 สูงกว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เฉลี่ย 3 เดือนในปัจจุบันที่อยู่ที่ระดับ 0.70 ต่อปี และสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือนและอายุ 5 ปี ที่ระดับ 1.36 และ 3.87 ตามลำดับจึงเป็นเหตุผลทำให้ได้รับการตอบรับอย่างมาก ทั้งนี้ ดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงมากดังกล่าวไม่น่าจะสะท้อนภาวะสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ที่มีมากกว่า 1.7 ล้านล้านบาท แต่สะท้อนถึงผลตอบแทนของทางเลือกการลงทุนอื่นในระดับความเสี่ยงเดียวกันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ
3. ธนาคารกลางฮ่องกงแสดงความวิตกถึงความเสี่ยงฟองสบุ่ในภาคอสังหาริมทรัพย์
  • Hong Kong Monetary Authority หรือธนาคารกลางฮ่องกงออกมาแสดงความวิตกกังวลถึงความเสี่ยงของราคาทรัพย์สินปรับตัวลดลงอย่างฉับพลัน โดยทีผ่านมา ราคาสินทรัพย์ในฮ่องกงได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยดัชนีฮั่งเส็งปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 จากช่วงต้นปี และราคาบ้านได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน ทั้งนี้ หาก risk appetite ของนักลงทุนปรับลดลงหรือมีสัญญาณความเสี่ยงในเศรษฐกิจจีนก็อาจทำให้ราคาสินทรัพย์ในฮ่องกงตกลงอย่างฉับพลันได้
  • สศค. วิเคราะห์ว่าสาเหตุของราคาสินทรัพย์ฮ่องกงที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายของฮ่องกงที่อ้างอิงกับ Fed Fund rate ที่อยู่ในระดับที่ต่ำจึงเป็นแรงส่งเสริมให้เก็งกำไรในตลาดหลักทรัพย์และภาคอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น ฮ่องกงจึงมีความเสียงหากมีเงินทุนไหลออกอย่างฉับพลัน ทั้งนี้ ภาคการส่งออกของไทยไปยังประเทศฮ่องกงมีสัดส่วนคิดเป็นอันดับที่ 7 หรือร้อยละ 6.3 ของภาคการส่งออกของไทยทั้งหมด นอกจากนี้ ฮ่องกงยังเป็นประตูการส่งออกของจีนซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 โดยมีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 10.2 ดังนั้นจึงควรมีการติดตามสถานการณ์ราคาทรัพย์สินของฮ่องกงอย่างใกล้ชิด

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ