คณะกรรมการ FOMC กล่าวถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตลอดจนตลาดแรงงานที่เริ่มกระเตื้องขึ้น นับตั้งแต่การประชุมครั้งก่อนในเดือนธันวาคม 2552 ปริมาณการใช้จ่ายของผู้บริโภคขยายตัวที่ระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงได้รับแรงกดดันจาก (1) ตลาดแรงงานที่อ่อนตัว (2) รายได้ส่วนบุคคลที่ขยายตัวในระดับปานกลาง (3) ความมั่งคั่งของครัวเรือน (Household Wealth) ที่ลดลง และ (4) ภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ ในส่วนของภาคธุรกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของปริมาณการลงทุนด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ซอฟแวร์ ในขณะที่ ปริมาณการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรยังคงชะลอตัว และมีความลังเลในการขยายปริมาณการจ้างงาน อนึ่งคณะกรรมการ FOMC เห็นว่าตลาดสินเชื่อยังคงตัวในภาวะที่สามารถส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจถึงแม้ระดับการปล่อยกู้ของธนาคารจะยังคงชะลอตัวก็ตาม
ในส่วนของภาวะเงินเฟ้อ คณะกรรมการ FOMC เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อจะทรงตัวที่ระดับต่ำอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากแรงกดดันด้านราคาที่ลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับการคาดการณ์เสถียรภาพของระดับเงินเฟ้อในระยะยาว
คณะกรรมการ FOMC มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระหว่างร้อยละ 0 และร้อยละ0.25 เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสร้างเสถียรภาพทางราคาและคาดการณ์ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากปริมาณการใช้ ทรัพยากร (Resource Utilization) และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำ ประกอบกับการคาดการณ์เสถียรภาพของระดับเงินเฟ้อในระยะยาว ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงดำเนินมาตรการแทรกแซงตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่อไป ตามที่ได้อนุมัติงบประมาณรวมทั้งสิ้น 1.25 ล้านล้านเหรียญสรอ. เพื่อซื้อคืนตราสารหนี้หนุนโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ได้รับการค้ำประกันโดยหน่วยงานของรัฐ หรือที่เรียกว่าAgency Mortgaged-Backed Securities รวมทั้งงบประมาณอีก 175 พันล้านเหรียญสรอ. เพื่อซื้อคืนตราสารหนี้ประเภท Agency Debt ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยหน่วยงานของทางการสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นไตรมาสแรกของปี 2553
ทั้งนี้ มาตรการเพื่อปรับปรุงภาวะตลาดเงิน ซึ่งประกอบไปด้วย (1) Asset-Backed Commercial Paper Money Market Mutual Fund Liquidity Facility (2) Commercial Paper Funding Facility (3) Primary Dealer Credit Facility และ (4) Term Securities Lending Facility นั้น ส่วนใหญ่จะสิ้นสุดการบังคับใช้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 ตามที่ได้รายงานในโอกาสแรก นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ จะร่วมกันดำเนินการเพื่อสิ้นสุดข้อตกลงแลกเปลี่ยนเงินตราชั่วคราว (Temporary Swap Arrangements) ที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 และธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มปรับลดการแทรกแซงภายใต้มาตรการ Term Auction Facility ในช่วงต้นปี2553 นอกจากนี้ ในส่วนของ Term Asset-Backed Securities Loan Facility คณะกรรมการ FOMC คาดการณ์การสิ้นสุดการบังคับใช้ในวันที่ 30 มิถุนายน 2553 สำหรับตราสารหนี้หนุนโดยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าที่ทำขึ้นใหม่ (New-issue Commercial Mortgage-Backed Securities) และวันที่ 31 มีนาคม 2553 สำหรับตราสารหนี้หนุนโดยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ทั้งนี้ อาจมีการปรับเปลี่ยนแนวทางดังกล่าวให้เหมาะสมกับการส่งเสริมเสถียรภาพทางการเงินและการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th