FPO WEEKLY CONSENSUS (15 กุมภาพันธ์ 2553)

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 16, 2010 10:20 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

  • ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้คาดว่าจะปรับตัวอ่อนค่าลง โดยนักวิเคราะห์ 8 ราย เห็นว่า ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าอยู่จากแรงกดดันเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ที่อาจไม่เร็วอย่างที่คาดหวังไว้ หลังจากปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศต่าง ๆ ในยุโรปเริ่มชัดเจนขึ้น และกลุ่มสหภาพยุโรปยังไม่สามารถหามาตรการที่ชัดเจนมาแก้ปัญหา ดังกล่าวได้ รวมทั้งธนาคารกลางของจีนได้ออกมาปรับขึ้น Reserve Requirement ของธนาคารในประเทศอีกครั้ง เพื่อชะลอการปล่อยกู้ที่มากเกินไปในช่วงปีซึ่งอาจส่งผล ให้เกิดฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์ได้ รวมทั้งปัญหาการเมืองของไทยที่เริ่มรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงใกล้ถึงวันตัดสินคดียึดทรัพย์ของอดีตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 26 ก.พ. 53 อาจทำให้เป็นแรงกดดันอีกด้านหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้
  • สำหรับ Bond Yield อายุ 2 ปี คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์ 7 ราย เห็นว่า อัตราผลตอบแทนระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากวิกฤตการเงินในกลุ่มประเทศPIIGS เริ่มคลี่คลายทำให้นักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า แต่ทั้งนี้นักลงทุนบางกลุ่มก็ยังมีความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นอยู่ พอสมควร และในสัปดาห์นี้ จะมีการประมูลพันธบัตร ธปท. ระยะเวลา 2 ปี จำนวน 45,000 ล้านบาทอีกด้วย
  • คาดว่า Bond Yield อายุ 10 ปี จะเพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์ 6 ราย เห็นว่า อัตราผลตอบแทนมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกันกับ Bond Yield อายุ 2 ปี เนื่องจากมีการประมูล LB155A จำนวน 13,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าอัตราผลตอบแทนน่าจะเพิ่มขึ้นประกอบกับใกล้การประมูล LB196A (Benchmark 10 ปี) ในต้นเดือนหน้าน่าจะมีการทยอยขายเก็งกำไรออกมาก่อนผลการประมูล
  • คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวลดลง โดยนักวิเคราะห์ 8 ราย เห็นว่า SET จะปรับตัวลดลง คาดว่ามาจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ปัจจัยภายในประเทศมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยปัจจัยจากต่างประเทศ คือ ปัญหาการคลังในยุโรป ซึ่งทางการสหรัฐฯ เริ่มหวั่นต่อภาวะอัตราการว่างงานอยู่ในเกณฑ์สูง เนื่องจากไม่มีมั่นใจในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
  • นักวิเคราะห์ 7 ราย คาดว่า ในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิ เนื่องจากตลาดเอเชียน่าจะปรับตัวไม่ดีนักภายใต้เงื่อนไข มาตรการดูดสภาพคล่องของรัฐบาลในเอเชีย ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวดีมากในปีก่อน และค่าเงินดอลลาร์แข็งต่อเนื่อง ทำให้ยังลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และนักวิเคราะห์ 4 ราย เห็นว่า นักลงทุนสถาบันจะขายสุทธิเช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่า ยังไม่มีปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ขณะที่ปัจจัยลบต่างประเทศยังคงมีน้ำหนักต่อการตัดสินใจการลงทุน
ความเห็น สศค.
  • คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิ เนื่องจากกังวลต่อปัญหาการเมืองภายในประเทศและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศต่าง ๆ ในยุโรปเริ่มเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับยังไม่สามารถหามาตรการที่ชัดเจนมาแก้ปัญญาดังกล่าวได้ นอกจากนั้น การออกมาตรการคุมเข้มทางการเงินของจีน โดยการจำกัดปล่อยสินเชื่อ สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้น

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ