รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 24, 2010 12:14 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2553

Summary:

1. กระทรวงพาณิชย์เตรียมระบายน้ำตาล 1 แสนกระสอบออกสู่ตลาดเพื่อรักษาระดับราคา

2. โกลเบล็กฯ ชี้ ราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น ไตรมาส 4/53 มีโอกาสแตะ 21,400 บาท

3. อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์เดือน พ.ค.53 สูงขึ้นร้อยละ 3.2 ต่อปี

Highlight:
1. กระทรวงพาณิชย์เตรียมระบายน้ำตาล 1 แสนกระสอบออกสู่ตลาดเพื่อรักษาระดับราคา
  • กระทรวงพาณิชย์ เตรียมพิจารณาแก้ไขปัญหาราคาขายปลีกน้ำตาลทรายภายในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากพบว่ามีโรงงานน้ำตาลบางแห่งได้กักตุนสินค้า ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาสถานการณ์ราคาน้ำตาลที่ปรับตัวสูงขึ้น กระทรวงพาณิชย์จึงพิจารณาที่จะนำน้ำตาลทรายโควตาพิเศษของกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 1 แสนกระสอบ ออกมาบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภคก่อน นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้กักตุนน้ำตาลทราย
  • สศค.วิเคราะห์ว่า ราคาขายปลีกน้ำตาลทรายในประเทศที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น มีสาเหตุมาจากการกักตุนน้ำตาลของโรงงานบางแห่ง ประกอบกับประเทศอินโดนีเซียมีความต้องการบริโภคน้ำตาลสูงขึ้นมากจนอาจประสบปัญหาขาดแคลนน้ำตาลภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาน้ำตาลในตลาดโลกล่าสุด ณ เดือนพ.ค. มีการหดตัวลงร้อยละ -4.5 ต่อปี ทำให้คาดว่าแรงกดดันต่อราคาน้ำตาลในอนาคตอาจจะไม่มากนัก
2. โกลเบล็กฯ ชี้ ราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น ไตรมาส 4/53 มีโอกาสแตะ 21,400 บาท
  • นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (จำกัด) กล่าวถึงแนวโน้มราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลังของปี 53 ว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยแรงหนุนสำคัญจากความวิตกกังวลในปัญหาหนี้สินของยุโรปที่มีโอกาสขยายวงกว้างไปยังประเทศอื่นๆในแถบยุโรปและภาคสถาบันการเงิน และความกังวลว่าจะเกิดภาวะเงินเฟ้อจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นปัจจัยต่อเนื่องที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในระดับสูง
  • สศค.วิเคราะห์ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงมาจากการที่นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้นเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ทั้งนี้ การที่ราคาทองคำอยู่ในช่วงขาขึ้นทำให้ยอดการส่งออกทองคำของไทยยายตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยล่าสุดเดือน พ.ค. 53 ยอดการส่งออกทองคำขยายตัวสูงถึงร้อยละ 521.3 ต่อปี ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การส่งออกของไทยในเดือนพ.ค. ขยายตัวสูงที่ร้อยละ 42.1 ต่อปี
3. อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์เดือน พ.ค.53 สูงขึ้นร้อยละ 3.2 ต่อปี
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์ รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์ในเดือน พ.ค.53 สูงขึ้นร้อยละ 3.2 ต่อปี ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 14 เดือน โดยเป็นผลมาจากราคาสินค้าหมวดอาหาร ราคาอสังหาริมทรัพย์และค่าขนส่งที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 1.6 และ 1.5 ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ อัตราค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้นหลังตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นก็เป็นปัจจัยกดดันทางด้านเงินเฟ้ออีกเช่นกัน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์เดือน พ.ค.53 ที่เพิ่มสูงขึ้นมากเป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจสิงคโปร์เริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งสะท้อนได้จาก GDP ของสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 1 ปี 53 ที่เติบโตได้สูงถึงร้อยละ 15.5 ต่อปี นอกจากนี้ การส่งออกสินค้า (ไม่รวมน้ำมัน) ยังสามารถขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยล่าสุดขยายตัวสูงถึงร้อยละ 28.2 ในไตรมาสที่ 1 ปี 53 ทำให้คาดว่า ธนาคารกลางของสิงคโปร์อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคที่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปในช่วงก่อนหน้านี้ เช่น ออสเตรเลียที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 4.25 ต่อปี เป็นร้อยละ 4.50 ต่อปี และมาเลเซียที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 2.25 ต่อปี เป็นร้อยละ 2.50 ต่อปี

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ